ถกนิรโทษฯ อารมณ์ค้าง! ‘พิเชษฐ์’ปิดประชุมดื้อๆ อ้างยังเหลืออีก3ร่างไว้รอสรุปสัปดาห์หน้า ด้าน ‘รทสช.’ ย้ำไม่ล้างผิด ‘ม.112’ ขณะที่ ‘ปชน.’ ชูคกก.วินิจฉัยชี้ขาดนิรโทษกรรมฯ ส่วน ‘ภท.’ ย้ำ ไม่เอา112 ยกบทเรียน ‘สุดซอย’ เตือนสติ ไร้เกิดประโยชน์
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เข้าสู่วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ซึ่งมีผู้เสนอเข้ามาโดยมีเนื้อหาทำนองเดียวกัน จำนวน 5 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสันติสุข ของนายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ของนายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม
นอกจากนี้ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคล ซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ของนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ของน.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ กับประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 36,723 คน เป็นผู้เสนอ และ ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะ
โดยนายวิชัย ในฐานะผู้เสนอร่างพรรครวมไทยฯ ชี้แจง โดยย้ำหลักการและเจตนาการเสนอร่าง ของพรรครทสช.ตอนหนึ่งว่า จะไม่นิรโทษกรรม กับการกระทำการทุจริตประพฤมิชอบทุกคดี รวมถึง การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 เราไม่ได้จัดให้ไว้ใน ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ที่เสนอ
ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ชี้แจงสาระสำคัญร่างของพรรคประชาชนตอนหนึ่งว่า หลักการอย่างเช่น รวมไปไกลถึงตั้งแต่การรเคลื่อนไหวกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่11 ก.พ.2549 จนถึงปัจจุบัน ทราบดีว่า ร่างพรรคปชน. ไม่เป็นที่สบายใจของหลายฝ่าย แม้เราจะเขียนกว้างๆ ไม่ได้ระบุไว้ว่า มีกฎหมายไหนบ้างต้องนิรโทษกรรม แต่หลายฝ่ายพยายามบอกว่า ต้องรวมถึง112 แน่นอน
ดังนั้น จะไม่มีทางโหวตให้ การติดกรอบแค่นี้ทำให้สังคมไทยคลี่คลายความขัดแย้งได้จริงๆ หรือ ซึ่งเราดีไซน์คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการกระทำความผิดเพื่อการนิรโทษกรรม ที่มีตัวแทนประชาชน ผ่านสภาฯ ทั้งซีกรัฐบาล ฝ่ายค้าน ผสมไปกับ ตัวแทนศาล อัยการ จะเป็นเรื่องของคณะกรรมการชุดดังกล่าว ขอร้องต่อเพื่อสมาชิกทุกๆท่าน มันอีกนิดเดียว ที่เราจะทำสำเร็จ ทำให้กฎหมายฉบับนี้คลี่คลายความขัดแย้งบ้านเมือง กระดิ่งตั้งอยู่ตรงหน้าเรานิดเดียว แต่ขออย่าตั้งแง่กันได้ไหม
ขณะที่นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ชี้แจงหลักการร่างฉบับพรรคภูมิใจไทยว่า หลักใหญ่นิรโทษกรรม ผู้ที่กระทำผิดจากการชุมนุมทางการเมือง จะเว้นไม่นิรโทษกรรมให้ 4 กลุ่ม คือ กลุ่มทำผิดมาตรา 112 กลุ่มทำผิดคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ กลุ่มที่ถูกดำเนินคดีอาญาร้ายแรงถึงชีวิต และกลุ่มที่ก่อความเสียหายให้กับเอกชน พรรคภท. แสดงจุดยืนว่า คนที่ละเมิดหรือทำผิด มาตรา 112 ไม่สามารถนิรโทษกรรมให้ได้ ตนเข้าใจดีถึงความรู้สึกของกลุ่มคนที่ไม่ได้รับอานิสงส์จากกฎหมายฉบับนี้
“เราควรต้องรอสังคมมีความพร้อมในบางกรณี อย่าทำให้บางกรณีพัวพันทำให้ทุกกรณีต้องตกขบวนไปด้วย เรามีตัวอย่างของความเจ็บปวดมาแล้วกรณีของนิรโทษกรรมสุดซอย ที่สังคมรับไม่ได้ ถึงเวลาไม่ได้รับการนิรโทษกรรมสักคนเดียว แบบนี้ไม่เกิดประโยชน์” นายภราดร กล่าว
จนกระทั่ง เวลา 17.09 น. หลังจากที่ประชุมสภาฯ เปิดให้สส.อภิปรายแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหา ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เสนอมาทำนองเดียวกัน 5 ฉบับ เป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมง จู่ๆ นายพิเชษฐ์ รองประธานสภาฯ ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมอยู่ ได้แจ้งปิดประชุมแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย โดยระบุว่า ขณะนี้เนื่องจากมีเจ้าของร่าง จากจำนวน 5 ร่าง ยังเหลือ 3 ร่างที่จะอภิปรายสรุป โดยเอาไว้ต่อสัปดาห์หน้า สำหรับวันนี้ขอปิดประชุม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี