วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'วินทร์ เลียววาริณ' สรรเสริญ 'ป๋าเปรม' นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ชูบทเรียน'รู้จักเงียบ-เชือดนิ่ม'คุมเกมชายแดน

'วินทร์ เลียววาริณ' สรรเสริญ 'ป๋าเปรม' นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ชูบทเรียน'รู้จักเงียบ-เชือดนิ่ม'คุมเกมชายแดน

วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 13.13 น.
Tag : นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ป๋าเปรม วินทร์เลียววาริณ
  •  

วันที่ 19 มิถุนายน 2568 นายวินทร์ เลียววาริณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2556 ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ไม่ทุกคน ไม่ทุกฝ่ายรัก พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้นำไทยทุกยุคหลังจากนั้นสามารถเรียนรู้จากท่านคือ การรู้จักเงียบ

ทว่าไม่มีใครเรียนรู้


นี่เป็นคุณลักษณ์เฉพาะตัวของ พล.อ. เปรม ชาว Minimalist ทางการเมืองตัวจริง พูดน้อยที่สุด พูดเท่าที่จำเป็น เมื่อจำเป็นก็ลงมือเชือดนิ่มๆ จนท่านได้รับฉายาว่า นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา

สิ่งหนึ่งที่ผมถามตัวเองเสมอก็คือ ทำไมผู้นำไทยยุคหลัง พล.อ. เปรมไม่รู้จักเรียนรู้คุณสมบัติข้อนี้ เพราะส่วนมากยิ่งพูดยิ่งโชว์โง่

ปลายปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ฝ่ายไทยพบว่าเวียดนามเคลื่อนกำลังทหารผิดปกติ เสนาธิการไทยรวมทั้ง พล.อ. เปรมอ่านออกว่าเวียดนามกำลังจะตีเขมร

ตอนนั้น เฮง สัมริน และฮุนเซน แกนนำเขมรแดงที่ถูกการเมืองภายในเล่นงาน ถูกคำสั่งฆ่าของพลพต หนีไปเวียดนาม แล้วตกลงกับเวียดนามให้ยกทัพมาโค่นล้มพลพต

ถ้าเวียดนามเข้าไปกำจัดเขมรแดง ชาวโลกก็ไม่ว่าอะไร เพราะพลพตโหด ฆ่าคนเป็นล้าน ปัญหาคือประเทศไทยมีเส้นพรมแดนติดเขมรถึงแปดร้อยกิโลเมตร ถ้าเวียดนามบุก ชาวเขมรหลายแสน

คนจะอพยพเข้ามาที่ชายแดนไทย หรือเข้าเขตไทย เวียดนามอาจฉวยโอกาสนี้เข้ามาเปลี่ยนไทยเป็นคอมมิวนิสต์

แล้วก็จริงตามนั้น วันคริสต์มาสปี พ.ศ. ๒๕๒๑ เวียดนามยกทัพเต็มอัตราศึกด้วยกำลังทหาร  ๑๕๐,๐๐๐ คน โค่นรัฐบาลเขมรแดงสำเร็จในสองอาทิตย์

เวียดนามใช้ เฮง สัมริน และฮุนเซนเป็นหมากรุกรานกัมพูชา โค่นรัฐบาลพลพต ตั้งรัฐบาลหุ่น People’s Republic of Kampuchea (PRK) เฮง สัมริน ขึ้นเป็นประธานคณะกรรมการปฏิวัติประชาชน

และผู้นำ ส่วนฮุนเซนดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และในเวลาต่อมาก็เขี่ย เฮง สัมริน แล้วก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

เขมรพลันแตกแยกเป็นสี่ก๊ก ก๊กที่หนึ่งคือรัฐบาลกัมพูชาของ เฮง สัมริน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับเวียดนาม ฐานอยู่ที่พนมกระวันและตะวันตกของพระตะบอง กำลังคนราวสี่หมื่นคน

ก๊กที่สองคือกลุ่มเขมรแดงของ พลพต และเขียว สัมพันธ์ มีกำลังราวสี่หมื่นคน ก๊กที่สามคือกลุ่มซอนซาน มีกำลังราวสี่พันคน ก๊กที่สี่คือกลุ่มสมเด็จนโรดม สีหนุ 

สามก๊กหลังรวมกันเรียกว่า Three United Resistance ต่อต้าน เฮง สัมริน และเป็นเป้าหมายการปราบปรามของเวียดนามกับ เฮง สัมริน 

ทัพเวียดนามและเขมร เฮง สัมริน กวาดล้างกลุ่มต่อต้าน ไล่ล่าเขมรแดงมาถึงชายแดนไทย-กัมพูชา แล้วรุกล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทย

ข่าวกรองบอกว่าเวียดนามเสนอความคิดแก่ พคท. ให้ยืมทหารเข้ายึด ๑๗ จังหวัดภาคอีสานของไทย แล้วประกาศเป็นรัฐใหม่
....................

ค่ำวันที่ ๒๒ เดือนมิถุนายน ๒๕๒๓ กำลังเวียดนามและ เฮง สัมริน ยกกำลังสองกองร้อย โจมตีค่ายอพยพที่ชายแดนอรัญประเทศพร้อมกัน ตีค่ายอพยพบ้านหนองจาน บ้านโนนหมากมุ่น อำเภอ

ตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี และอีกหลายหมู่บ้าน

ฝ่ายไทยทราบเรื่อง กำลังฝ่ายไทยที่คุ้มครองหมู่บ้านโนนหมากมุ่นบุกไปชิงพื้นที่คืน แต่ถูกฝ่ายเวียดนามถล่ม เสียชีวิตหลายคน

ทัพไทยยึดบ้านโนนหมากมุ่นคืนได้ในเวลา ๑๕.๔๕ น. ข้าศึกตายหลายสิบคน ทหารไทยตาย ๑๒ นาย แต่สามารถผลักดันกำลังเวียดนามออกไปในวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๓

ห้าวันต่อมาคือ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๒๓ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ พาคณะทูตานุทูตไปดูบริเวณชายแดนปราจีนบุรีและวัฒนานคร เห็นหมวกกะโล่และดาวแดง บอกว่าเป็นพวกเวียดนาม

ผู้สื่อข่าวต่างประเทศถาม พล.อ. เปรมว่า “ทำไมทหารไทยรุกเข้าไปในเขตแดนเขมรถึงหกกิโลเมตร?”

พล.อ. เปรมตอบเรียบๆ ว่า “ไทยไม่เคยรุกล้ำใคร นอกจากเวียดนามจะรุกล้ำแผ่นดินไทย ก็เห็น ๆ อยู่แล้ว จะให้ทำอย่างไรถ้าไม่ต่อต้าน”

หน้าที่ทหารไทยคือปกป้องดินแดนไทย ใครแรงมา เราก็แรงไป ไม่ต้องพูดคำหวาน

......................

วันหนึ่งในเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๒๘ ผู้นำไทยได้รับรายงานว่า เวียดนามบุกเนิน ๕๐๐ - ช่องบก หลังจากนั้นยุทธการช่องบกก็ดำเนินไปข้ามปี

เดือนมีนาคม ๒๕๓๐ การรบทวีความรุนแรงขึ้น จนเมื่อทหารไทยบุกประชิด มันก็กลายเป็นการรบแบบตะลุมบอน ใช้ดาบปลายปืน เลือดอาบแผ่นดินไทย

ไทยรบกับข้าศึกมาตลอด จนถึงจุดหนึ่ง ไทยก็ใช้กลยุทธ์ทำสงครามจรยุทธ์ ใช้กำลังทหารพรานกลุ่มเล็กออกล่าพวกเวียดนามในตอนกลางคืน ลอบเข้าไปในเขตฐานของเวียดนาม ฆ่าดักกงเงียบ

ๆ ด้วยมีด แล้วหวนกลับมาฐานตอนสาง

ทหารพรานขุดคูเข้าหาฐานศัตรู เหมือนตัวตุ่นดำดินไปหาศัตรูเงียบ ๆ แทรกซึมเข้าไปในแนวข้าศึก ซุ่มโจมตี ตอดเล็กตอดน้อยให้พวกเวียดนามอ่อนกำลังลง ไม่สู้โดยไม่จำเป็น ขนอาวุธตามมา

จนเข้าไปใกล้แทบลมหายใจรดต้นคอ สองฝ่ายเห็นหน้ากัน การรบแบบประชิดทำให้ฝ่ายข้าศึกไม่อาจใช้ปืนใหญ่ ขณะเดียวกันก็ชี้เป้าหมายให้แนวหลังกระหน่ำด้วยปืนใหญ่และเครื่องบินขับไล่จาก

กองบิน ๔ ตาคลี

การรบที่ช่องบกกินเวลานานตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๒๘ - ธันวาคม ๒๕๓๐ กองทัพไทยสูญเสียกำลังพล ๑๐๙ นาย บาดเจ็บ ๖๖๔ นาย

พ.ศ. ๒๕๓๒ เวียดนามถอนทหารออกจากกัมพูชาอย่างถาวร ปิดฉากการรบระหว่างไทยและเวียดนาม หลังจากเวียดนามคุกคามไทยมานานเกือบสิบปี

ประเทศไทยในยุคนั้นเป็นอีกห้วงเวลาหนึ่งที่หวุดหวิดเสียเมืองให้แก่ลัทธิคอมมิวนิสต์ เพราะกองทัพดำเนินนโยบายถูกจุด แผนการยุทธ์ถูกต้อง และทหารหาญพลีชีพเพื่อแผ่นดิน

ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นต้นมา บทบาทของทหารบ่อยครั้งออกนอกลู่นอกทาง จนเกิดประโยคคำถาม “ทหารมีไว้ทำไม?” แต่เมื่อเกิดวิกฤติร้ายแรงระดับสิ้นชาติ ทหารก็มีไว้เป็นรั้วแรกที่ต้านทาน

อริราชศัตรูด้วยเลือด

ช่วงเวลานั้นถ้าไม่มีนายทหารเสนาธิการระดับมันสมอง เช่น พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ และนายทหารเสนาธิการอีกหลายคนที่มองการณ์ไกล วางแผนการยุทธ์อย่าง

รอบคอบ เดินหมากการเมืองระหว่างประเทศอย่างชาญฉลาด รักษาสมดุลระหว่างอำนาจจีนและสหรัฐฯอย่างลงตัว วันนี้ประเทศไทยอาจจะอยู่ใต้ฟ้าดาวแดง

หลายคนร้องเพลงชาติไทยได้ แต่ไม่รู้ความหมายของประโยค "เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่"

และไม่เคยรู้จักคำพูดนี้ของ พล.อ. เปรม “ไทยไม่เคยรุกล้ำใคร... ก็เห็น ๆ อยู่แล้ว จะให้ทำอย่างไรถ้าไม่ต่อต้าน”

หน้าที่คนไทยทุกคนคือปกป้องดินแดนไทย ใครแรงมา เราก็แรงไป ไม่ต้องพูดคำหวาน ไม่ต้องพูดมาก ไม่มีทางก้มหัวให้ผู้รุกราน

นี่ก็คือบทเรียนที่ผู้นำรุ่นหลังไม่เคยเรียนรู้จากนักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา

วินทร์ เลียววาริณ

18-6-25

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • อ่านแล้วสะท้อนใจ! เทียบการเลือก‘ผู้นำ’ของไทยกับสิงคโปร์ อ่านแล้วสะท้อนใจ! เทียบการเลือก‘ผู้นำ’ของไทยกับสิงคโปร์
  •  

Breaking News

เข้าปั๊มด่วน! พรุ่งนี้น้ำมันกลุ่มเบนซินขึ้นราคา ดีเซลคงเดิม

'เอกนัฏ'ประณาม'กัมพูชา' ชี้ต้องเป็นมติพรรค ร่วมรบ.ต่อหรือไม่ บอกใครไม่พอใจลาออกได้

‘เอกนัฏ’ลั่น รทสช.อยู่ต่อหรือถอน ไร้ต่อรองตำแหน่ง ไม่มีแบ่งฝ่ายกับ‘ก๊วนสุชาติ’

'รองปลัด ทส.'นำทีมตรวจสารปนเปื้อนโลหะหนัก ในตะกอนดินที่หาดเชียงราย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved