วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
เขมรแตกตื่น แห่กลับประเทศนับหมื่นล้นด่าน กัมพูชาชิงตัดเนต-ไฟไทย

เขมรแตกตื่น แห่กลับประเทศนับหมื่นล้นด่าน กัมพูชาชิงตัดเนต-ไฟไทย

วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : กัมพูชา เขมร ชายแดนไทย ตัดเนต ตัดไฟ ปิดด่าน
  •  

เขมรแตกตื่น

แห่กลับประเทศนับหมื่นล้นด่าน

กัมพูชาชิงตัดเนต-ไฟไทย

‘อิ๊งค์’อ้างเรื่องเข้าใจผิด

มท.1กร้าวพร้อมร่วมรบ

ปลุก‘คนไทยใช้ของไทย’

 

นายกฯชี้เขมรเข้าใจผิด ไทย จะตัดไฟ-เนต แจงเหตุท่าทีรบ.เขมรเปลี่ยนเพราะมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่ใช่ของทางการ ยันทุกมาตรการที่จะใช้ต้องออกจากที่ประชุม สมช.เท่านั้น ยืนยันไทยยึดเวทีเจบีซี คลี่คลายสถานการณ์โดยสันติวิธี รอดูเจรจารอบแรกก่อนประเมินผลกำหนดแนวทางต่อไป ด้านมท.1ประกาศกร้าวบนเวทีให้นโยบายผวจ.4จว.ชายแดนเขมรต้องดูแลความปลอดภัยปชช. ถ้าจำเป็น ก็พร้อมมาร่วมรบปกป้องบ้านเมืองด้วย เมินมาตรการเขมรไม่ทำให้ขวัญหนีดีฝ่อได้ ฮึ่มอธิปไตยอย่ามาข้ามกัน แหลมมาพร้อมสู้ ย้ำถ้าจำเป็นต้องตัดไฟ-เน็ตทำได้ทันที ปลุกคนไทยแก้เผ็ด 6 มาตรการแบนสินค้าไทย ไม่ซื้อก็ดีไม่เดือดร้อน ขณะที่เขมรนับหมื่นแห่กลับปท. เผยถูกเรียกตัวกลับ และกลัวด่านปิด


เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน เว็บไวต์ขแมร์ไทม์สของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วย เพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน

เขมรสั่งแบนหนัง-ละครไทย

กระทรวงข่าวสารกัมพูชาออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่ง แจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 12 มิถุนายนเป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้ กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนเป็นต้นไปเช่นกัน

ประกาศ6มาตรการแบนสินค้าไทย

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่าสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงมาตรการ 6 ข้อ เพื่อกดดันฝั่งไทยว่า กรณีที่ฝ่ายไทยไม่ยอมเปิดด่านชายแดนที่ปิดไปฝ่ายเดียว กัมพูชาต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.ประกาศระงับการนำเข้าสินค้าไทย หมายความว่า หยุดใช้สินค้าไทยและเปลี่ยนไปใช้สินค้าในประเทศ หรือสินค้าจากประเทศอื่นแทน 2.เตรียมความพร้อมซื้อสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์เกษตรที่ชาวกัมพูชาเคยส่งออกมาไทย โดยหาตลาดในประเทศและต่างประเทศแทน 3.ส่งผู้ป่วยที่เคยมารักษาตัวในประเทศไทย ไปโรงพยาบาลในประเทศ หรือสถาบันการแพทย์ประเทศอื่น

4.เตรียมความพร้อมรับและจัดการโอกาสการจ้างงานสำหรับแรงงานที่จะกลับจากประเทศไทย ปัจจุบันกัมพูชาเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานหลายหมื่นตำแหน่งในภาคอุตสาหกรรม เกษตร และก่อสร้าง แรงงานกัมพูชาอาจเลือกกลับโดยสมัครใจก่อนไทยจะส่งตัวกลับ 5.กองกำลังติดอาวุธต้องอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมตอบโต้ป้องกันกรณีที่เกิดการรุกราน 6.จังหวัดใกล้ชายแดนต้องเตรียมอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย จัดหาอาหาร ยารักษาโรค และวัสดุจำเป็นอื่นให้เพียงพอ

หากประเทศไทยไม่สามารถแก้ปัญหาการเปิดด่านชายแดนและกลับสู่ภาวะปกติได้ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดำเนินมาตรการดังกล่าวทั้งหมด

ด่านจันทบุรีวุ่นเขมรชิงปิดประตูไม่แจ้ง

วันเดียวกันเพจ NBT Chanthaburi รายงานว่า จันทบุรี วุ่นหนัก ประตู รั้วข้ามแดน ฝั่งกัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ปิดโดยไม่แจ้ง รถตกค้างหน้าด่าน คนรอข้ามพรมแดน หยุดชะงัก ที่สำคัญช่วงเช้ารถสินค้าจากฝั่งไทยข้ามแดนไปส่งของยังกลับเข้าประเทศไม่ได้ ต่อมาฝั่งกัมพูชาได้เปิดประตูเล็ก เพื่อเป็นช่องทางสำหรับคนเดิน

คนขแมร์นับหมื่นแตกตื่นหนีกลับปท.

อีกด้านหนึ่ง นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเดินทางไปตรวจการเดินทางเข้า-ออก ของชาวไทยและกัมพูชา บริเวณด่านพรมแดนคลองลึก จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบว่าชาวกัมพูชาที่ทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทยจำนวนมากแห่เดินทางกลับประเทศ ต่อแถวรอตรวจหนังสือเดินทางจนล้นอาคารผู้โดยสารขาออก ด่านตม.อรัญประเทศฯออกมาด้านนอก

โดยพ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12 สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ร้อย ทพ.1201 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้วจัดระเบียบและอำนวยความสะดวก

นายปริญญาเผยว่า จากการที่มีชาวกัมพูชาจำนวนมากแห่เดินทางกลับประเทศ เพราะมีข่าวลือว่าไทยจะปิดด่านพรมแดนคลองลึกฯ ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นเพียงข่าวลือที่มีการปลุกกระแสปลุกปั่นให้เกิดความโกลาหลกันเท่านั้น ด่านพรมแดนคลองลึกยังเปิดเวลา 08.00น.-16.00 น.และอนุโลมให้นักเรียนชาวกัมพูชาสามารถข้ามพรมแดนไปโรงเรียนได้ก่อนเวลาเปิดปิดด่าน

รบ.เขมรประกาศเรียกพลเมืองกลับปท.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบชาวกัมพูชาที่เข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้วมากกว่า 10,000 คน พากันปิดร้านค้าในตลาดโรงเกลือ รีบเดินทางกลับประเทศ กรอปกับมีแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทยแห่เดินทางกลับมาสมทบ ทำให้หน้าด่านพรมแดนคลองลึกมีชาวกัมพูชาแออัดยัดเยียดรอเดินทางกลับประเทศ คาดมีคนเขมรเดินทางกลับประเทศทางด่านพรมแดนคลองลึกฯวันนี้ไม่ต่ำกว่า 10,000คน ชาวกัมพูชาเหล่านี้เผยสาเหตุที่แตกตื่นรีบอพยพกลับประเทศ เนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน รมว.มหาดไทยกัมพูชาออกประกาศเรียกคนเขมรที่อยู่ในไทยกลับประเทศ ทำให้คนเขมรกลัวว่าด่านพรมแดนคลองลึกฯอาจถูกสั่งปิด หรืออาจมีการสู้รบทำให้แห่เดินทางกลับประเทศ เพื่อความปลอดภัย

นายกฯชี้เขมรเข้าใจผิดไทยตัดน้ำ-ไฟ

ส่วนปฎิกิริยาของรัฐบาลไทย หลังการออกมาประกาศแบนสินค้าไทย และ 6 มาตรการตอบโต้ที่รัฐบาลไทยเปิดปิดด่านเหลื่อมเวลากับเขมร ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกัมพูชาปิดด่านชายแดนฝั่งกัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรีว่า เป็นเรื่องที่สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาพูดเรื่องจะไม่รับสินค้าไทยใช่หรือไม่ ตอนแรกกัมพูชาได้ยินว่าไทยจะตัดน้ำตัดไฟบริเวณชายแดน ซึ่งเป็นมาตรการที่ต้องผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก่อน เรายังไม่ได้ประกาศอย่างนั้นออกไป เป็นเพียงมาตรการเตรียมความพร้อมแต่เรายังไม่ได้ดำเนินการ อาจมีการเข้าใจผิดกันเกิดขึ้น

ยันไทยยังไม่ตัดน้ำ-ไฟย้ำต้องมีมติสมช.

นายกฯกล่าวต่อว่า ตนได้สอบถามนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะอาจมีความเข้าใจผิดว่ารัฐบาลได้ออกแถลงการณ์จะตัดน้ำตัดไฟ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่พูดคุยกันได้ตกลงกันเรียบร้อยว่าทั้งสองฝ่ายปรับกำลังและไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น และเรารอที่จะประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย - กัมพูชา (เจบีซี) วันที่ 14 มิถุนายนก่อน จึงต้องฝากสื่อสารว่าเรื่องตัดน้ำตัดไฟรัฐบาลยังไม่มีแถลงการณ์ออกไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องประสานโดยตรงไปยังผู้นำกัมพูชาหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เดี๋ยวจะให้กระทรวงการต่างประเทศประสานดูข้อมูลนั้นมาอย่างไร เป็นกระบวนการอย่างไร แน่นอนว่าทุกสถานการณ์ต้องเตรียมความพร้อม เมื่อผ่านสมช.แล้วถึงจะเกิดขึ้นได้ แต่เรื่องนี้ยังไม่ผ่านสมช.แต่เป็นกระบวนการที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ซึ่งไม่รู้ว่าข้อมูลหลุดไปอย่างไร จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด

ชี้มีข้อมูลไม่เป็นทางการทำเข้าใจผิด

ถามว่าประเด็นที่เกิดขึ้นจะกระทบการประชุม เจบีซี ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า วันที่ 14 มิถุนายน ในการประชุมจะพูดคุยรายละเอียดกันมากขึ้นว่าจะทำอะไรกันบ้าง เพราะเวลาคุยกันเป็นเรื่องๆไม่ใช่ภาพรวมทั้งหมด และหลังประชุมจะแถลงความคืบหน้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถามอีกว่าเพราะเหตุใดเมื่อเราตกลงกันได้ พอผ่านไปวันสองวันกัมพูชาก็เปลี่ยนไป น.ส.แพทองธารตอบว่า มันมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่ใช่ข้อมูลทางการ ก็ต้องอธิบาย

ย้ำใช้JBCแก้ขัดแย้ง-พร้อมถ้าปัญหาบานปลาย

เวลา 16.10 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวิตผ่าน x ระบุว่า เมื่อสถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา เดินมาถึงจุดที่จะมีการเจรจากันผ่านกลไก JBC วันที่ 14 มิถุนายนแล้ว รัฐบาลไทยขอใช้พื้นที่ในเวทีดังกล่าว คลี่คลายสถานการณ์โดยสันติวิธี และยังคงมาตรการเดิมที่มีข้อสรุปร่วมกันเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 เรื่องการเมืองระหว่างประเทศโดยเฉพาะเพื่อนบ้านควรคุยกันอย่างมิตร การแสดงท่าทีหรือกำหนดแนวทางต่างๆผ่านโซเชียลมีเดีย แทนที่จะส่งผลเชิงบวก อาจกลายเป็นเพิ่มความขัดแย้ง ซึ่งหากสถานการณ์ลุกลาม เราก็พร้อมทุกประการโดยไม่หวั่นไหว มาตรการเพื่อรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประเทศไทยและประชาชนชาวไทย ได้เตรียมการอย่างรัดกุม รอบด้าน พร้อมดำเนินการทันที แต่เรายังคงเจตจำนงที่จะเริ่มต้นในกรอบ JBC และขอรักษาบรรยากาศเพื่อนำไปสู่การเจรจา หลังจากนั้นจะประเมินผลจากการเจรจารอบแรก เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการต่อไป

มท.1ย้ำ4ผวจ.ลูกหลานไทยต้องปลอดภัย

วันเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานประชุมมอบนโยบาย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และยโสธร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนภัยสาธารณภัยระดับพื้นที่

นายอนุทินกล่าวตอนหนึ่งว่า สถานการณ์น้ำไม่ต่างจากสถานการณ์ชายแดน เรายึดหลักเดียวกัน แต่มีทหารช่วยเหลือจัดการดูแลความปลอดภัยความมั่นคง ส่วนฝั่งมหาดไทยประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่แล้ว ซึ่งต้องจัดให้มีหลุมหลบภัยโดยเฉพาะที่โรงเรียน อีกทั้ง มีการสำรวจสภาพหลุมหลบภัย เร่งซ่อมแซม สร้างเพิ่มเพื่อรองรับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ ให้ความมั่นใจกับประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องไม่ให้เกิดความเสียหายหรือบาดเจ็บ แม้แต่แมวข่วนกับลูกหลานของเรา ไม่ได้เด็ดขาด

ลั่นพร้อมมาร่วมรบปกป้องแผ่นดิน

“ประกาศวันนี้เลยว่าไม่ต้องกังวล กระทรวงมหาดไทยมั่นใจว่าทหารจะไม่ให้มีการรุกล้ำเข้ามาในบ้านเรือนของพวกเรา เต็มที่ก็อยู่ตรงแนวนั้น ถ้ารุกกันมาขนาดนั้น มันก็ไม่มีกระทรวงมหาดไทย ไม่มีทหาร ไม่มีตำรวจแล้ว มีแต่คนไทยมีแต่นักรบแล้ว ถ้ามาอย่างนั้น ผมก็จะมารบกับเขาด้วย จะกลัวอะไรปกป้องบ้านเมือง ชีวิตหนึ่งเจอแบบนี้สักครั้ง ได้ทำอะไรที่รู้สึกว่าได้ปกป้องผืนแผ่นดินของเรา ปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของเรา ต้องมองว่าถ้าจำเป็นก็ต้องทำ เป็นหน้าที่คนไทยทุกคน ไม่ได้เป็นหน้าที่รั้วของชาติอย่างเดียว“ นายอนุทิน กล่าว และว่า ตนรับสโลแกนมาจากนายกฯ มหาดไทยเป็นบ้าน ทหารเป็นรั้ว รั้ว รั้วก็ต้องแข็งแรง บ้านก็ต้องแข็งแรง คนในบ้านก็ต้องปลอดภัย เราทำงานร่วมกันไม่แยกกัน ไม่มีทำงานแบบว่าถ้าทำแบบนี้เราจะได้คะแนนมากกว่า ขณะนี้ เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะนำความปลอดภัยมาให้ประชาชน

เย้ยมาตรการเขมรไม่ทำให้ขวัญหนีดีฝ่อ

นายอนุทินกล่าวอีกว่า ถึงแม้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง แต่บอกได้เลยว่าเรพร้อม ย้ำว่าประชาชนของเราต้องปลอดภัย ตนไม่มีอะไรที่จะให้สัญญากับพ่อแม่พี่น้องได้มากกว่านี้ วันนี้เรื่องความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านไม่ต้องห่วง มาตรการอะไรที่เขาประกาศออกมา ก็เป็นเรื่องของฝั่งโน้นบ้านโน้น ไม่เกี่ยวกับเรา เขาไม่สามารถออกมามาตรการอะไรที่ทำให้เราขวัญหนีดีฝ่อได้เป็นอันขาด อธิปไตยอย่ามาข้ามกัน ถ้าข้ามเราก็ต้องพร้อมสู้ ทหารพร้อมมานานแล้ว แม่ทัพภาค 2 ให้สัมภาษณ์ เราก็เช่นกัน

กร้าวถ้าจำเป็นพร้อมตัดน้ำ-ไฟ-เน็ตทันที

นายอนุทินยังกล่าวด้วยว่า ความขัดแย้งขอให้เกิดขึ้นที่แนวรบ ถ้าเรามาเจอเพื่อนบ้านของเราที่เขามาทำมาหากินในบ้านเมืองของเรา เขายังเป็นเพื่อนได้ เขาเป็นคนงาน เป็นคนร่วมหอพัก เป็นคนทำมาหากินโดยสุจริต เราต้องเราต้องปฏิบัติตัวกับเขาด้วยความเป็นอารยะ อย่าทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่ม เราต้องดูแลคนของเขาในบ้านเรา ส่วนเขาก็ต้องดูแลคนของเราในบ้านเขา ซึ่งก่อนหน้านี้ มท.1 ของกัมพูชาโทรมาหาตน เราให้คำมั่นสัญญารับปากกันว่า เราจะดูแลคนของกันและกัน ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้เป็นเรื่องของรัฐบาล เรื่องความมั่นคงของประเทศให้เป็นเรื่องของทหาร

“วันนี้หากจำเป็นต้องตัด ไฟตัดอินเทอร์เน็ต ตัดน้ำ ที่เราส่งขายให้ฝั่งโน้น ถ้าฝ่ายความมั่นคงแจ้งมาเราพร้อมปิดทันที แต่อย่าให้มีอะไรรุนแรงไปมากกว่านี้ จะได้ทำมาหากินได้ เพราะอย่างไรเราก็อยู่กันอย่างนี้ แต่ที่แน่นอนคือ แผ่นดินของเราตารางนิ้วเดียวก็เสียไม่ได้ เราขีดของเราไว้เรียบร้อยแล้ว และของเรามีความถูกต้อง อยากให้ทุกคนมั่นใจ”นายอนุทินกล่าว

ไม่ซื้อไม่ใช้ของไทยก็ดีไม่เดือดร้อน

หลังให้นโยบาย นายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีกัมพูชาออกหลายมาตรการ จากความขัดแย้งระหว่างไทย - กัมพูชาจะรับมืออย่างไรว่า เขาออกมาตรการอะไรมา ถือเป็นเรื่องของเขา แต่หากถามว่ามาตรการเหล่านี้มีอะไรที่เราเดือดร้อนหรือไม่ ตนคิดว่าไม่มี อย่างการไม่ใช้ไฟหรืออินเตอร์เน็ตของเรา เราก็ไม่ได้เดือดร้อน หรือการไม่ดูละครไทย ตนมองว่าคนไทยก็ไม่เดือดร้อน ซึ่งการไม่ใช้ของไทยก็อาจจะทำให้เขาต้องซื้อของแพงมากขึ้น เพราะสินค้าอุปโภคบริโภค ส่วนใหญ่เป็นสินค้าไทย ทั้งนี้ เราคิดว่าเราอยู่กันด้วยการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ด้วยความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา แต่หากเขาปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ เราก็คงห้ามอะไรเขาไม่ได้ แต่สักพักก็คงดีขึ้น

ปลุกพลังคนไทยหนุนโอท็อปแก้เผ็ดเขมร

นายอนุทินกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ และมองว่าเป็นโอกาสให้คิดใหม่ว่าจากนี้ไป เราควรต้องขยายโอกาสทางการตลาด อย่าไปผูกกับใครคนใดคนหนึ่ง ถ้าส่วนนี้เสียหายขอเชิญชวนคนไทยเร่งอุดหนุนคนไทย ซื้อสินค้าของเราบริโภคมากขึ้น หรือลดการใช้สินค้าจากต่างประเทศ ชวนคนไทยไปเที่ยวงานโอทอป นี่เป็นช่วงเวลาที่ดี ยิ่งตอนนี้โดนขู่มาว่าลูกค้ารายหนึ่งจะไม่ซื้อของไทย คนไทยก็แสดงพลังไปซื้อสินค้าไทยให้เห็นๆกันไปเลย ที่งานโอทอป

ฝ่ายความมั่นคงสั่งมามท.ตัดไฟได้ทันที

ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงกรณีกัมพูชาจะไม่ซื้อไฟฟ้าจากไทย ในฐานะผู้มีอำนาจสั่งการ และควบคุมดูแลเรื่องไฟฟ้าจะมีมาตรการเชิงรุกอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเขาไม่ซื้อ เราก็ไม่ต้องปิด ก็ดี แต่ถ้าฝ่ายความมั่นคง หรือฝ่ายทหารแจ้งมาว่าให้ตัดไฟ กระทรวงมหาดไทยพร้อมอยู่แล้ว พร้อมทำทันที เพราะเหตุการณ์นี้ไม่เหมือนเมียนมาที่มีเรื่องสัญญาระหว่างบริษัท การตัดจึงต้องตัดหลายช่วง แต่ในส่วนกัมพูชาเป็นเรื่องรัฐต่อรัฐ มีข้อกำหนดว่าหากเกิดเหตุการณ์ แล้วมีข้อสั่งการมาจากฝ่ายความมั่นคง เราสามารถหยุดจ่ายไฟได้

ยันไม่ยอมเสียเปรียบเสียอธิปไตยเด็ดขาด

เมื่อถามว่า ที่พูดบนเวทีดูท่าขึงขังว่าพร้อมรบ นายอนุทินยอมรับว่า แน่นอนมีตรงไหนที่เราไม่พร้อม แต่ถ้าเราหลีกเลี่ยงปะทะได้ ในฐานะเป็นรัฐบาลก็ต้องหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็ต้องมีความพร้อมเท่านั้นเอง และย้ำว่า ตอนนี้ยังห่างไกลเรื่องที่ต้องเรียกให้คนไทยกลับประเทศ

ทั้งนี้ นอกวงสัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสอบถามนายอนุทินว่า เคยชมละครของเขมรบ้างหรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่าไม่เคยดูเลย ตอนเด็กๆดูเรื่องงูเก็งกอง พร้อมขออย่าเพิ่มประเด็นความขัดแย้ง เราต้องลดความขัดแย้งให้ได้มากที่สุด แต่เราก็ไม่ยอมเสียเปรียบหรือเสียอธิปไตยใดๆทั้งสิ้น เพราะการเสียอธิปไตยไม่มีอยู่ในหัวของฝ่ายทหารหรือฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครอง แม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ดร.สมิทธ์\'ชี้คนไทยเขมรเป็นเพื่อนกัน พอ 2 ตระกูลขึ้นครองอำนาจ 2 ประเทศก็ฉิXหายทั้งคู่ 'ดร.สมิทธ์'ชี้คนไทยเขมรเป็นเพื่อนกัน พอ 2 ตระกูลขึ้นครองอำนาจ 2 ประเทศก็ฉิXหายทั้งคู่
  • \'นายกฯ\'ขอบคุณทีมเจรจา JBC มั่นใจจะหาทางออกที่ดีที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของประเทศได้ 'นายกฯ'ขอบคุณทีมเจรจา JBC มั่นใจจะหาทางออกที่ดีที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของประเทศได้
  • ส่งสัญญาณ! \'ลุงสุทิน\'เผย \'ฮุน เซน\' วอนชาวกัมพูชาอย่าก่อเหตุรุนแรงต่อคนไทย ส่งสัญญาณ! 'ลุงสุทิน'เผย 'ฮุน เซน' วอนชาวกัมพูชาอย่าก่อเหตุรุนแรงต่อคนไทย
  • \'วาสนา นาน่วม\'เปิดเบื้องลึก \'ฝ่ายความม้่นคง\' เคยเสนอ สมช.ตัดไฟ-เน็ต จน\'กัมพูชา\'ชิงประกาศก่อน 'วาสนา นาน่วม'เปิดเบื้องลึก 'ฝ่ายความม้่นคง' เคยเสนอ สมช.ตัดไฟ-เน็ต จน'กัมพูชา'ชิงประกาศก่อน
  • ‘อ.ไชยันต์’เตือน! ระวังการยั่วยุทุกรูปแบบ ชี้\'รัฐประหาร\'คือจุดอ่อนที่สุดของไทย ‘อ.ไชยันต์’เตือน! ระวังการยั่วยุทุกรูปแบบ ชี้'รัฐประหาร'คือจุดอ่อนที่สุดของไทย
  • ผลโพลชี้\'กลาโหม\'อันดับแรก ประชาชนอยากให้ปรับ ครม. มากที่สุด ผลโพลชี้'กลาโหม'อันดับแรก ประชาชนอยากให้ปรับ ครม. มากที่สุด
  •  

Breaking News

'คุณหญิงสุดารัตน์' จี้นายกฯ รีบออกแถลงการณ์บอกชาวโลก ไทยไม่รับอำนาจศาลโลก

รุมจวก'อิ๊งค์' ห่วงศึก 'อิหร่าน-อิสราเอล' แต่เขมรหันปืนใส่เงียบ

'ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร'ถูกไล่ออกข้าราชการ เซ่นปมฮั้วประมูลก่อสร้างในแก่งกระจาน

ภัยสังคม! พ้นโทษคดียาบ้า ตามถีบจยย.พยาบาลฝึกงาน หวังขืนใจ ทำมาแล้ว3ครั้ง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved