"ภูมิธรรม"ปลุกรวมพลังขจัดยาเสพติดเล็งใช้กลไกกำนัน ผญบ. ชรบ. สร้างพลังมวลชน เครือข่ายตาสับปะรด คาดโทษเด้งทันที หากพบขรก.-ท้องถิ่น เกียร์ว่าง พบเอี่ยวยาเสพติด ดำเนินคดีทันที ประเมินผลใน 3 เดือน
วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. ที่สโมสรกองทัพบก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด "No Drugs No Dealers"ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ
โดยนายภูมิธรรม กล่าวมอบนโยบายว่า ปัจจุบันเราเผชิญกับอาชญากรรมจากภายนอกประเทศ ที่เล็ดรอดเข้าสู่ประเทศไทยตามแนวชายแดนไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ ขบวนการคอลเซ็นเตอร์การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย และที่สำคัญคือการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ ยาเสพติดถือเป็นภัยร้ายแรงที่บ่อนทำลายประเทศมาอย่างยาวนาน แม้ว่าไทยจะไม่ได้เป็นต้นกำเนิดของยาเสพติด แต่เราก็ได้รับผลกระทบจากการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเส้นทางของยาเสพติดเหล่านี้ มีทั้งถูกนำเข้าเผยแพร่ระบาดในพื้นที่หมู่บ้านและชุมชนหรือถูกส่งต่อไปยังปลายทางประเทศที่ 3 แต่ไม่ว่า ปลายทางของยาเสพติดจะไปสิ้นสุดที่ใดก็ตาม ยาเสพติดสร้างปัญหาทำลายชีวิตของคนในหมู่บ้านและชุมชน ทำลายความสงบสุขและความปลอดภัยของชุมชน อีกทั้งทำลายโอกาสดีๆ ของคนรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปไม่รู้จบ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัญหายาเสพติด ถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องขจัดออกไปบนผืนแผ่นดินไทยและรัฐบาลทำงานอย่างเข้มข้นจริงจังและต่อเนื่องโดยมาตรการและปฏิบัติการต่างๆ ทั้งการกำหนดแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดปีงบประมาณพ.ศ. 2568 ซึ่งจะมีการกำกับติดตามและประเมินผลตรวจชี้วัดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปฏิบัติการ Seal Stop Safe ผนึกกำลังในพื้นที่ 14 จังหวัด 51 อำเภอชายแดน เริ่มภารกิจตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ทำให้ได้เห็นถึงความสำเร็จในการปฏิบัติงานอยู่เสมอ ซึ่งตนขอชื่นชมและขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน
นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต้นแบบ ธวัชบุรีโมเดล และท่าวังผาโมเดล จนรัฐบาลได้ขยายผลไปสู่พื้นที่ 10 จังหวัดนำร่อง นอกจากนี้ยังมีการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต้นแบบ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานครและในภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด 878 อำเภอ โดยจะต้องอาศัยความร่วมมือของข้าราชการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการเข้าถึงประชาชนเราจึงจะสามารถขจัดปัญหายาเสพติดไปได้อย่างแท้จริง
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนได้มอบนโยบายและได้เน้นย้ำถึงเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด แก่ผู้บริหารผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักในการนำนโยบายของพรรค ของรัฐบาล ไปปฏิบัติให้ประชาชนได้รับรู้เข้าใจ และสัมผัสได้ถึงความตั้งใจในการดำเนินงานของรัฐบาล ผ่านกลไกในระดับจังหวัดอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ทั่วประเทศ และในวันนี้รัฐบาลจะผลักดันวาระการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ ให้เป็นวาระของจังหวัด อำเภอ หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ ผ่านปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด โดยมีเป้าหมายและตัวชี้วัดว่า ภายใน 3 เดือนนี้หมู่บ้านและชุมชนที่มีปัญหาเรื่องยาเสพติดจะต้องเริ่มแก้ไขปัญหาวางกลไกของชุมชนและประกาศตนเป็นหมู่บ้านชุมชนปลอดยาเสพติด ที่จะต้องไม่มีทั้งผู้ค้าและผู้เสพ การดำเนินงานดังกล่าวนี้ จำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของจังหวัด และฝ่ายปกครอง นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำโดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ครบถ้วนในทุกมิติ นับตั้งแต่การป้องกันไม่ให้มียาเสพติดเข้าสู่ประเทศการปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนตลอดจนการฟื้นฟูคนดีกลับสู่สังคม ตนจึงขอเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนเร่งรัดดำเนินการ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า นอกจากนี้ตนอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร่วมมือกันดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน หรือจะต้องบูรณาการร่วมกันกับทุกหน่วยงานโดยเฉพาะในด้านการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูล การวางกำลังร่วมและการจัดกำลังเพื่อสนับสนุนภารกิจ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องเป็นผู้ว่า CEO ที่เป็นเจ้าภาพในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด บนข้อมูลจากสถานการณ์จริง และแน่นอนว่าแต่ละจังหวัดก็มีบริบทของพื้นที่ที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ผู้ว่าจะต้องรู้สภาพปัญหาและเงื่อนไขความท้าทายที่เกิดขึ้นในจังหวัดของตน พร้อมทั้งนำปัญหามาเป็นแนวทางแก้ไขที่ตอบโจทย์พื้นที่
นอกจากนี้ อยากให้มีการทบทวนเป้าหมายการดำเนินการที่เกิดขึ้นในทุกระยะ เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การทำงานเป็นเอกภาพ และมีประสิทธิภาพสูงสุด การดำเนินงานจะต้องใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยที่มีความเข้าใจและเข้าถึงประชาชนมาดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่ระดับจังหวัดอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ซึ่งจะต้องมีการมอบหมายภารกิจให้ในอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานเรื่องยาเสพติด โดยการดำเนินงานจะมีทั้งการสกัดกั้น เฝ้าระวัง ตรวจตรา และเอกซเรย์ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่สถานบันเทิงหากพบผู้เสพยาเสพติดขอให้นำเข้าสู่การบำบัดรักษา นอกจากนี้ ยังต้องมีการนำกลไกปกครอง มาใช้ในการหาข่าวในพื้นที่อีกด้วยเพื่อขยายผลไปสู่การจับกุมผู้ค้ายาเสพติด และตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ตลอดจนต่อยอดไปสู่การทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทั้งระบบต่อไป โดยเฉพาะผู้ค้ารายใหญ่
สำหรับการบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด ขอให้ยึดหลัก ผู้เสพคือผู้ป่วย ที่ต้องได้รับการรักษาซึ่งมีหลายรูปแบบ และจำแนกตามกลุ่มของผู้ป่วย พร้อมกันนี้ขอให้ทางจังหวัดให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม เพื่อให้ผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัดได้มาฟื้นฟูสมรรถนะและศักยภาพให้สมบูรณ์มากก่อนที่จะกลับเข้ามาใช้ชีวิตในสังคมโดยไม่กลับมาใช้ยาเสพติดซ้ำอีก โดยสามารถนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ใกล้ชิดกับประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนการดำเนินงานในจุดนี้
ขณะเดียวกันอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญส่งผลให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเกิดผลสัมฤทธิ์ คือพลังของประชาชน ซึ่งภาครัฐจะต้องเข้าไปมีส่วนสนับสนุนให้ประชาชน รวมพลังกันเพื่อต่อต้านยาเสพติด ตนขอให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านทุกคนรับเป็นผู้นำ โดยอาจมีการกำหนดกติการ่วมหรือ ธรรมนูญหมู่บ้าน เรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ทุกคนรับทราบและปฏิบัติตาม ในการเดินทางไปหมู่บ้านหลายครั้งตนพบกับประชาชนซึ่งประสบความทุกข์เรื่องยาเสพติด แต่สิ่งหนึ่งที่เขากังวลใจคือ ตกลงรัฐบาลเอาจริงหรือไม่ ถ้ารัฐบาลเอาจริงเขาก็พร้อมที่จะร่วม ซึ่งปัญหาที่ผ่านมานอกจากปัญหาของอาชญากรที่สร้างอาชญากรรมเข้ามาแล้ว มีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหลายส่วนหลายระดับ ทำให้ปัญหายาเสพติดไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปกครอง หรือแม้แต่กำนันผู้ใหญ่บ้านบางส่วน ซึ่งการที่จะเป็นผู้ดำเนินการจัดการกลับเป็นผู้มีส่วนร่วมสนับสนุนหรือแม้กระทั่งทำเองโดยตรง ในศูนย์กลางการทำงานของพวกเราขณะนี้มีรายชื่อของระดับเจ้าหน้าที่ต่างๆ ตั้งแต่หมู่บ้านขึ้นมา เพราะฉะนั้นวันนี้เราได้เห็นแล้วว่าปัญหายาเสพติดกระทบกับเรารุนแรงมากแค่ไหนและทุกข์ของประชาชนที่เห็น วันนี้รุนแรงมากจนกลายเป็นสิ่งที่กล่าวถึงกันไปทั่วทุกประเทศ อยากให้คิดว่าหากในครอบครัวมีลูกหลานติดยาเสพติด กลายเป็นอาชญากร เราได้เห็นภาพที่พ่อยิงลูกยิงแม่ สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทย ปัญหาเกิดขึ้นเพียงว่าอยากได้เงินนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ ลุกลามเข้าไปหมด ปัญหายาเสพติดถือเป็นปัญหาพื้นฐาน แต่เวลาพูดสิ่งที่เขารู้สึกมากและสะเทือนใจคือลูกหลานเขาติดยาเสพติด และเขารู้หมดว่าในหมู่บ้านใครค้าใครๆ ใครสนับสนุน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ที่เรียกมาทั้งหมดที่มาพูดคุยกันคืออยากขอความร่วมมือให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ตนไม่เชื่อว่าพลังของส่วนราชการทั้งหมดหรือคนไทยทั้งหมดจะแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่ได้ ปัญหามีอยู่อย่างเดียวคือเราเอาจริงหรือเปล่า แต่เรากล้าที่จะทำแล้วหรือยัง ปัญหาเราเยอะแยะมาก สิ่งที่เราได้พูดถึง อยากให้กำลังใจคนที่ทำงาน แต่ก็มีกล้ามาก กล้ากระทำสิ่งต่างๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ใช้อำนาจหน้าที่ในการทำงาน เพราะฉะนั้นเราต้องควบคุมพวกเรากันเอง และร่วมมือกับชาวบ้านรวมพลังกัน ตนคิดว่าปัญหายาเสพติดแก้ได้ เพราะฉะนั้นในการทำเหล่านี้เรามีทั้งคุณทั้งโทษ ถ้าพบว่าใครเมินเฉยนิ่งเฉย ทั้งระดับจังหวัด ผู้การ ผู้ว่าฯ ระดับอำเภอ นายอำเภอ ถ้าเราไม่รักพื้นที่ชุมชนที่เราอยู่แล้วเราจะไปรักใครได้ เราไม่รักประเทศชาติแล้วเราจะอยู่กันอย่างไร เพราะฉะนั้นถ้ามีปัญหา อย่างน้อยในช่วง 3 เดือนนี้ จะแสดงให้เห็นและจะทำต่อไป ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงเรามีมาตรการ จับดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ผู้กำกับผู้การจังหวัด ถ้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาและมีส่วนร่วมในการดำเนินการ ขั้นแรกจะย้ายออกจากพื้นที่ และดำเนินคดีตามสภาพความผิดที่เกิดขึ้น ไม่ต้องรอให้กระบวนการต่างๆ เป็นตัวชี้วัดที่มีอยู่และการข่าวเรามีทั้งหมด เราดำเนินการไปแล้วและสามารถที่จะยืนยันได้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตรงนี้ตนไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องการมาข่มขู่กัน แต่ถ้าเราไม่ใช้กฎเหล็กในการแก้ไขปัญหา
เรามีทั้งคนที่ทำดี ให้สามารถทำหน้าที่ให้ดีขึ้น ใครที่มีส่วนร่วมได้รับผลประโยชน์และมีปัญหาเราจะจัดการทันที โดยการย้ายออกจากพื้นที่ จึงอยากฝากให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรับรู้รับทราบว่ามาตรการเหล่านี้เป็นมาตรการที่ทำให้เห็นและจะใช้ความเข้มข้นนี้ต่อเนื่องต่อไปและจะมีมาตรการไปถึงส่วนที่เกี่ยวข้อง และมากกว่า Seal Stop Safe 14 จังหวัด นั่นคือ อำเภอดำเนินการทั่วประเทศ เพราะเราพบยาเสพติดจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ดูชายแดนอย่างเดียว ชายแดนเป็นเรื่องสกัดกั้นไม่ให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น
นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า ถ้าผู้ว่าฯ หรือผู้การฯ ใกล้เกษียณไม่มาทำงาน หรือไม่ใกล้เกษียณแต่มีส่วนร่วมในการรักษาผลประโยชน์ เราพบอยู่หลายจุดหลายจังหวัด นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง สำหรับตนเป็นรมว.มหาดไทย ตนได้ข้อมูลการข่าวจากเรื่องยาเสพติดมีมาก ถ้าพบว่ามีแหล่งต่างๆ ที่สร้างปัญหาก็จะย้ายเลยไม่ว่าจะเป็นอย่างไรและจังหวัดอำเภอ หรือผู้ที่มีอิทธิพลเกี่ยวข้องทั้งหมด นี่คือนโยบายที่เคร่งครัดที่จะดำเนินการใน 3 เดือนนี้ให้ได้ผลอย่างชัดเจน
นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้านสามารถสนธิกำลังกับชรบ. ที่มีอยู่ถึง 6-7 แสนคน ซึ่งล้วนเป็นแบบผู้ที่อยู่ในหมู่บ้าน ตนเชื่อว่าเขารู้หมด เพราะฉะนั้นกำนันผู้ใหญ่บ้านและชุดชรบ. ถือเป็นกำลังสำคัญและเป็นหัวใจในการแก้ไขปัญหา ถ้าท่านรวมตัวกันสร้างพลังมวลชนขึ้นมาให้เป็นตาสับปะรดในทุกพื้นที่ ตนเชื่อว่าจะได้ค้นพบแหล่งต่างๆ ได้มาก ก็ฝากความหวังไว้ที่พลังของชุมชนให้มีส่วนร่วมจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตได้เอง ส่วนราชการจะสนับสนุนส่งเสริมให้เต็มที่ เข้มงวดเข้มข้นกับผู้บังคับบัญชาในระดับต่างๆ
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า อยากให้กำนันผู้ใหญ่บ้านและชุดชรบ. และเครือข่ายชุมชน เข้าไปมีส่วนในการสกัดกั้น ไม่ให้มีผู้ค้ายาเสพติดลักลอบในชุมชนและเฝ้าระวัง ไม่ให้มีผู้ที่เสพยาเสพติดและผู้มีอาการคุ้มคลั่ง การดำเนินการเหล่านี้ จะช่วยให้ชุมชนปลอดภัยและอยากให้มีการปรับรูปแบบการดำเนินงานให้เป็นจังหวัดสีขาว เช่น ธวัชบุรีโมเดลที่เกิดผลสำเร็จ พร้อมทั้งอยากให้จังหวัดที่อยู่บริเวณชายแดน นำรูปแบบการดำเนินการดังกล่าวไปปรับใช้ให้เหมาะกับสภาพปัญหาและบริบทของพื้นที่
นายภูมิธรรม เน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจภูธรชุดแรกผู้บังคับการ ตำรวจภูธรทุกจังหวัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี