‘ดร.ปณิธาน’ชำแหละ 6 ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา รัฐบาลต้อง‘สื่อสาร’ทันเหลี่ยม รุกรับ ตัดตอน
16 มิถุนายน 2568 รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Panitan Wattanayagorn หัวข้อ “ไม่โทษ กต.หรือ กห.ทั้งหมด จะสติแตกไปมากกว่านี้ : แล้วจะโทษใครดี?” ระบุว่า...
ไม่โทษ กต.หรือ กห.ทั้งหมด จะสติแตกไปมากกว่านี้ : แล้วจะโทษใครดี?
1. กัมพูชามีนโยบาย "สามง่าม" เชิงรุกกับไทยมานานแล้ว ดังนั้นการที่เขาชิงแถลงข่าวและให้ข่าวเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเด็นที่เขาได้เปรียบนั้น เป็นเรื่องธรรมดาในความผิดปกติของความสัมพันธ์ในปัจจุบัน
2. ในการประชุม JBC ที่มีความสำคัญขนาดนี้ ซึ่งไม่ได้ประชุมกันมานานนับสิบปี สิ่งที่กัมพูชาทำนั้น คาดเดาได้ไม่ยากและป้องกันได้พอสมควร ถ้าเราเข้าใจ endgame ของเขาหรือตระหนักถึง "นโยบายสามง่าม" ของกัมพูชาอย่างแท้จริง (กรุณาอ่านรายละเอียดเรื่องนโยบายสามง่ามในโพสต์ก่อนหน้านี้ครับ)
3. ข้าราชการประจำไม่ว่าจะกระทรวงไหน ๆ หรือแม้แต่ในมหาวิทยาลัย จะทำตามและอ้างอิงกฏระเบียบมากมาย "ในกรอบ" ที่ชัดเจนและปลอดภัย กล่าวคือ ตั้งรับไว้ก่อนจะดีกว่าดำเนินการเชิงรุกมาก ทั้งปลอดภัยกับตัวเองด้วย (จากประสบการณ์ส่วนตัวกว่า 30 ปีนะครับ ท่านอื่นอาจจะเห็นต่าง และบางยุคเราก็เคยเห็นขรก.ทำงานเชิงรุกหรือนำธงมาบ้าง)
4. ในกรณีประชุม JBC ในครั้งนี้ ถ้าจะให้ทันเหลี่ยมทันเกมส์เขมร หรือทำให้เขาลดราวาศอกลงบ้าง โดยเฉพาะที่ให้ข่าวยั่วยุคนไทยแทบจะรายวันเช่นนี้
ฝ่ายการเมืองที่มาจากประชาชน คือ ผู้บริหารของรัฐบาลที่ทำเนียบ ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ซึ่งดูแลสำนักโฆษก) รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ซึ่งกำกับดูแลสำนักข่าวของรัฐ) และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ซึ่งต้องให้ข่าวหรือนำธงแถลงข่าวในทุกเรื่อง) ต้องให้ข่าวทั้งล่วงหน้า (นอกรอบหรือทางข้างก็ได้) ระหว่างการประชุมหรือเกิดเหตุการณ์ (อย่างเป็นทางการ) หลังการประชุมหรือหลังเหตุการณ์ และอย่างต่อเนื่องทั้งในภาษาไทยและภาษาเทศ แม้จะถนัดหรือไม่ก็ตาม ก็ต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีกว่านี้
5. อันที่จริงแล้วในการประชุมสภาความมั่นคงเมื่อเร็ว ๆ นี้ น่าจะได้มีการกำหนดแนวทางการสื่อสารดังกล่าวข้างต้นไว้แล้ว
แต่สมช.หรือรัฐบาลอาจจะคลาดเคลื่อนไปหน่อยและช้าไปนิด คือ กำหนดให้กต.และกห. ร่วมกันจัดระบบสื่อสารให้มีเอกภาพโดยให้: 1) โฆษกรัฐบาล 2) โฆษก กต. 3) โฆษก กห. และ 4) โฆษก ทบ. ประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและให้ข่าวอย่างเป็นเอกภาพ
ถ้าจะให้ดี รัฐบาลหรือสมช.จะต้องกำหนดให้ชัดว่า - ให้ฝ่ายโฆษกรัฐบาล โดยกำกับของฝ่ายการเมือง เป็นหลักเป็นคนนำธงสื่อสาร เพื่อรุกรับ สกัด และตัดตอนการสื่อสารของกัมพูชาที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยให้ดีขึ้น
6. แต่ถ้าจะให้ถูกใจคนไทยจริง ๆ (อ้างอิงจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าไว้ใจใครหรือเชื่อใครมากที่สุด) ก็จะต้องให้กองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 เป็นหลักในการสื่อสารแทน
แต่ฝ่ายทหารหรือฝ่ายความมั่นคงก็จะต้องเสียเวลาไปกับความเหลวไหลของทีมสื่อสารเขมรเพราะต้องแบ่งพลังไปทำสงครามโวหารหรือสงครามน้ำลาย แทนที่จะสร้างเสริมกำลังเข้าไปในพื้นที่เพื่อผลักดันทหารกัมพูชาอย่างจริงจัง ให้หันปากกระบอกปืนไปทางอื่น และถอนกำลังออกไปจากพื้นที่หรือจุดสูงข่มที่รุกเข้ามาเพื่อเตรียมการรบกับเราอย่างจริงจัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี