วันพฤหัสบดี ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘ทรัมป์’ขู่!ไม่เจรจาภาษีถ้าไม่หยุดยิง ‘ไทย’คุย‘เขมร’28ก.ค. ‘ภูมิธรรม’บินด่วนมาเลย์ เผชิญหน้า‘ฮุน มาเนต’

‘ทรัมป์’ขู่!ไม่เจรจาภาษีถ้าไม่หยุดยิง ‘ไทย’คุย‘เขมร’28ก.ค. ‘ภูมิธรรม’บินด่วนมาเลย์ เผชิญหน้า‘ฮุน มาเนต’

วันจันทร์ ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : กัมพูชา เขมร เจรจาหยุดยิง ทรัมป์ ไทย ภาษีสหรัฐ ภูมิธรรม ฮุนมาเนต
  •  

‘ทรัมป์’ขู่!ไม่เจรจาภาษีถ้าไม่หยุดยิง

‘ไทย’คุย‘เขมร’28ก.ค.

‘ภูมิธรรม’บินด่วนมาเลย์

เผชิญหน้า‘ฮุน มาเนต’

เขมรคลั่งยิงตาเมือนธม

ไทยส่งF16ถล่มกระเจิง

 

“ทรัมป์”ยกปิดดีลการค้า บีบ“ไทย-กัมพูชา”หยุดยิง หากไม่หยุดไม่เจรจาภาษีสหรัฐ เผยคุยทั้งสองประเทศแล้ว “ภูมิธรรม”ถก“ทรัมป์”ขอช่วยประสาน ไทยคุยทวิภาคีเขมร หยุดยิง-แก้ไขข้อพิพาท เผยเป็นไปในทิศทางดี “ฮุน มาเนต” เห็นด้วยข้อเสนอหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข โฆษก ทบ.ลั่นหยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีต่อเนื่อง ทอ.ส่ง F16-กริพเพน ถล่มปืนใหญ่ ฐานเขมร ตาควาย-ตาเมือนธม “ศปก.ทภ.2” สรุปสู้รบชายแดนตึงเครียดสูง คาดกัมพูชาเตรียมโจมตีหนักโค้งสุดท้ายก่อนเจรจา


เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว @realDonaldTrump ว่า เขาเพิ่งคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเกี่ยวกับการยุติสงครามกับไทย และขณะนี้กำลังโทรหา รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย เพื่อเรียกร้องให้หยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังลุกลามอยู่ บังเอิญว่า เรากำลังเจรจาด้านการค้ากับทั้งสองประเทศ แต่จะไม่ทำข้อตกลงใดๆ หากทั้งสองฝ่ายยังสู้รบกันอยู่ และผมได้บอกพวกเขาแบบนั้นแล้ว การหารือกับไทยจะเริ่มในไม่ช้า ส่วนการคุยกับกัมพูชาเสร็จสิ้นแล้ว แต่คาดว่าจะโทรกลับไปอีกครั้งเกี่ยวกับการยุติสงครามและหยุดยิง ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ไทยจะตอบมา ผมพยายามทำให้สถานการณ์ซับซ้อนนี้เรียบง่ายลง! มีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตในสงครามครั้งนี้ มันทำให้ผมนึกถึงความขัดแย้งระหว่างปากีสถานกับอินเดีย ที่สหรัฐสามารถยุติลงได้สำเร็จ

คุยทั้งสองฝ่ายขอให้หยุดยิงแล้ว

ต่อมา ประธานาธิบดีทรัมป์ โพสต์เพิ่มเติมว่า ผมเพิ่งคุยกับรักษาการนายกรัฐมนตรีไทย เป็นการสนทนาที่ดีมาก ไทยก็เหมือนกัมพูชา ที่ต้องการให้มีการหยุดยิงทันทีและมีสันติภาพ ตอนนี้ผมจะส่งข้อความนี้กลับไปให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาทราบ หลังจากคุยกับทั้งสองฝ่ายแล้ว การหยุดยิง สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองดูจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เราจะได้เห็นผลลัพธ์ในไม่ช้า!

ทรัมป์ โพสต์อีกครั้งว่า ผมเพิ่งได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา และได้แจ้งให้เขาทราบถึงการหารือของผมกับประเทศไทยและรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ทั้งสองฝ่ายกำลังมองหาการหยุดยิงและสันติภาพโดยทันที พวกเขายังต้องการกลับเข้าสู่ “โต๊ะเจรจา” กับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมที่จะเจรจาจนกว่าการสู้รบจะยุติลง พวกเขาได้ตกลงที่จะพบกันทันที และหาข้อตกลงหยุดยิงอย่างรวดเร็ว ในที่สุดสันติภาพก็เกิดขึ้น นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้หารือร่วมกับทั้งสองประเทศ ซึ่งมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยาวนาน หวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติไปอีกหลายปี เมื่อทุกอย่างยุติลง และสันติภาพเกิดขึ้นแล้ว ผมตั้งตารอที่จะได้ลงนามในข้อตกลงทางการค้ากับทั้งสองประเทศ

“ภูมิธรรม”ขอ“ทรัมป์”คุยเขมร

กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที รักษาการนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง

อย่างไรก็ดี ฝ่ายไทยประสงค์ที่จะเห็นความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว จึงขอให้ฝ่ายสหรัฐ ช่วยถ่ายทอดไปยังฝ่ายกัมพูชาว่า ฝ่ายไทยประสงค์ให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนสำหรับการหยุดยิง และนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐ ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง อย่างไรก็ดี ฝ่ายไทยประสงค์ที่จะเห็นความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว จึงขอให้ฝ่ายสหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดไปยังฝ่ายกัมพูชาว่า ฝ่ายไทยประสงค์ที่มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด โดยกัมพูชาต้องแสดงความจริงจังและจริงใจให้มั่นใจ เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนสำหรับการหยุดยิง และนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนต่อไป

ยืนยันคุย“ทรัมป์”เป็นไปในทิศทางดี

ที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีที่ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงโดยทันที ไม่เช่นนั้นจะไม่เจรจาการค้ากับประเทศที่กำลังรบกันอยู่ ว่า เรามีการคาดการณ์ว่าทางสหรัฐอเมริกาจะมีการพูดคุยได้เรื่องนี้ จึงได้มีการหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นรักษาการ รมว.กลาโหม และได้มีการสอบถามเหล่าทัพ โดยเฉพาะกองทัพบก เพราะตอนนี้เป็นการรบผสมเหล่า จึงได้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนแล้ว

นายภูมิธรรมกล่าวว่า เพราะฉะนั้นการหารือในครั้งนี้เป็นการหารือบนพื้นฐานที่เราได้ทำงานร่วมกันทุกส่วน อันที่จริงไม่ใช่มีแค่สหรัฐอเมริกา ประเทศจีน และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ได้โทร.หาเช่นกัน ซึ่งได้ข้อสรุปคล้ายๆ กันคืออยากเห็นสันติภาพ อยากเห็นการหยุดยิง เพราะเป็นห่วงพลเรือนไทย เกรงว่าการรบจะทำให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งเขาไม่อยากเห็น เริ่มต้นการพูดคุยเราเล่าให้ฟังว่าที่ผ่านมาเรายึดในหลักของสันติภาพและการเจรจาเพื่อขอแยกกันตลอด

“ผมยืนยันว่า เราทำมาโดยตลอดและเราได้เล่าให้ฟังว่า มีการยิงเข้ามาถูกพลเรือนโดยไร้เป้าหมายทางทหาร ซึ่งเราตอบโต้ในจุดที่เป็นฐานเป้าหมายทหาร เพราะเราคิดว่าเป็นปัญหาที่ทำลายมาถึงประชาชนไทย เราได้รายงานไปว่าพลเรือนไทยเสียชีวิตประมาณ 15 คนและมีผู้บาดเจ็บประมาณ 50 คนและเราได้อพยพพลเรือนจากส่วนต่างๆ ออกมา 130,000 คนกระจายในศูนย์อพยพต่างๆ ในฐานะที่เราเป็นผู้พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังเราได้สั่งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทุกจุด ซึ่งเรามองว่าสถานที่ในการตอบรับอาจจะยังไม่เพียงพอจึงได้ประสานไปอย่างกรมอุทยานให้นำเตียงสนาม เต็นท์ต่างๆ ไปดูแลประชาชน”

อยากเปิดเจรจาให้เร็วที่สุด

นายภูมิธรรมกล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นเขาไม่ประสงค์ที่จะเห็นโดยระบุว่าถ้ายังไม่สามารถหยุดยิงได้เขาก็ไม่พร้อมที่จะเจรจาทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งเราบอกว่าไม่มีปัญหาเพราะเป็นหลักการอยู่แล้ว แต่เงื่อนไขของเราคือต้องให้กัมพูชาสร้างความมั่นใจ ซึ่งเขาได้ขอบคุณ เพราะสิ่งที่เราเสนอไปเป็นเรื่องที่ดี จากนั้นเขาเองจะโทร.ไปหาฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาอีกที ตอนนี้เราไม่ได้ต้องการให้ประเทศที่สามเข้ามาแทรกแซง แต่ขอบคุณที่เขาห่วงใยและสนับสนุน เราเสนอให้มีการพูดคุยกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองประเทศ คุยให้จบว่าจะมีเงื่อนไขอย่างไรที่จะเป็นมาตรการในการหยุดจริงและถอยกำลังทหารและยุทโธปกรณ์วิถีไกลออก

ส่วนจะเริ่มคุยกับทางกัมพูชาล่าสุดเมื่อไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า เมื่อวานนี้เราให้รัฐมนตรีต่างประเทศคุยต่อ เข้าใจว่าวันนี้ ถ้านัดได้ก็จะคุยได้กันเลย แต่วันนี้ตนได้ชวนรัฐมนตรีต่างประเทศไปดูพื้นที่จริงและที่เลือกจังหวัดจันทบุรีและตราดเพราะเป็นพื้นที่เปิดยุทธการใหม่ ซึ่งมีการยิงกัน และพื้นที่ที่ผ่านมาเราได้ส่งรัฐมนตรีลงพื้นที่หมดแล้ว อยากให้ประชาชนคลายกังวลเรารู้ว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากและเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะตามชายแดน ซึ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเราประณามเป็นอาชญากรระหว่างประเทศที่ทำร้ายพลเรือน ผิดข้อบังคับกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมด เป็นสิ่งที่เราคำนึงถึงตลอดหากเกิดสงครามคนที่ได้รับปัญหาคือคนชายแดน

ขอปชช.ระวังแพร่ภาพในโซเชียล

นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากดูจากโซเชียลก็จะเห็นว่ามีการปะทะกันอย่างดุเดือด ซึ่งเราขอให้ระมัดระวังในการเผยแพร่ภาพ เพราะจะเป็นปัญหาในทางยุทธการของกองทัพ รวมถึงอาจเอื้อประโยชน์ให้กับทหารของฝ่ายเขา จึงขอความระมัดระวังอย่างยิ่งเพื่อประโยชน์ของประเทศและเพื่อการต่อสู้ของทหารที่อยู่แนวหน้า ถ้าเขายิ่งรู้หรือยิ่งเห็นจุดทั้งหมดการมุ่งเป้าในการทำลายฐานทหารก็จะเป็นจริงขึ้น เราต้องห่วงชีวิตของพี่น้องทหารด้วย ส่วนในเรื่องของประชาชนวันนี้ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องโกลาหลขณะที่เราได้เตรียมการบ้างแล้ว เราพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ทางกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วว่าให้ดำเนินการ ทั้งหมดเป็นการกระทำที่มีการปรึกษาหารือและเห็นพ้องต้องกันในทุกฝ่ายของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราให้ความสำคัญคือเราได้ให้อำนาจกับทหาร เช่น การประกาศภาวะฉุกเฉินในจังหวัดจันทบุรีและตราด ทางผู้บัญชาการทหารบกได้หารือมาซึ่งเราก็เห็นชอบและอนุมัติ

“อยากให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า เราทำงานนึกถึงสิทธิประโยชน์หรือชีวิตทรัพย์สินของประชาชนโดยเฉพาะชีวิตของแนวหน้า ตอนนี้มีหน่วยงานเอกชนต่างๆ ให้การสนับสนุนผ่านมูลนิธิ ผ่านหน่วยงานราชการก็ต้องขอขอบคุณอย่างยิ่ง ทหารจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ประชาชนไม่ต้องห่วงจนกว่ารัฐบาลจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะไม่เป็นภัยต่อประชาชนและเพื่อนำไปสู่สันติภาพ ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศได้ทำหน้าที่ประสานงานคุยส่วนตัวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การประชุมเมื่อวานนี้ก็จะเห็นว่าทุกประเทศก็มีประเด็นเดียวคือขอให้ยุติ และนำไปสู่สันติสุข โดยไม่ได้มีประเด็นที่กัมพูชาเรียกร้อง” นายภูมิธรรม กล่าว

ต้องทำให้มั่นใจว่าเขมรจะหยุดยิงจริง

เมื่อถามว่าเรายังไว้ใจกัมพูชาได้อยู่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราได้บอกโดนัลด์ ทรัมป์ ไปแล้วว่าต้องทำให้มั่นใจว่ากัมพูชาจะไม่มีการพลิก เพราะฉะนั้นการเจรจาสันติภาพกับการขอให้หยุดยิงและนำยุทโธปกรณ์ออกจากพื้นที่ เป็นหลักประกันว่ามีความจริงใจที่อยากหยุดยิง เราประกาศมานานแล้วเรื่องของการหยุดยิง เขาเพิ่งมาประกาศว่าอยากหยุดยิง และนำคำมาพูดเสมือนว่าเรารุกราน แต่เท่าที่เราประเมินแล้วชัดเจนว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายรุกราน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำคือการปกป้องอธิปไตย ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ส่วนเรื่องภาษีของสหรัฐ ก็ไม่มีปัญหาถ้าหยุดยิงเมื่อไหร่ก็จะมีการแจ้งให้ทั้งสองฝ่าย โดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่าถ้าการหยุดยิงเป็นประโยชน์ต่อชาวโลก เห็นว่าตรงนี้สามารถปกป้องพลเรือนได้ เราเลยขอฝากเรื่องนี้ไว้ เราเป็นฝ่ายที่รักสันติสิ่งที่เราทำคือการรักษาอธิปไตยของเรา

“ผมยังไม่สามารถพูดว่าเรื่องนี้จะยุติภายในวันที่ 1 สิงหาคมได้หรือไม่ เพราะต้องดูฝ่ายกัมพูชา หากทางกระทรวงต่างประเทศคุยสำเร็จเราจะต้องมีการปรึกษาหารือกับกองทัพ เพราะขณะนี้กัมพูชาเปิดแนวรบยิงถึง 800 กิโลเมตรตั้งแต่อีสานลงมาถึงจังหวัดตราด ถึงแม้จะประกาศหยุดยิงก็ต้องมีการพูดคุยกันในรายละเอียด ส่วนตัวมองว่าแนวโน้มในเรื่องของภาษีจะไปในทางบวก เพราะเราดำเนินการอย่างเป็นมิตรกับทุกประเทศ เราขอบคุณมาเลเซีย จีน และสหรัฐ ที่ยื่นมือเข้ามาด้วยความห่วงใย เขาได้เจรจากับเราโดยทราบข้อเท็จจริงมากขึ้นและมีความเข้าใจและห่วงใย” นายภูมิธรรม กล่าว

“ฮุน มาเนต”เห็นด้วยหยุดยิงทันที

นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก หลังการหารือทางโทรศัพท์ กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า

ในคืนวันเสาร์ที่ 26 ก.ค. ผมได้หารือทางโทรศัพท์กับ โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการสู้รบด้วยอาวุธในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความจำนงอันแน่วแน่ว่าไม่ต้องการเห็นสงครามหรือการสู้รบที่นำไปสู่การเสียชีวิตและการบาดเจ็บจำนวนมากของทั้งสองฝ่าย ซึ่งรวมถึงทั้งทหารและพลเรือน ด้วยเหตุนี้เอง ทรัมป์ จึงพยายามอย่างยิ่งในการอำนวยความสะดวกและประสบความสำเร็จในการยุติการสู้รบในหลายประเทศทั่วโลก เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพกัมพูชาและกองทัพไทย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ต้องการเห็นการหยุดยิงทันทีและสันติภาพระหว่างทั้งสองประเทศ ในการตอบกลับ ผมได้ยืนยันอย่างชัดเจนกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่ากัมพูชาเห็นด้วยกับข้อเสนอให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างกองทัพทั้งสองฝ่าย อันที่จริงแล้ว จุดยืนนี้ผมเคยยืนยันกับ นาย อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและประธานอาเซียนคนปัจจุบัน เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาแล้วด้วยเช่นกัน

มอบรมต.ต่างประเทศประสานต่อ

ข่าวดีที่ผมได้รับจาก โดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากที่ ทรัมป์ ได้หารือกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย คือฝ่ายไทยได้เห็นด้วยกับข้อเสนอของ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับการหยุดยิงทันทีเช่นกัน นี่เป็นข่าวดีสำหรับกองทัพและประชาชนของทั้งสองประเทศ ผมหวังว่าฝ่ายไทยจะไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนนี้อีกครั้ง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ภายใต้การอำนวยความสะดวกของ นายอันวาร์ อิบราฮิม ผมได้มอบหมายภารกิจให้ ปรัก สุคนธ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป โดยให้หารือกับ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อประสานงานกับฝ่ายไทย โดยมีเป้าหมายที่จะดำเนินการตามหลักการที่ได้ตกลงกันไว้ให้เร็วที่สุด ซึ่งจะสามารถยุติการเสียชีวิตและการบาดเจ็บของทหารและประชาชนของทั้งสองฝ่ายได้

ผมขอขอบคุณ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้ริเริ่มและอำนวยความสะดวกในการแสวงหาการหยุดยิงโดยทันทีและสันติภาพระหว่างกัมพูชาและไทยในขณะนี้ ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมนี้จะช่วยปกป้องชีวิตของทหารและพลเรือนจำนวนมาก ทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทย ที่อาจต้องสูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ และจะช่วยให้ผู้ลี้ภัยนับแสนคนสามารถกลับไปใช้ชีวิตในหมู่บ้านของตนเองได้อย่างสงบสุขและปลอดภัยต่อไป

เขมรยังโจมตีใส่ไทยไม่หยุด

พลตรีวินธัยสุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯกัมพูชา และ นายภูมิธรรมเวชยชัย รักษาการนายกฯไทยว่า หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหาร ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เวลา 04.30น.ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหารแต่บ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน เวลา 06.30น.กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ (ยังไม่ทราบจำนวน) บ้านเรือนราษฎรเกิดไฟไหม้ รถดับเพลิงกับรถกู้ ชีพกำลังเข้าดำเนินการดับ ห่างกัน 10 นาที ช่วงเวลา 06.40 น. กัมพูชายิงปืนใหญ่เข้ามาตกใส่บ้านประชาชนทำให้ไฟไหม้บ้านทั้งหลัง ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ต่อมา เวลา 07.45น.มีกระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านหนองจูบ ม.2 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จำนวน 3 ลูก เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ห่างกัน 5 นาที ช่วงเวลา 07.50 ทางทหารกัมพูชา ยังยิงจรวด BM21 ลงมาในพื้นที่ อ.ช่องจอม จ.สุรินทร์ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย ส่วนชาวบ้านอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย ก่อนหน้านี้แล้ว

ขณะที่เพจกองทัพบกทันกระแส ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า ไหน? ใครบอกหยุด กัมพูชา ยิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ทำลายโบราณสถาน “ฮุนเซนคิด ฮุนมาเนตทำ”

ส่ง“F16-กริพเพน”ถล่มฐานเขมร

เวลา 10.30 น.กองทัพอากาศไทยส่งเครื่องบิน F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตีพื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหารของทางทหารกัมพูชาบริเวณปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม เป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยทั้งนี้ ผลการปฏิบัติการทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย

พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับ กอ.รมน. กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เผยจุดยืนด้านความมั่นคงของชาติ ว่า 1.จุดเริ่มต้นของการใช้กำลังในครั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เริ่ม ดังนี้ 1.1 แสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์บนปราสาท 1.2 เผาศาลาตรีมุข 1.3 ล้ำอธิปไตยไทยขุดสนามเพลาะ1.4วางระเบิดสังหารบุคคลเริ่มวิกฤต 1.5ทหารไทยเหยียบระเบิด 2 ความชอบธรรมในการปฏิบัติการทางลึก 2.กัมพูชาเคลื่อนกำลังจำนวนมากเข้าประชิดชายแดน 2.1 กัมพูชาใช้อาวุธยิงระยะไกลทำลายโรงพยาบาลโรงเรียนและประชาชนชาวไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 2.2 การเคลื่อนอาวุธจรวดขีปนาวุธ PHL-03 2.3ไทยต้องการจบสถานการณ์ให้เร็ว 2.4 เราทำลายเป้าหมายทางทหาร 3 ความไม่จริงใจของกัมพูชา 3.1 ในขณะที่สื่อสารต่อชาวโลกว่าต้องการจะพูดคุยและหยุดยิงตอนตีสอง แต่ตอนตีสี่ กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อน 3.2 หรือว่าจะสร้างความชอบธรรมในการใช้จรวด ด้วยการ -แสดงออกว่าจะพูดคุยต่อชาวโลก -เสนอภาพการปะทะวันนี้ อ้างว่า จำเป็นต้องใช้ PHL-03 และ 4 เรียกร้องให้ “ฮุน มาเนต” แถลงอย่างเป็นทางการในการหยุดยิง และเจรจากับไทย

ทภ.2เตือนเขมรใช้ขีปนาวุธPHL-03

เพจกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความเตือนระวังเขมรสั่งถอนกำลัง คาดว่าจะยิงขีปนาวุธ PHL-03 ยิงหลายลูกพร้อมกันในระยะทางไกลถึง 130 กิโลเมตร รัศมีจะครอบคลุม จ.อุบลฯ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกศ จ.บุรีรัมย์ ทั้งพื้นที่ และบางส่วนของ จ.ยโสธร (อ.มหาชนะชัย อ.ค้อวัง) จ.ร้อยเอ็ด (อ.เมืองสรวง อ.สุวรรณภูมิ อ.โพนทราย อ.พนมไพร อ.หนองฮี อ.เกษตรวิสัย อ.ปทุมรัตน์) จ.มหาสารคาม (อ.พยัคฯ) จ.นครราชสีมา (หลายอำเภอตอนล่าง) ย้ำกองทัพมีอาวุธทำลายขีปนาวุธชนิดนี้ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก ให้เฝ้าระมัดระวัง ติดตามข่าวสาร เตรียมความพร้อมเมื่อเกิดเหตุ

ด้าน พล.ต.วันชนะ สวัสดี ย้ำว่าอาวุธหนักที่เข้ามาสนับสนุน แสดงให้เห็นว่าฝ่ายไทยยังไม่สามารถไว้วางใจกัมพูชา ต้องเตรียมตอบโต้ทุกรูปแบบ

ลั่นเขมรต้องหยุดยิงเป็นที่ประจักษ์

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า จากกรณีปรากฏเป็นข่าวในการเรียกร้องของบางประเทศให้ทั้งไทยกับกัมพูชาหยุดยิง ฝ่ายไทยขอชี้แจงว่า เห็นด้วยในหลักการดังกล่าว แต่จะกระทำได้ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและเข้าร่วมหารือในขั้นตอนในรายละเอียดต่างๆ ด้วย รวมทั้งหยุดยิงเป็นที่ประจักษ์

พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ที่ผ่านมาเห็นได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงมีการส่งกำลังทหารเข้าปะทะบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ของเขาพระวิหาร ในเวลา 02.10 น. ประกอบด้วย การยิงจรวด BM-21 ในเวลา 06.10 น. เป็นกระสุนชนิดจรวดเข้ามายังฝ่ายไทย ตกบริเวณบ้านตาโสร์ หมู่ 10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายของพลเรือน ทำให้บ้านของพลเรือนเสียหาย นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ในเวลา 15.30 น. กระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาได้พุ่งเป้าใส่โรงพยาบาลในพื้นที่ ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศรีสะเกษ โรงพยาบาลบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งมีการใช้ประชาชนเป็นโล่กำบังในการตั้งอาวุธยิง ถือเป็นการใช้ประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างไร้หลักมนุษยธรรมในเรื่องของความเป็นมนุษย์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาเจนีวาอย่างชัดเจน

ซัดเขมรไม่มีความจริงใจ

พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น เราขอประณามในเรื่องของความไม่จริงใจในการพูดคุยของฝ่ายกัมพูชา โดยที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาได้ปฏิเสธและเลื่อนการพูดคุยเจรจาหารือในเวทีทวิภาคีอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเจบีซี จีบีซี หรืออาร์บีซี ฝ่ายไทยมองว่าการประชุมต่างๆ เหล่านี้ถือว่าสามารถนำประเด็นต่างๆ ที่เรามีข้อขัดแย้งระหว่างกัน สามารถนำมาหารือได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มที่ ที่ผ่านมาสังเกตได้ว่าฝ่ายกัมพูชามีการเสริมกำลังทางทหาร มีการเตรียมที่มั่นดัดแปลงตามบริเวณชายแดนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา

นอกจากนี้ มีการแสดงท่าทียั่วยุส่งเสริมการปลุกระดมมวลชนชาวกัมพูชาทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าสู่พื้นที่ความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดน โดยใช้กระแสชาตินิยมมาปลุกปั่น หวังยกระดับให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ตลอดจนการแสดงออกท่าทีของความพร้อมในการใช้กำลังทหารผ่านการโพสต์ ผ่านทางช่องทางสื่อสารสังคมออนไลน์ต่างๆ ด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง และกล่าวหาประเทศไทยอย่างไร้หลักฐานที่เป็นชนวนของความไม่พอใจและนำไปสู่การใช้ความรุนแรงต่อกันในเวลาต่อมา

“บิ๊กเล็ก”ลั่นหยุดยิงต้องฟังเสียงปชช.

ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบ.ทก. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ พูดคุยกับนายภูมิธรรม ให้หยุดยิง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการหยุดยิงแต่อย่างใด ว่า ฝ่ายรัฐบาลไทยต้องฟังเสียงประชาชน เรามีกลไก มีรัฐบาล ไม่สามารถที่จะตอบได้ในทันที โดยระหว่างนายภูมิธรรมพูดคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตน เลขาธิการนายกฯ รมว.ต่างประเทศ เลขา สมช. อยู่ในวงพูดคุยด้วย ทางเราได้บอกไปว่ารับดำเนินการ แต่ขอให้เป็นไปตามกลไกและกระบวนการ

“เพราะประเทศไทยปกครองระบอบประชาธิปไตย เราฟังเสียงประชาชน มีกลไกรัฐบาล แตกต่างจากทางกัมพูชาที่ปกครองโดยคนสองคนหรือสามคน เขาจึงสามารถตอบได้ทันทีว่าเยสหรือโน แต่ของเราต้องหารือในรัฐบาลก่อน ไม่สามารถที่จะตอบได้เพียงแค่คนสองคนหรือสามคน ต้องมีคณะพูดคุย คณะเจรจา ที่สำคัญต้องฟังเสียงประชาชนด้วย” พล.อ.ณัฐพลกล่าว และว่า ประเทศไทยมีกลไกของรัฐบาล การดำเนินการต้องดำเนินการแบบเป็นทางการ ไม่ใช่การดำเนินการแบบส่วนตัวที่มีเพียงคน 2-3 คน ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่นาน เพราะสังคมโลกดูเราอยู่ว่าเรามีความจริงใจหรือไม่

ยันไทยจริงใจที่จะหยุดยิง

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ พูดคุยกับกัมพูชาแล้ว แต่กัมพูชาไม่มีการหยุดยิง พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนคงเห็นแล้วว่าเขามีความจริงใจหรือไม่ ถ้าตนเป็นส่วนหนึ่งในซีกของกองทัพก็ไม่สบายใจตรงนี้ว่าเขาจะมีความจริงใจอย่างไร นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เขายิงก่อน ครั้งแรกคือวางกับระเบิด เป็นสิ่งที่เราไม่สบายใจ ย้ำว่าเรามีความจริงใจแน่นอนที่จะหยุดยิง

เมื่อถามว่า มีนักวิชาการและนักการเมืองเสนอไปฟ้องสมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องสนับสนุนและดำเนินการ เพราะกองทัพและ ศบ.ทก.ไม่มีความชำนาญในด้านนี้ แต่เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ต้องฟังกระทรวงการต่างประเทศ หากกระทรวงการต่างประเทศให้คำแนะนำอย่างไร ศบ.ทก.และกองทัพจะนำไปปฏิบัติตาม ที่ผ่านมากองทัพยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม

ยอมรับกังวลอาวุธยิงระยะ100กม.

เมื่อถามว่า ทางกัมพูชามีอาวุธยิงระยะ 100 กว่ากิโลเมตร ถ้าเขาใช้อาวุธดังกล่าวเรากังวลหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า กังวล ตนกังวลมาตั้งนานแล้ว บอกประชาชน บอกสื่อมวลชนมาตั้งนานแล้ว เพราะเราทราบในห้วงเวลาที่ผ่านตนไม่อยากพูดประเด็นนี้เดี๋ยวจะถูกตำหนิอีก แต่ในสถานการณ์อย่างนี้ตนต้องบอกความจริงว่าเวลาที่ผ่านมาเราถูกตัดงบประมาณสำหรับซื้ออาวุธ เราจัดซื้อเท่าที่จำเป็น ดังนั้นอาวุธเชิงรุกรานเราไม่ได้ซื้อเอาไว้เน้นไปที่ป้องกันอธิปไตยเท่านั้น แต่ก็มีจำนวนหนึ่งซึ่งไม่มาก แต่ของเขามีถึง 6 ระบบ

“ตรงนี้เป็นสิ่งที่กองทัพคงต้องทบทวนในฐานะที่ผมเป็นรัฐบาลและกองทัพ ผมได้พูดคุยกับรัฐบาลว่าหลังจากนี้คงต้องขอความกรุณาจากประชาชนให้เห็นใจกองทัพ และต้องคุยกับกองทัพเช่นเดียวกันว่าไม่ใช่พอประชาชนเห็นใจแล้วจะจัดหาแบบกอบโกยก็ไม่ได้ต้องเอาเฉพาะที่จำเป็น ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนมั่นใจช่วงที่ผมอยู่ตรงนี้จะไม่ทำให้เกิดอย่างนั้นเป็นอันขาด ถ้าเกิดขึ้นก็ต้องสอบสวนลงโทษผู้กระทำผิดเช่นกัน” พล.อ.ณัฐพล กล่าว

ศปก.ทภ.2เตือนถล่มหนักก่อนเจรจา

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ค.2568 (ณ เวลา 12.00 น.) ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้ สถานการณ์การสู้รบ ถึงวันที่ 27 ก.ค.2568 เวลา 12.00 น. สภาพอากาศตามแนวชายแดนยังปรากฏฝนตกหนักในหลายพื้นที่, ภาพรวมสถานการณ์ในช่วงบ่าย จนถึงช่วงกลางคืน ของวันที่ 26 ก.ค.2568 มีการปฏิบัติที่สำคัญจำนวน 7 พื้นที่ (ลดลงจากวันแรก 3 พื้นที่) ดังนี้ 1. พื้นที่ช่องบก ทั้ง 2 ฝ่าย ตรึงกำลัง และปรากฏข่าวสารว่ามีการเคลื่อนย้ายกำลังบางส่วนมาช่วยในพื้นที่ภูมะเขือ, พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายเราดำเนินการเข้าควบคุมพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการ 1 : 50,000 ขณะที่กำลังประเทศกัมพูชาได้เคลื่อนย้ายลงไปทางทิศใต้ 2. พื้นที่ภูผี - ปราสาทโดนตวล และช่องตาเฒ่า ยังตรึงกำลังกันอยู่ ฝ่ายประเทศกัมพูชาน่าจะมีการสูญเสียอย่างหนัก สำหรับผู้บัญชาการกองพลของประเทศกัมพูชา ที่ปรากฏข่าวสารว่าเสียชีวิตเป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่นี้ อย่างไรก็ตามในการปฏิบัติการทางทหารแล้ว ยังไม่สามารถยืนยันข่าวสารนี้ได้

3. พื้นที่ด้านหน้าเขาพระวิหาร ยังคงมีการสู้รบกันอยู่ โดยอาวุธหลักของประเทศกัมพูชา คือการใช้พลซุ่มยิงจากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร มุ่งทำร้ายกำลังพลของเรา ขณะที่พื้นที่ภูมะเขือ ฝ่ายเรายังคงควบคุมพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการ 1: 50,000 เอาไว้ได้ 4. พื้นที่ช่องจอม มีการใช้อาวุธยิงสนับสนุน โจมตี บ้านเรือนประชาชนไทย และพื้นที่ปราสาทตาควาย และฝ่ายประเทศกัมพูชา มีความพยายามในการส่งรถถัง ขึ้นมายังพื้นที่ช่องกร่าง ทางทิศตะวันตกปราสาทตาควาย 2 กิโลเมตร 5. พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม มีการปรับรูปขบวนเข้าตีทางทิศตะวันออกปราสาทตาเมือน ตลอดทั้งวัน จนฝ่ายเราต้องถอนตัวออกจากพื้นที่และใช้ปืนใหญ่โจมตีทำให้ฝ่ายประเทศกัมพูชาต้องถอนตัวออกไป

ภาพรวมสถานการณ์ตึงเครียดสูง

สำหรับการปฏิบัติในวันที่ 27 ก.ค.68 ในช่วงเช้า เวลาประมาณ 06.30 น. ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้จรวดไม่ทราบชนิดจากที่ตั้งสนามบินกรุงสำโรง จำนวน 4 นัด ทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนไทย 2 หลัง สัตว์เลี้ยง 5 ตัว ส่วนการปฏิบัติของฝ่ายเราในวันนี้ที่สำคัญ ได้แก่ การเข้าควบคุมพื้นที่ตามแนวเส้นปฏิบัติการ 1: 50,000 บริเวณช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ซึ่งประเทศกัมพูชายังคงมีความพยายามในการเข้าพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ช่องตาเฒ่า ด้านหน้าเขาพระวิหาร และภูมะเขือ พื้นที่ช่องจอม ปราสาทตาควาย และ ปราสาทตาเมือน ซึ่งการรุกรานดังกล่าว อาจสร้างผลกระทบต่อประชาชนตามแนวชายแดน จากการยิงอาวุธที่ไม่มีรูปแบบ ไม่เป็นไปตามกฎการปะทะของฝ่ายกัมพูชาก็เป็นได้

ภาพรวมของสถานการณ์ ยังมีความตึงเครียดสูง และฝ่ายกัมพูชาอาจกำลังเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการทางทหาร เพื่อสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายเราให้มากที่สุดในช่วงสุดท้ายก่อนการเจรจา โดยปัจจุบันได้มีประเทศเป็นกลางเสนอแนวทางในการยุติความขัดแย้งออกมาแล้วหลายประเภทโดยเฉพาะความเห็นของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • พปชร.ฟาด\'รัฐ\'ล่าช้า ไม่ทันเลห์\'เขมร\' จี้เร่งฟ้องโลก\'กัมพูชา\'ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พปชร.ฟาด'รัฐ'ล่าช้า ไม่ทันเลห์'เขมร' จี้เร่งฟ้องโลก'กัมพูชา'ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
  • \'ภูมิธรรม\'สั่งสอบสวนปม\'พลุระเบิด\'ทำดับ 9 ราย ลั่นเอาผิดถึงที่สุด เหตุลักลอบประกอบกิจการ 'ภูมิธรรม'สั่งสอบสวนปม'พลุระเบิด'ทำดับ 9 ราย ลั่นเอาผิดถึงที่สุด เหตุลักลอบประกอบกิจการ
  • ‘ภูมิธรรม’ไม่กังวล‘กัมพูชา’ชิงความได้เปรียบ พา‘ทูตต่างชาติ’ลงพื้นที่ชายแดนก่อนไทย ‘ภูมิธรรม’ไม่กังวล‘กัมพูชา’ชิงความได้เปรียบ พา‘ทูตต่างชาติ’ลงพื้นที่ชายแดนก่อนไทย
  • \'ภูมิธรรม\'ถก ก.ตร.วาระปกติ ไม่ตอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา 'ภูมิธรรม'ถก ก.ตร.วาระปกติ ไม่ตอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา
  • ‘ภูมิธรรม’บอก‘บิ๊กเล็ก’ทำงานเชื่อมกองทัพ-ป้องกันภัยคุกคามได้ดี ยังไม่คิดตั้ง‘รมว.กลาโหม’ ‘ภูมิธรรม’บอก‘บิ๊กเล็ก’ทำงานเชื่อมกองทัพ-ป้องกันภัยคุกคามได้ดี ยังไม่คิดตั้ง‘รมว.กลาโหม’
  • ‘ภูมิธรรม’ปัดเอา‘ภาษีสหรัฐ’หักคอกองทัพ ปมเจรจา‘หยุดยิง’ ลั่นโลกรับรู้‘กัมพูชา’ละเมิดข้อตกลง ‘ภูมิธรรม’ปัดเอา‘ภาษีสหรัฐ’หักคอกองทัพ ปมเจรจา‘หยุดยิง’ ลั่นโลกรับรู้‘กัมพูชา’ละเมิดข้อตกลง
  •  

Breaking News

‘บาหลี’ได้โอกาส! ทางเลือกนักท่องเที่ยวในช่วง‘ไทย-กัมพูชา’สู้รบ

เริ่มแล้ว!!! งาน'ตรังยุทธจักรอาหารอร่อย' ส่งเสริมท่องเที่ยว-กระตุ้นเศรษฐกิจ

'ศรีริต้า'บริจาค 9 แสนช่วยทหารบาดเจ็บ แถมวิดีโอคอลให้กำลังใจ

ทีม พม.รุดสุพรรณบุรี ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเหยื่อพลุระเบิด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved