'วันนอร์'เผย ชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับซินเจียงสบายดี สถานทูตไทยติดตามตลอด เผยได้รับสิทธิทางศาสนาตามหลักรัฐธรรมนูญ หวังการพัฒนาซินเจียงจะสร้างความเชื่อมั่นการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
วันที่ 26 มิถุนายน 2568 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยว่า ในการเยือนเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นการเยือนในโอกาสเฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จึงไม่ได้หารือถึงการส่งกลับชาวอุยกูร์ 43 คนจากประเทศไทยเมื่อเดือน ก.พ.2568 เพราะเป็นกิจการภายในประเทศของจีน แต่ได้สอบถามเป็นการส่วนตัว ซึ่งทราบว่า ไม่มีปัญหาอะไร โดยทราบว่าชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกับมานั้น เป็นกลุ่มที่ถูกสร้างความเข้าใจผิด ว่าอยู่ที่ซินเจียงลำบาก ถ้าไปจากที่นี่จะมีคนนำพาไปประเทศที่ 3 จะได้อยู่สุขสบาย คนเหล่านี้จึงอยากไปประเทศที่ 3 ต้องเดินทางไปชายแดนจีนผ่านทางเมืองคุณหมิง ลัดเลาะมาทางภาคเหนือเพื่อไปมาเลเซีย จนมาพบบางส่วนที่อ.สะเดา จ.สงขลา
"ชาวอุยกูร์ที่ถูกจับในไทยเมื่อ 11 ปีที่แล้ว เมื่อตำรวจจับก็กลายเป็นเรื่องเข้าเมืองไม่ถูกต้องตามกฏหมาย จึงเกิดปัญหาตามมา เพราะบางคนในชุดก่อนมีความผิด แต่ปัจจุบันรัฐบาลจีนเข้าใจว่าถูกหลอกไม่ได้เป็นผู้ร้าย เขาก็รับกลับมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง มีการโทรศัพท์ถามไปตลอด หลังรัฐมนตรีและสื่อมววลชนมาเยี่ยม ทราบว่าชาวอุยกูร์อยู่ได้สบาย ไม่มีปัญหารบกวนจากรัฐบาลจีนแต่อย่างใด"
ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ส่วนคนที่มีปัญหาก็มีบ้าง บางส่วน เช่นภรรยาและลูก ไปประเทศที่ 3 เขาอยากพบลูกเมียเขา แต่ยังไม่ได้พบได้ แต่ถ้าเราดูแล้ว ไม่น่าจะยุ่งยากอะไร เพราะต้องให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจสักพัก ปัจจุบันมีสายการบินตุรกีบินมาซินเจียง คนซินเจียงเดินทางไปตรุกีได้เกือบทุกวัน เชื่อว่าจะมีโอกาสได้พบกันแน่นอน
ประธานรัฐสภา กล่าวว่า กรณีอุยกูร์ ทางจีนมีปัญหากับชาติตะวันตก ที่โจมตีเรื่องเสรีภาพ ซึ่งเป็นเรื่องภายใน ตนมาวันนี้มาเพื่อจะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ได้มาเห็นการพัฒนาซินเจียงก็ดีใจด้วย แต่นโยบายของจีนที่ไม่ขัดมติสหประชาชาติ ไม่ผิดกติกาโลก ไทยสนับสนุน เช่นนโยบายจีนเดียว ซึ่งปัยหาเรื่องคนกลุ่มน้อย ทุกประเทศมีกรอบรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เช่นการแบ่งแยกดินแดน ทั้งโรฮิงญาหรือ อุยกูร์ ถ้าเรื่องศาสนา ก็เชื่อว่าจะสามารถอยู่ร่วมกันได้
"ที่ผมมาจีนเคราวนี้ พบกับผู้นำศาสนาอิสลามในซินเจียง อย่างเมือง อุรมุชี 70-80 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้มีปัญหาทางศาสนา มีคนไปปฏิบัติศาสนากิจได้ตามปกติ การเข้าใจผิดอาจมีจุดใดจุดหนึ่ง เราไม่อยากไปพูดว่าทุกอย่างดีหมด ในเรื่องสิทธิและนับถือศาสนา เขาให้เสรีภาพในขอบเขต ประเทศที่ปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ไม่ได้ให้โฆษณา ยังให้ละหมาดวันศุกร์ จะมีคนมาจำนวนมาก ถ้าเขากีดกันทางศาสนา คงทำอย่างนั้นไม่ได้ ในเรื่องการเผยแพร่ได้ แต่เขาไม่ให้ไปเผยแพร่ในคนที่ไม่ใช่มุสลิม"
ส่วนเรื่องผู้หญิงที่คลุมฮิญาบ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่าเท่าที่สอบถามในเมืองซินเจียง ให้เสรีภาพในการคลุมฮิญาบ ซึ่งปกติในหลักศาสนาอิสลาม ต้องคลุมมิดชิด แต่ปัจจุบันในหลายประเทศก็ไม่ได้คุมเข้ม อย่างไทยก็ไม่ได้มีข้อห้าม แต่ต้องสร้างความเข้าใจในสังคมให้ได้ กรณีของชาวอุยกูร์ เนื่องจากอยู่ในระบอบการปกครองของจีน การจะสอบถามเรื่องศาสนาเป็นสิ่งที่ไมได้มีการถามกันอย่างเปิดเผย แต่เท่าที่ทราบผู้หญิงอุยกูร์ ตามหมู่บ้าน ก็ยังปฏิบัติศาสนกิจตามหลักสาสนาได้ตามปกติ
////
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี