“ภูมิธรรม”ระบุนายกฯยังไม่ส่งสัญญาณปรับครม.ชี้มหาดไทยอยู่กับเพื่อไทยหรือไม่ ขึ้นกับ“อิ๊งค์”ยัน รมต.ไม่เสียกำลังใจทำงานและขรก.ไม่เกียร์ว่าง “ประเสริฐ”ยันนายกฯ ยังไม่แจ้งปรับ ครม.หลังสื่อปูดนั่งมท.1 ฟาก“ภูมิใจไทย”แบะท่าคุยกัน หาก“เพื่อไทย”อยากคุมมหาดไทยเอง แนะหากอยากปรับ ครม.ก็ควรปรับใหญ่ เปิดโอกาสทุกพรรคเปลี่ยนบุคคลทำงาน ด้าน“สุชาติ”ปัดดีล“โอกาสใหม่”ชี้แค่นัดสส.กินข้าวคุยกัน ยังไม่ถึงเวลา ท้าใช้ข้อบังคับพรรค อุบ มีกี่คนย้ายตาม“เอกนัฏ”ยัน“รทสช.”ยังไม่แตก เผย คุย สส.แล้ว ปมร่วมเฟรม“สุชาติ”แค่ไปกินข้าว โยนปรับครม.อำนาจนายกฯขณะที่“อุ๊งอิ๊งค์”ชิ่งปมร้อนชายแดน-ปรับครม.

เมื่อวันที่ 3มิถุนายน2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีการส่งสัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้รัฐมนตรีและสมาชิกพรรคเพื่อไทยทราบแล้วหรือยัง ว่า ยังไม่มีเลย ตนเห็นแต่ในสื่อ ซึ่งทุกคนก็ไม่มีใครมีปัญหา ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ อยู่ที่ท่านนายกรัฐมนตรีตัดสินใจอย่างไรก็อย่างนั้น

ยันรมต.ไม่หวั่นไหว-ขรก.ไม่เกียร์ว่าง

เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่กระทรวงมหาดไทยต้องมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า รอให้นายกฯพิจารณาเมื่อถามว่า กระแสข่าวการปรับครม. ที่เกิดขึ้นบั่นทอนจิตใจรัฐมนตรี และทำให้ข้าราชการเกียร์ว่างหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่ารัฐมนตรีแต่ละท่านเกิดความหวั่นไหวแต่อย่างใด เมื่อซักครู่เจอรัฐมนตรีก็ในงานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิ.ย. ซึ่งรัฐมนตรีก็ยังไม่มีใครรับรู้เรื่องการปรับครม.อะไรทั้งสิ้น ส่วนเรื่องเกียร์ว่าง ตนเชื่อในเกียรติของข้าราชการประจำที่มีหน้าที่ทำงานแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ดูแลประเทศชาติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ไม่มีอะไร

“ประเสริฐ”เผยนายกฯยังไม่แจ้งปรับครม.

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) กล่าวถึงกระแสนายกรัฐมนตรี จะปรับครม. โดยนายประเสริฐจะได้ไปนั่งเป็นรมว.มหาดไทย ว่า นายกฯ ยังไม่ได้แจ้งไม่มีอะไรเมื่อถามว่า นายกฯได้มีการพูดเรื่องการปรับครม. และระยะเวลาที่จะปรับ กับสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ยังไม่มี สถานการณ์ตอนนี้ยังปกติอยู่

เมื่อถามต่อว่า หากมีการปรับไปนั่งรมว.มหาดไทย พร้อมหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า จริงๆแล้ว นั่งตรงไหนก็ทำงานได้ ถามต่อว่า พรรคเพื่อไทยอยากได้เก้าอี้ รมว.มหาดไทย อย่างที่นายทักษิณพูดหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกฯ เพราะท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล

ถามต่อว่า มีข่าวว่าคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่อนุญาติให้รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ออกกฎหมายระดับกฎกระทรวง หรือกฤษฎีกา เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในการทำงาน 3 หน่วยงานคือมหาดไทย ดีอี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งตนขอกลับไปดูความเห็นของกฤษฎีกาก่อน ก่อนที่จะสรุป เพราะยังไม่มีการพบปะพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ เมื่อถามอีกว่า ใช่ประเด็นนี้หรือไม่ ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมองว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่สุด และอยากให้ พรรคเพื่อไทยเข้าไปกำกับดูแลแทน นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่ทราบ

“ภูมิใจไทย”แนะควรปรับใหญ่ไปเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ โดยเฉพาะกระแสข่าวการปรับ ครม. ซึ่งมีรายงานว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ประสานมาที่แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้พิจารณาเรื่องการปรับ ครม.แล้ว ซึ่งแกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้ยืนยันแล้วว่า ขณะนี้พรรคภูมิใจไทย ยังไม่มีแนวคิดเรื่องปรับ ครม.ในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทย แต่หากเป็นความต้องการของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจำเป็นต้องปรับครม. และเพื่อให้การทำงานแก้ปัญหาของประชาชน มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาลก็ควรจะปรับ ครม. แบบปรับใหญ่ทั้งคณะ เพื่อเปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรี และ ทุกพรรคได้ปรับเปลี่ยนบุคคลมาดำรงตำแหน่ง หรือหากจะปรับเปลี่ยนกระทรวงที่รับผิดชอบ ให้ตรงกับนโยบายหลักของพรรค ก็จะได้มีการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน และแก้ปัญหาของประเทศได้มากที่สุด

คาดนายกฯเรียกคุยภายในเดือนนี้

มีรายงานว่าในส่วนของผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย ได้พิจารณาสถานการณ์รัฐบาล และการบริหารประเทศ ที่มีปัญหาวิกฤต หลายด้าน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหายาเสพติดที่บ่อนทำลายคนในชาติ และปัญหาความมั่นคง การกระทบกระทั่งกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งชายแดนกัมพูชา ชายแดนพม่า ซึ่งรัฐบาลควรจะแก้ปัญหาเหล่านี้ก่อน ไม่ควรนำปัญหาการเมืองมาซ้ำเติมสถานการณ์ อีกทั้งนี้ การปรับ ครม.ไม่ควรจะเป็นการปรับเพื่อแก้ปัญหาการเมืองในรัฐบาล หรือเพื่อชิงความได้เปรียบ เสียเปรียบ ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งเป็นประโยชน์ของพรรคการเมืองมากกว่าประโยชน์ของประชาชน

อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน แจ้งว่าจะนำข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทยไปแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ และพิจารณา โดยคาดว่านายกรัฐมนตรี จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล พูดคุยให้ได้ข้อสรุปก่อนพิจารณาปรับครม.ภายในเดือนมิถุนายนนี้

“สุชาติ”ปัดดีล“โอกาสใหม่”แค่นัดกินข้าว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปรากฏภาพรับประทานอาหาร กับกลุ่ม ส.ส.พรรครทสช.ได้พูดคุยกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการรทสช. หรือยังว่า บางสิ่งบางอย่างเราต้องให้เกียรติ เราอาศัยบ้านเขาอยู่ เราต้องให้ความเคารพ ส่วนระเบียบและข้อบังคับพรรคก็ว่าไปตามนั้น ตนไม่ได้ซีเรียส สื่อมวลชนถามว่าเจอกันกินข้าวกัน คุยอะไรกัน ตนก็ต้องพูดตรงๆ จะโกหกยังไง ต้องพูดความจริง หากตนบอกว่าไม่ได้คุยอะไร จะเชื่อหรือไม่ นี่คือความเป็นจริงที่ต้องพูด แค่ไปนั่งหารือกันเฉยๆ ยังไม่ถึงเวลา ไม่มีใครรู้ว่าเรากินข้าวกันมา5-6เดือนแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เราคุยกันมานาน

เมื่อถามว่า นายเอกนัฏ ระบุว่าพร้อมรับฟังปัญหาภายในพรรค นายสุชาติ กล่าวว่า ตนอาศัยบ้านเขาอยู่ ต้องยอมรับว่าพรรคก็ดีสำหรับคนบางกลุ่ม แต่สำหรับตนบริบทอาจไม่เหมาะสม แต่อาจจะเป็นเฉพาะตน คนอื่นเราไม่ได้ไปยุ่ง ต้องขอโทษด้วยหากทำให้ไม่สบายใจ แต่ก็ต้องมองทิศทางตัวเราว่าจะทำอย่างไร

เมื่อถามว่า ปิดดีลกับพรรคโอกาสใหม่แล้วหรือยัง นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ได้มีดีลอะไร การเมืองก็ต้องคิดของเรา จะไปดีลอะไร จะไปคุยอะไรกับใครเราต้องมีมารยาทพอ ตนไม่เคยไปคุยกับพรรคอื่น เรามีสิทธิ์คุยและคิดกับเพื่อนเรา สื่อมวลชนก็ถามถึงภาพที่หลุดออกไป ตนไม่ได้เป็นคนทำให้ภาพหลุดออกไป ยืนยันว่าผู้แทนทุกคนมีเอกสิทธิ์ส่วนเรื่องข้อบังคับพรรคที่มีการแก้ไข ตนน้อมรับทุกอย่าง ตนทำอะไรต้องยอมรับความเป็นจริง ขอถามว่า เมื่อมีการพูดถึงข้อบังคับแล้ว จะทำอะไรกับตนก็ทําเลย ตนไม่ได้ซีเรียส แต่ถ้าตนลาออ ประชาชนจะมองยังไง

“เสี่ยเฮ้ง”เขย่า“รทสช.”อีกรอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังปรากฏภาพการนัดรับประทานอาหารร่วมกันของ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)บางส่วน นำโดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครทสช.ท่ามกลางกระแสข่าวว่าการเลือกตั้งครั้งหน้านายสุชาติอาจจะไปร่วมงานกับพรรคโอกาสใหม่

ล่าสุด ได้ภาพปรากฏร่วมดื่มกาแฟกับบรรดา สส.ของพรรคอีกครั้ง อาทิ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.เขต 1 ชุมพร,นายสันต์ แซ่ตั้ง สส.เขต2 ชุมพร, นายสุพล จุลใส สส.เขต3ชุมพรและน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.เขต10 นครศรีธรรมราช ที่ยังคงนำโดยนายสุชาติ เมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 2มิถุนายน2568 ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า สส.กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าร่วมวงในครั้งแรก ซึ่งทั้งหมดเป็น สส.ในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด โดยเฉพาะจ.ชุมพร ที่มาหมดทั้ง 3 เขต ซึ่งภาคใต้ถือเป็นพื้นที่ฐานสำคัญของพรรครทสช.

“เอกนัฏ”ยัน“รทสช.”ยังไม่แตก

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความแตกแยกภายในพรรคว่า เดี๋ยวต้องไปคุยกัน ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้ตนกับ สส.ส่วนใหญ่ก็คุยกันตลอดเวลา คิดว่าปัญหาทุกอย่างคุยกันได้

เมื่อถามย้ำว่า พรรครทสช.ยังอยู่กันแน่นหรือแตกแล้ว นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังอยู่กัน ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพ สส.ร่วมทานข้าวกับนายสุชาติ นั้น ทาง สส.ได้มาบอกกับตนว่าแค่ไปทานข้าวกันเฉยๆ หรืออย่างก่อนหน้านี้ได้มีการปล่อยข่าวว่าจะมีคนย้ายออกจากพรรค หลายคนก็ออกมาปฏิเสธแล้ว คิดว่าเป็นการเข้าใจผิด เรื่องนี้ทุกพรรคการเมืองถือว่าเป็นเรื่องปกติ อาจมีสิ่งที่คาใจ หรือมีปัญหากันบ้าง แต่เราก็เปิดรับฟังอยู่แล้ว ซึ่งก่อนช่วงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ตนก็พูดคุยกับ สส. ตามปกติ

เมื่อถามถึงกระแสกดดันนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้ารทสช. ให้ออกจากตำแหน่ง นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนคิดว่าตำแหน่งของนายพีระพันธุ์อยู่สูง จึงต้องมีแรงกดดันเป็นธรรมดา เพราะการทำงานต้องประสบกับความท้าทาย ซึ่งเชื่อว่า นายพีระพันธุ์เจอกับปัญหา แต่ท่านไม่ค่อยพูด เป็นคนที่สู้งานอย่างเดียวในส่วนคดีถุงยังชีพของนายพีระพันธุ์ที่อยู่ในชั้นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เชื่อว่า ท่านชี้แจงได้หมด และพร้อมไปชี้แจงกับ ป.ป.ช. และหน่วยงานอื่นๆ

โยนปรับครม.เป็นอำนาจนายกฯ

เมื่อถามถึง กระแสข่าวปรับครม.นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตอนนี้ตนยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ตราบใดที่อยู่ตรงนี้ก็ทำงานเต็มที่ ส่วนการปรับครม. ก็เข้าใจกันดีว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนอนาคตเป็นอีกเรื่องเมื่อถามว่า มีการส่งสัญญาณมาจากนายกรัฐมนตรีบ้างหรือยัง นายเอกนัฏ ยิ้ม พร้อมกล่าวว่า ไม่มี และที่ผ่านมาตนก็ทำงานกับนายกรัฐมนตรีได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอดไม่มีปัญหาอะไรเมื่อถามถึง กรณีรทสช. มีการแก้ข้อบังคับเรื่องการพ้นสมาชิกภาพ จากการสร้างความขัดแย้งหมายถึงนายสุชาติ ใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า การแก้ข้อบังคับทำมาตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.แล้ว ตั้งแต่การประชุมใหญ่พรรค เป็นการปรับแก้ให้ตรงกับรัฐธรรมนูญ คงไม่ได้ไปแก้เพราะรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อถามว่า เป็นการแก้เพื่อขู่อีกฝ่ายหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่ ยืนยันว่า ไม่ได้มีนัย อะไรทั้งสิ้น เพราะการประชุมใหญ่ทุกปีก็มีการแก้ข้อบังคับพรรค เพราะข้อบังคับบางตัวยังไม่มีความชัดเจนเมื่อถามว่า ได้มีการเคลียร์ใจกับนายสุชาติแล้วหรือยัง นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังเลยครับ แต่วันนี้ไม่แน่ เพราะอาจจะได้เจอ