ยื่น5.39หมื่นชื่อ

ขอทำประชามติ

ไม่เอาก.ม.กาสิโน

รบ.ยันเดินหน้า

ภาคประชาชนยื่น 5.39 หมื่นรายชื่อต่อกกต.ขอให้เสนอรัฐบาล พิจารณาทำประชามติ เอา-ไม่เอากาสิโน อย่าใช้กลไกสภาฯ เสียงข้างมากลากไป ด้าน ‘สงคราม’ ยันพร้อมเสนอร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงฯ เข้าสภาฯ ก.ค.นี้ตั้งเป้าดึงเงินลงทุน 6 แสนล้านบาท ฟื้นเศรษฐกิจ วอนกลุ่มการเมืองจับเข่าคุยกันดีว่าก่อม็อบ

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน พร้อมภาคีเครือข่าย นำโดยนายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน พร้อมขบวนไรเดอร์ นำรายชื่อประชาชน 53,900 รายชื่อ ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้จัดทำประชามติ เอา-ไม่เอากาสิโน ตาม พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ

นายธนากร กล่าวว่า การออกเสียงของประชาชนมีการลงทุนลงแรงและความยากลำบากกว่าจะได้ 53,900 รายชื่อ ใช้เวลานาน 120 วัน จึงอยากให้รัฐบาลฟังเสียงประชาชน เพราะนี่คือเสียงเจ้าของประเทศ และอยากจะวิงวอนต่อรัฐบาลว่าสังคมมีทางออก เราไม่ได้ต้องการให้เกิดความขัดแย้งหรือแตกแยก เมื่อสังคมและกฎหมายมีทางออก ดังนั้นการทำประชามติจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย ดังนี้ 1.เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้เสนอในนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ถ้ารัฐบาลยังดันทุรังทำไป อาจจะถูกร้องเรียนว่าผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งถ้ารัฐบาลยอมทำประชามติ แล้วมีเสียงเห็นชอบกับการมีกาสิโน นั่นเท่ากับรัฐบาลมีฉันทามติจากเสียงประชาชน 2.ถ้ามีการทำประชามติจะเป็นผลดีต่อผู้ลงทุน ถ้ารัฐบาลยังดึงดันออกกฎหมายไปในสภาผู้แทนราษฎรกฎหมายฉบับนี้จะไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม และเมื่อใดก็ตาม ที่มีการขับเคลื่อนทำกาสิโนที่ไหน ประชาชนในพื้นที่นั้นมีโอกาสสูงมากที่จะลุกขึ้นมาต่อต้าน และ 3.การทำประชามติจะเป็นผลดีแน่นอนต่อการลดความขัดแย้งของประชาชน เพราะเป็นฉันทามติร่วมกัน จะเห็นต่างอย่างไรก็ต้องยอมรับ

นายธนากร กล่าวอีกว่า ตามขั้นตอนจากนี้กกต.มีเวลาตรวจสอบความถูกต้องไม่เกิน 30 วัน ทั้งเอกสารและขั้นตอนการเข้าชื่อว่าตรงตามเงื่อนไขหรือไม่ จากนั้นก็ต้องส่งเรื่องและรายชื่อทั้งหมดไปยังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก่อนจะถูกพิจารณานำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อบรรจุวาระการประชุม ซึ่งตามกฎหมายกำหนดว่า ครม.ต้องลงมติเห็นชอบในการทำประชามติ อย่างไรก็ตามแม้กฎหมายไม่ได้ระบุชัดถึงการเข้าชื่อ แต่เชื่อว่าทางสำนักเลขาธิการฯ จะตรวจสอบรายชื่ออีกครั้ง และเชื่อว่ารัฐบาลได้ยินเสียงของประชาชนแล้ว

ด้านสมาพันธ์เครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนมัธยม และสมาพันธ์ครูทั่วประเทศ ได้นำความห่วงใยของครูและผู้ปกครองทั่วประเทศที่สะท้อนออกมา มอบหนังสือให้กับทางเลขาธิการมูลนิธิฯ เพื่อเป็นพลังร่วมคัดค้านกาสิโนและการพนันออนไลน์ ที่รัฐบาลบอกว่าจะทำให้ถูกกฎหมาย โดยเห็นด้วยกับการทำประชามติที่ถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย ไม่ใช่ลักหลับ เหมือนกับรัฐบาลทำมากว่า 8 หมื่นชื่อ ไม่มีส่วนของภาคประชาชนเลย สิ่งนี้เป็นความบริสุทธิ์โปร่งใสของภาคประชาชนที่ทำงานกันมากว่า 1 ปี

วันเดียวกัน นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญ ในเดือนกรกฎาคมนี้ พรรคร่วมรัฐบาลพร้อมเสนอร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสู่การประชุมสภาฯ เพื่อให้สมาชิกพิจารณาร่วมกัน ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมชี้แจงในทุกมิติทั้งนี้ การเสนอ พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อเปิดทาง ส.ส.ในฐานะผู้แทนประชาชนพูดคุยกันด้วยเหตุและผล นำข้อดีและข้อเสียมาหารือกันรัฐบาลพร้อมชี้แจงถึงความสำคัญของโครงการนี้ให้ประชาชนรับทราบ หากผ่านสภาฯ นำไปสู่การปฏิบัติได้ เงินลงทุนมหาศาลกว่า 600,000 ล้านบาทจะเข้ามาที่ประเทศไทย สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี เพราะมีการจ้างงานและกำลังซื้อสินค้ามหาศาล

“ขอเรียกร้องไปยังกลุ่มการเมืองที่ต้องการสร้างความวุ่นวายในประเทศ ควรนำปัญหาที่มีอยู่มาหารือกับรัฐบาล มานั่งคุยกัน รัฐบาลพร้อมจะเปิดเวทีรับฟังปัญหาของทุกกลุ่มหากสามารถแก้ปัญหาให้ประเทศและประชาชนได้ก็จะเร่งดำเนินการทันที เพราะการจัดการชุมนุมไม่เกิดประโยชน์ รวมทั้งอาจส่งผลให้นักลงทุนมองประเทศไทยว่าไม่มีเสถียรภาพ ดังนั้นอยากให้ทุกฝ่ายพูดคุยกันด้วยเหตุและผล จะเกิดประโยชน์กว่าที่จะมาสร้างความวุ่นวายทางการเมืองเหมือนอดีตที่ผ่านมา” นายสงครามกล่าว