“ผู้พันเบิร์ด”แฉเล่ห์เหลี่ยมเขมร ละเมิดสนธิสัญญา ไม่เก็บกู้ทุ่นระเบิดให้หมด แถมยังวางใหม่เพิ่ม ด้านมทภ.2 นำสิ่งของพระราชทานมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา จ.อุบลราชธานี ขณะที่ตำรวจไซเบอร์สรุปสำนวนคดี“ฮุนเซน”ปมคลิปเสียงสนทนา “แพทองธาร”เตรียมส่งอัยการสูงสุด 14 กรกฎาคม ฐานความผิดตาม ม.116 กระทบความมั่นคง-พรบ.คอมฯ หากมีมูลเตรียมออกหมายจับ-หมายแดงอินเตอร์โพล
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายสมคิด เชื้อคง แจ้งความเอาผิดสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จากกรณีเผยแพร่คลิปเสียงสนทนากับนางสาวแพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม เมื่อวันที่ 20 มิถุนาวยนที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว เตรียมส่งให้อัยการสูงสุดวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม เนื่องจากเป็นคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานกระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดในการพิจารณาสำนวนว่าจะดำเนินการเอาผิดหรือไม่ หากพิจารณาแล้วมีมูลจะดำเนินการออกหมายจับ และประสานอินเตอร์โพลเพื่อออกหมายแดงต่อไป
ผู้พันเบิร์ดแฉเล่ห์เขมรไม่กู้ระเบิดแถมวางเพิ่ม
ด้านพล.ต.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และผอ.สำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ความจริงใจในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของกัมพูชาจะเป็นเพียงแค่ลมปากโฆษณาชวนเชื่อหรือไม่ลองมาดูกรณีเก็บกู้ทุนระเบิดกันบ้าง
มินิซีรีส์: กัมพูชา กับสองหน้าของสนธิสัญญา Ottawa เรื่องเล่าจากกับระเบิด-อดีตที่เจ็บปวด
สนธิสัญญา Ottawa คือ อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ การสะสม การผลิต และการขนย้ายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิดดังกล่าว เขมร ลงนามปี 2540 ให้สัตยาบัน2542 มีผลบังคับใช้ 2543 ปัจจุบัน เขมรยังเหลือพื้นที่เก็บกู้อีกมาก ไม่เป็นไปตามสนธิสัญญา อีกทั้งยังมีกรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจะเข้าเก็บกู้ระเบิดสังหารบุคคล แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาเข้ามาห้ามไว้ไม่ให้เก็บกู้อีกด้วย สงสัยคงกลัวว่าถ้าเก็บหมดแล้วจะไม่มีเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศเข้ามาหรือไม่
พล.ต.วันชนะกล่าวต่อว่า กัมพูชา (Cambodia) เป็นดินแดนอันตรายด้วยกับระเบิดที่ถูกทิ้งไว้มากมาย จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมกันกว่า 65,000 คนตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา คนจำนวนมากต้องสูญเสียขา แขน หรือแม้แต่ชีวิต ทำให้กัมพูชามีอัตราคนพิการจากกับระเบิดสูงที่สุดประเทศหนึ่งของโลก
รายงานของ Landmine Monitor ระบุว่า ณ ปี 2022 มีพื้นที่เสี่ยงจากกับระเบิดในกัมพูชายังเหลือกว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร และมีเหยื่อเพิ่มขึ้นราว 40 คนต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไร่ชาวนาและเด็กในพื้นที่ชนบท กัมพูชาจึงเข้าร่วมสนธิสัญญา Ottawa ปี 1997 นอกจากนี้ กัมพูชายังได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมทบทวนครั้งที่ 5 ของสนธิสัญญานี้ในปี 2024 เป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้รับเกียรตินี้ ฟังดูดี แต่เรื่องนี้มีเบื้องหลัง ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงซ่อนอยู่
มีรายงานหลายครั้งว่ากองทัพกัมพูชา (Cambodian military) แอบวางกับระเบิดใหม่ตามแนวชายแดนไทย โดยเฉพาะบริเวณใกล้ปราสาทพระวิหาร (PreahVihear)
รายงานจาก Bangkok Post เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2013 ระบุว่า ทหารไทย 3 นายเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน (ในเขตไทย)โดยพบว่าเป็นระเบิดรุ่นใหม่ซึ่งไม่ได้มีอยู่ในพื้นที่ก่อนหน้า และมีแหล่งข่าวอ้างว่ากองทัพกัมพูชาใช้ระเบิดเหล่านี้ตอบโต้ไทยจากการที่ไทยทำการลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้พะยูง แม้ทางการกัมพูชาจะปฏิเสธเสียงแข็ง แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้หลายประเทศเริ่มตั้งคำถามว่า กัมพูชาอาจกำลังแอบละเมิดสนธิสัญญา Ottawa อย่างลับ ๆ ทำไมจึงไม่เก็บกู้ให้หมดและยังวางใหม่เพิ่ม คำตอบคือ คอร์รัปชัน -กับระเบิดที่มองไม่เห็น
ปัญหาคอร์รัปชันในหน่วยงานกู้กับระเบิดของกัมพูชาไม่ใช่เรื่องใหม่ Center for International Policy รายงานว่า ในปี 1999 องค์กร Cambodian Mine Action Center (CMAC) ถูกเปิดโปงว่ามีการยักยอกเงินและแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสม ทำให้ผู้บริจาคตะวันตกระงับการสนับสนุนชั่วคราว และกระทบต่อการกู้กับระเบิดอย่างรุนแรง
แม้เวลาจะผ่านมานาน แต่ปัญหาคอร์รัปชันก็ยังฝังลึกและแผ่ขยาย โดยเฉพาะในโครงการที่เกี่ยวข้องกับเงินสนับสนุนจากนานาชาติ เช่น โครงการกู้กับระเบิดจากสหภาพยุโรป (EU) และ UNDP ซึ่งหลายหน่วยงานยังไม่มีระบบตรวจสอบการใช้จ่ายที่โปร่งใส
“จึงขอตั้งคำถามว่า1 กรณีเก็บกู้ระเบิดนี้ ไม่ตั้งใจเก็บของเดิมให้หมด แถมวางเพิ่มใช่หรือไม่
2 อย่างนี้ประชาคมโลกจะไว้ใจเขมรได้อย่างไรว่า จะจริงใจ ต่อการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในเขมร
3 ความขัดแย้งระหว่าง ไทยกับ เขมรครั้งนี้นั้น เขมรมีการวาง ระเบิดสังหารบุคคล (PMN2)เพิ่มอีกหรือไม่”พล.ต.วันชนะระบุ
มทภ.2นำของพระราชทานมอบให้ทหาร
วันเดียวกัน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อนำพระ และสิ่งของพระราชทานจาก “ในหลวง” และ“กรมสมเด็จพระเทพฯ” มามอบให้ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนในฐานปฏิบัติการต่างๆ บริเวณพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานีพร้อมเปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นห่วง และพระราชทานกำลังใจแก่ทหารหน้าแนวที่ปกป้องประเทศชาติ ทุกพระองค์ ทรงห่วงสุขภาพความเป็นอยู่และความปลอดภัยของพวกเราทุกคน” นอกจากนี้ยังได้มอบเสื้อยันต์ ผ้ายันต์ ลงอักขระและรูปลายเส้น “พหูรมาน” ของ “หลวงปู่ศิลา” ที่เป็นรูปหนุมาน เหยียบปากกระบอกปืนและปืนอาก้า เอาไว้เป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดน
จับเขมร15ชีวิตหนีตายกลับเข้าไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกวันที่ 9 กรกฎาคม กองกำลังบูรพา ระดมกำลังโดยร.อ.อาคม มงคลนำ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201 ร่วมกับร้อย ทพ.1206 เข้าสกัดจับกุมชาวกัมพูชาที่ลักลอบข้ามแดน 2 กลุ่มใหญ่รวม 15 ชีวิต ในจำนวนนี้มีเด็หญิงวัย 2 ขวบด้วย สอบถามทั้งหมดทราบว่า เคยทำงานใช้แรงงานซักซ่อมรองเท้ามือสองในตลาดโรงเกลือ แต่เมื่อปรับเปลี่ยนมาตรการเปิด-ปิดชายแดน กลัวกลับประเทศไม่ได้ จึงตัดสินใจเดินทางกลับไปก่อน แต่เมื่อกลับไปถึงบ้านเกิด กลับต้องเผชิญกับสภาพไม่มีงานทำและขาดรายได้ในการเลี้ยงปากท้อง ด้วยความคุ้นเคยเส้นทางจากที่เคยทำงานมานานหลายปี จึงตัดสินใจชักชวนกันเดินเท้าลุยป่าข้ามพรมแดนช่องทางธรรมชาติกลับมาเองโดยไม่จ้างผู้นำทางเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวทั้งหมดส่งให้ สภ.คลองลึก และ สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี