'โรม-เท้ง'ลงพื้นที่อรัญประเทศ ตรวจมาตรการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์กัมพูชา ลั่นมีข้อมูลบุคคล-พิกัดสถานที่กว่า 60 แห่งทั่วเขมร จี้รัฐบาลเดินหน้าปราบต่อ ย้ำไทยไม่มีปิดด่าน เหน็บ'อังเคิล'เดือดร้อน เพราะมีเอี่ยวหรือไม่ !?
เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2568 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ เดินทางไปที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อติดตามและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ในพื้นที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยเดินทางไปตรวจสอบ 4 จุดที่ได้รับรายงานว่ามีการลักลอบผ่านแดน
นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า ถึงแม้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาในปัจจุบันจะทำให้มีการออกมาตรการต่างๆ ตามแนวชายแดน แต่ก็ยังมีความพยายามข้ามแดนเพื่อไปเข้าร่วมขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ทั้งโดยสมัครใจและถูกหลอก ขณะเดียวกัน ในขณะที่ตนมายืนอยู่ที่นี่ ก็ยังมีการก่อสร้างอาคารที่เชื่อว่าจะใช้ในขบวนการคอลเซนเตอร์ฝั่งปอยเปตอย่างต่อเนื่องไม่หยุดและขยายตัวใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ และต้องไม่ลืมว่าปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์นั้นไม่ใช่แค่การฉ้อโกงทางออนไลน์ แต่คือปัญหาการค้ามนุษย์ที่รุนแรงมากด้วย
โดยขณะนี้ ตนและคณะกรรมาธิการฯ ได้รับแจ้งข้อมูลเข้ามาถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ รวมทั้งได้รับพิกัดศูนย์คอลเซนเตอร์กว่า 60 แห่งทั่วทั้งประเทศกัมพูชามาหมดแล้ว ซึ่งเราจะดำเนินการผลักดันแก้ปัญหาต่อไป สำหรับมาตรการของทางรัฐบาลนั้น ตนเห็นด้วยในทิศทางเดียวกัน และพร้อมสนับสนุนภาครัฐให้เดินหน้าทำงานต่อไปในการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ และคงจะต้องมีการลงรายละเอียดและติดตามต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะเรื่องปัจจัยสำคัญอย่างเช่นการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า และน้ำมัน ที่อาจถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมคอลเซนเตอร์
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนในเรื่องเศรษฐกิจการค้าชายแดน ต้องขอย้ำว่าไทยเราไม่ได้ห้าม เราต้องแยกให้ชัดว่ามาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างไรก็ต้องเดินหน้า ขณะเดียวกันเราก็อยากให้มีการค้าขายที่ถูกต้องสุจริต ซึ่งต้องยอมรับว่าเรายังปรับจูนเรื่องนี้กันไม่ค่อยได้ แต่ยืนยันว่าไทยไม่มีการปิดด่าน อาจจะมีควบคุมด่านและการเข้าออกของคนบ้าง แต่ในเรื่องมนุษยธรรมยังสามารถทำได้อยู่
“ดังนั้นถ้ามีความเข้าใจผิดของอังเคิลคนไหนก็แล้วแต่ว่าประเทศไทยไปปิดด่านเนี่ย ยืนยันว่าอังเคิลเข้าใจผิด ไม่มีการปิดด่าน มีแต่การควบคุมเพื่อแก้ปัญหาคอลเซนเตอร์ ถ้าการควบคุมตรงนี้แล้วทำให้อังเคิลเดือดร้อนเนี่ย ก็แสดงว่าอังเคิลอาจเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์รึเปล่า อันนี้ก็ฝากไว้ให้คิด” นายรังสิมันต์กล่าว
ด้านนายณัฐพงษ์กล่าวว่า โดยทั่วไปตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้นมี 3 หัวข้อหลักที่ต้องพิจารณา คือปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ ปัญหาเศรษฐกิจชายแดน และปัญหาข้อพิพาทดินแดน โดยพื้นที่อรัญประเทศที่ตนและ สส.รังสิมันต์เดินทางมาวันนี้นั้นมีปัญหาหนักในเรื่องแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาพื้นที่นี้ไม่มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจการค้าชายแดน เพราะประชาชนมีการไปมาหาสู่กันอยู่แล้ว และไม่มีปัญหาข้อพิพาทเขตแดนด้วย เพราะมีเส้นแบ่งเขตแดนตามธรรมชาติชัดเจน
แต่เราต้องทำความเข้าใจกับทางกัมพูชา ว่ามาตรการต่างๆ ที่ไทยออกมานั้นก็เพื่อสกัดกั้นแก๊งคอลเซนเตอร์ ส่วนในเรื่องเศรษฐกิจการค้าชายแดนและการแบ่งเขตแดนนั้นไม่มีปัญหาตั้งแต่แรก แต่กัมพูชาอาจจะมีมาตรการปิดด่านไม่ให้นำเข้าสินค้าจากไทย ทำให้การค้าขายระหว่างสองประเทศได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ ทางคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ จะมีการรับเรื่องราวร้องเรียนจากประชาชนถึงความเดือดร้อนในประเด็นนี้เพิ่มเติม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี