‘กองทัพไทย’ประณามเขมรภัยคุกคาม
ไร้ศักดิ์ศรีทหาร
ผิดหวังรบ.กัมพูชา/ปฏิเสธข้อเท็จจริง
เชิญทูตทหารสังเกตการณ์
ซัด‘ปธ.สภาเขมร’แถลงเท็จ
เดินหน้าเก็บหลักฐานฟ้องโลก
รักษาการนายกฯ โต้เขมร กล่าวหาไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-ใช้อาวุธเคมี กต.ยื่นประท้วง เร่งเก็บหลักฐานทุกเม็ด ยันเขมรยิงก่อนและยังโจมตีหลังเจรจาหยุดยิงแล้ว ฟ้องประชาคมโลกให้รับรู้ ชี้สิ่งที่เกิดขึ้นหนีข้อเท็จจริงไม่ได้ ไม่ให้ราคา“ว่าที่ทูตสหรัฐประจำไทย” คอมเมนต์ปัญหาไทยเขมร บอกสั้นๆคุยกับ “ทรัมป์”คนเดียว ไม่สนมาเลย์เข้าสังเกตการณ์พื้นที่เขมร ทบ.ไทยเชิญ “ผช.ทูตทหารนานาชาติ” ลงพื้นที่แล้ว ด้านกองทัพไทยผิดหวังเขมรปฎิเสธข้อเท็จจริง ทั้งที่ยิงไทยไม่หยุด ยก 5 ข้ออัดยับ คุมทหารตัวเองไม่ได้ปล่อยให้เป็นภัยคุกคาม แนะทบทวนบทบาทก่อนกล่าวหาคนอื่น ส่วน “วันนอร์” ประณามปธ.สภาฯเขมร ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จกลางวงประชุมไอพียู เอาสิ่งที่ทำกับไทยมากล่าวหาว่าไทยไปรุกรานตัวเอง
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีประธานรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชากล่าวในที่ประชุมสหภาพรัฐสภากล่าวหาไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และใช้อาวุธเคมี ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงหรือไม่ว่า ทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศเตรียมยื่นประท้วงแล้ว ซึ่งเรื่องนี้สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้ เพราะภาพถ่ายต่างๆตรวจสอบได้ เราไม่ได้กระทำการที่เป็นอันตรายต่อพลเรือนชาวกัมพูชา แต่สิ่งที่ไทยดำเนินการคือ เป้าหมายทางทหารทั้งหมด
เร่งปรับทัพแจงนานาชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าคำชี้แจงของฝ่ายไทยต่อนานาชาติดูช้าไปหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ได้ช้า เพราะเท่าที่ได้รับรายงาน กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ยื่นหนังสือเสมอ ซึ่งอาจต้องปรับปรุงการประชาสัมพันธ์ โดยให้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาหรือ ศบ.ทก.เป็นแม่ข่ายร่วมกับสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT ชี้แจง ถ้าเป็นการชี้แจงทั่วไปก็ให้ NBT แต่หากเป็นเรื่องสำคัญหรือเรื่องใหญ่ ก็ให้ประสานเกี่ยวสัญญาณโดยให้ NBT เป็นแม่ข่าย
ทบ.เชิญผช.ทูตทหารนานาชาติลงพื้นที่
ส่วนกรณีกัมพูชาไม่สนใจนานาชาติละเมิดข้อตกลงอยู่บ่อยครั้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ดี ก็ทำให้ชัดเจน โลกได้รับรู้ เพราะตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ที่ประชาคมโลกเข้ามาเกี่ยวข้องได้รับทราบและรับรู้
ความคืบหน้ายื่นประท้วง 3 ประเทศคือ มาเลเซีย สหรัฐและจีนไปแล้ว เราทำหน้าที่เต็มที่ ส่วนประเทศเหล่านั้นก็จะเข้ามาเกี่ยวข้องตามสถานการณ์ที่เหมาะสมของเขา เราไปกะเกณฑ์เขาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การมีประเทศที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการแสดงความห่วงใยธรรมดา แต่เราวางกฎเกณฑ์การพูดคุยแบบทวิภาคี ซึ่งก็ยังมีการเจรจากันอยู่ สิ่งที่สำคัญ เราประณามไปแล้ว ที่เขมรละเมิดข้อตกลง
ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายเขมรมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดของมาเลเซีย เข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่ ส่วนฝ่ายไทยจะเชิญ รมว.ต่างประเทศของอาเซียน มาลงพื้นที่ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า กองทัพบก (ทบ.)ของเรา เชิญผู้ช่วยทูตทหารนานาชาติลงพื้นที่ โดยยืนยันว่าทุกฝ่ายที่ทำหน้าที่จะทำหน้าที่ตามที่ตนเกี่ยวข้อง
เก็บหลักฐานแจงโลก-ปัดตอบปมทหารรับจ้าง
นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกระแสข่าวกัมพูชาใช้ทหารรับจ้างมาเป็นผู้บงการยุทธการณ์รบว่า เรื่องนี้กองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเก็บรวบรวมพยานหลักฐานการกระทำของกัมพูชาอย่างละเอียดทุกขั้นตอนที่ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เตรียมไว้ชี้แจงประชาคมโลกแล้ว ส่วนจะมีหลักฐานเกี่ยวกับทหารรับจ้างหรือไม่ ตนไม่ขอชี้แจง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ยืนยันว่าทางการไทยรวมทั้งกองทัพจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอธิปไตยไทย พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ยังมีการปะทะบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา แต่เรายังควบคุมได้ ไม่ได้เป็นการใช้อาวุธหนักใส่กัน ส่วนนี้เราต้องรวบรวมหลักฐานว่าเขมรละเมิดเราอย่างไร ทั้งใช้วิดีโอ เทคโนโลยีและดาวเทียม
ไม่สนมาเลย์เยือนเขมร-สนแค่คุยอันวาร์
ผู้สื่อข่าวถามว่าในสนามรบเราชนะ แต่เราเพลี่ยงพล้ำทางการสื่อสารนั้น นายภูมิธรรม ยอมรับและเป็นการวิจารณ์ของประชาชนหรือสื่อมวลชน เราก็จะพัฒนาแก้ไขต่าง ๆ ให้ได้มากขึ้น
ถามต่อว่า ทางกองทัพมาเลเซียเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ มีผลกระทบต่อการปะทะของไทย-กัมพูชาหรือ เขาตอบว่า เรื่องนี้ในนามของรัฐบาลแล้วถือว่าการเจรจาระดับประธานอาเซียนก็คือ นายอันวา อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มีความสำคัญสูงสุด ส่วนบุคคลใดจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไร ตรงนั้นเป็นภารกิจของแต่ละประเทศ แต่ตนยึดมั่นในการคุยกับนายอันวาเป็นหลัก
ส่วนที่เขมรเติมกำลังทหารบริเวณปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย นายภูมิธรรมเผยว่า มีดาวเทียม เก็บหลักฐานได้หมด เติมมาเมื่อไร และได้สื่อสารชี้แจงข้อมูลกับประเทศมหาอำนาจที่มาเป็น Witness ของเรา เราเน้นความสำคัญตรงนั้นมากกว่า
“ตรงนี้เราให้ประชาคมโลกมาดูและตรวจสอบแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นหนีข้อเท็จจริงและความเป็นจริงไม่ได้ ถามว่าขนาดนี้เราตอบอย่างชัดเจนว่าเราไม่ได้ไว้วางใจเลย และไม่ได้ไว้วางใจกัมพูชามาตั้งแต่ต้นจากสิ่งที่ได้กระทำมา ฉะนั้น เราก็ให้ประชาคมโลกเข้ามาเกี่ยวข้อง และเรายินดีแสดงจุดยืน”นายภูมิธรรมกล่าว
เมินความเห็นทูตมะกัน-ชิ่งตอบภาษีทรัมป์
ถามว่าว่าที่ทูตสหรัฐที่จะมาประจำประเทศไทย ให้ความเห็นว่าไทยจะเสียเปรียบ นายภูมิธรรมกล่าว “ผมพูดกับโดนัล ทรัมป์ แค่คนเดียว” เมื่อถามต่อว่าเรื่องภาษีทรัมป์ มีผลกับการเจรจายุติยิงหรือไม่ นายภูมิธรรมไม่ตอบ และเดินขึ้นรถไป
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ‘ฌอน โอนีลล์’ ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า หากได้รับการยืนยันว่าได้ตำแหน่งดังกล่าว เขาจะแจ้งต่อไทยว่า ความขัดแย้ง เช่น การปะทะชายแดนไทยกับกัมพูชา ไม่ได้ช่วยอะไรประชาชนชาวไทยหรือพันธมิตรของไทยกับสหรัฐฯเลย เป็นเพียงการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินโดยไม่จำเป็น
ยังไม่คิดตั้งรมว.กลาโหม-บิ๊กเล็กทำงานได้ดี
นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงความจำเป็นที่รัฐบาลต้องตั้งรมว.กลาโหมหรือไม่ว่า วันนี้เรื่องสำคัญคือสู้กับประเทศกัมพูชา และขณะนี้ยังจับมือกันได้ดี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาการ รมว.กลาโหม ยังทำงานได้ดี เป็นคนเชื่อมประสานกับกองทัพได้ดีอยู่แล้ว
“คิดว่าไม่มีอะไรต้องคิดนอกลู่นอกทางหรือนอกเส้นทาง สิ่งที่เราทำวันนี้ คือร่วมมือกันจับมือช่วยเหลือกันสู้กับภัยที่คุกคามประเทศอยู่”
แจงปมทหารเขมรหน้าตาดีเป็นยูทูปเบอร์
ด้านพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม แถลงหลังประชุมสภากลาโหมกรณีมีการเผยแพร่ภาพผ่านสื่อโซเชียล ถึงนายทหารสังกัดกองทัพเขมร มีลักษณะคล้ายต่างชาติว่า ตนได้รับการยืนยันเบื้องต้นว่า เป็นนายทหารชั้นประทวนของกองทัพเขมร เพียงแต่หน้าตาดี รูปร่างดี เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล และเป็นยูทูบเบอร์ จึงทำให้คนสนใจ และเข้าใจไปว่าเป็นคนต่างประเทศ ส่วนที่มีคลิปสนทนาผ่านวิทยุสื่อสารเป็นภาษารัสเซียนั้น เรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยัน เพราะตั้งแต่เช้า ตนนั่งประชุม ติดตามข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่ส่งข้อความเข้ามา และซักถามตั้งแต่เมื่อคืน ตนก็พยายามหาคำตอบ และได้รับการยืนยันตามที่แจ้งไป
ปัดตอบจ้างทหารต่างชาติช่วยรบ
พล.อ.ณัฐพลให้สัมภาษณ์นอกรอบ ถึงความเป็นไปได้ที่เขมรนำเงินไปจ้างทหารต่างชาติช่วยรบ อย่างที่นักวิชาการด้านความมั่นคงของไทยเตือนว่า จริงๆท่านคงพูดในข้อมูลที่มีอยู่ ไปได้ยินมา เพราะอาจเคยเห็นการแข่งขันกีฬามวยทหารโลกครั้งก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวสำทับว่ารูปร่างลักษณะคล้ายคนรัสเซีย ยูเครน อุซเบกิสสภาน คาซัคสถาน แนวนี้ ซึ่ง พล.อ.ณัฐพลระบุว่า เขาใช้วิธีอย่างนั้น เราก็ไม่รู้ แต่อย่างที่เคยบอกว่าจะพูดอะไรโดยที่ไม่มีหลักฐานไม่ได้ ถ้าตนเป็นลุงเล็ก มองว่าก็น่าเป็นไปได้ แต่ถ้าเป็นรมช.กลาโหมพูดไม่ได้ ก็เหมือนกรณีที่เจอกับระเบิดว่าของใหม่หรือของเก่า
กองทัพไทยผิดหวังเขมรปฎิเสธข้อเท็จจริง
ขณะที่พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ออกมาแสดงความผิดหวังต่อคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชาเมื่อค่ำวันที่ 29 กรกฎาคม โดยชี้แจงและแสดงจุดยืนกรณีดังกล่าว 5 ประเด็นคือ 1.ไทยยึดถือข้อเท็จจริง และไม่กล่าวหาโดยไร้หลักฐาน : จากข้อมูลที่กองทัพไทยเปิดเผยต่อสาธารณชน ในการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา ยืนยันว่าทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้ามายังที่มั่นทหารไทยบริเวณภูมะเขือ และช่องอานม้า เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เวลา 21.30 น. มิได้เกิดจากการกล่าวหาโดยปราศจากมูล แต่อยู่บนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ได้รับการตรวจสอบโดยหลายหน่วยงาน มีบันทึกเหตุการณ์ และพยานแวดล้อมที่ยืนยันชัดเจน กองทัพไทยพร้อมสนับสนุนกลไกผู้สังเกตการณ์ที่เป็นกลาง และยืนยันข้อเท็จจริงบนหลักฐานที่ตรวจสอบได้ เพื่อพิสูจน์ให้ประชาคมโลกเห็นว่า กองทัพไทยปฏิบัติตามคำมั่นอย่างเคร่งครัด
ยันไทยพร้อมให้กลไกเป็นกลางตรวจสอบ
2. พฤติกรรมทหารกัมพูชาสะท้อนปัญหาภายในกองทัพตนเอง การที่ทหารกัมพูชายังใช้อาวุธหลังการหยุดยิง สะท้อนความไร้ประสิทธิภาพของการบังคับบัญชา และภาวะขาดวินัยในหมู่ทหารระดับผู้ปฏิบัติการ สะท้อนว่ากองทัพกัมพูชาไม่สามารถคุมกำลังพลของตนเองได้ เข้าข่าย“ล้มเหลวในการบังคับบัญชา” หรือหากเลวร้ายกว่านั้น อาจเป็นการที่มีผู้มีเจตนาปล่อยให้เกิดความรุนแรง เพื่อหวังผลทางการเมือง
3. ไทยยืนยันเจตนารมณ์สันติภาพ โดยเปิดรับการตรวจสอบจากกลไกที่เป็นกลาง : กองทัพไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกลไกระหว่างประเทศอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริง การเข้าถึงพื้นที่ และการเปิดเผยข้อมูล ไทยมั่นใจความโปร่งใสของตนเอง
เรียกร้องโลกประณามเขมรภัยคุกคาม
4. เรียกร้องให้กัมพูชาทบทวนตนเอง โดยหยุดกล่าวหาผู้อื่นโดยไม่แก้ปัญหาภายใน :
ก่อนที่รัฐบาลกัมพูชาจะกล่าวหาประเทศอื่นว่าบิดเบือนความจริง ควรหันกลับไปตรวจสอบตนเอง ว่าเหตุใดคำสั่งหยุดยิงจึงไม่สามารถหยุดเสียงปืนในแนวหน้าได้ หมายถึงความอ่อนแอและไร้เสถียรภาพของกองทัพ นำไปสู่ความไร้ศักดิ์ศรีของการเป็นชายชาติทหาร ขอเรียกร้องให้สังคมโลกประณามและจับตามองว่ากองทัพกัมพูชาเป็นกองทัพที่สร้างภัยคุกคามทั้งต่อภูมิภาคและประชาคมโลก 5. สุดท้ายเหตุการณ์ที่ทหารกัมพูชาใช้อาวุธประจำกายและอาวุธประจำหน่วยขนาดเล็กยิงเข้ามายังที่มั่นทหารไทยเมื่อคืนนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ทหารกัมพูชาในแนวหน้าถูกทอดทิ้งให้อยู่ตามลำพังในพื้นที่ห่างไกลโดยขาดการดูแล มีทหารกัมพูชาหลายนาย ยอมวางอาวุธและเข้ามอบตัวต่อทหารไทยในเวลาต่อมา
“กองทัพไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลและกองทัพกัมพูชา “หันกลับไปดูแลทหารของตัวเอง” ก่อนจะกล่าวหาใครว่าบิดเบือนความจริง พฤติกรรมการแสดงออกที่เกิดขึ้น แสดงว่าพวกเขาเหนื่อยล้า หวาดกลัว หิวโหย ต้องการให้ “ผู้บังคับบัญชาของตนดูแลและแสดงความรับผิดชอบ”มากกว่าออกมาแก้ตัว และโกหกซ้ำซาก” แถลงการณ์กองทัพไทยระบุ
“วันนอร์”โต้เขมรแถลงเท็จกลางวงไอพียู
ส่วนกรณีประธานสภากัมพูชา กล่าวในการประชุมสหภาพรัฐสภา ที่สวิตเซอร์แลนด์ ตอนหนึ่งระบุว่า ชาวเขมรได้รับผลกระทบจากการโจมตีบุกรุกของไทย พร้อมเรียกร้องให้ทหารไทยหยุดการบุกรุกกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกติกาสหประชาชาติ และละเมิดอำนาจอธิปไตย และอาณาเขตของรัฐ พร้อมยังแอบอ้างกล่าวหากองทัพไทยใช้ระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์ อาวุธเคมี เครื่องบิน F-16 และอาวุธหนักจํานวนมาก สังหารผู้บริสุทธิ์ ทำให้ชาวกัมพูชาหลายคนถึงแก่ชีวิต ที่พักพิงและโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน ระบบไฟฟ้าและประปาเสียหายหนัก
วันเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ในฐานะประธานหน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภา (IPU) แถลงถึงกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตนรู้สึกเสียใจและผิดหวังอย่างยิ่ง ที่ได้รับทราบว่าระหว่างประชุมระดับสูงของสหภาพรัฐสภา ไทยถูกกล่าวหาจากประธานสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา โดยปราศจากมูลความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดน รัฐสภาไทยขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิงและขอประณามอย่างรุนแรงต่อถ้อยแถลงอันเป็นเท็จและไม่มีมูลความจริงดังกล่าว ตรงข้ามกับข้อเท็จจริงตามที่กระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลไทยแถลงอย่างเป็นทางการถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา รัฐบาลไทยได้ฟ้องไปยังประธานอาเซียน ผู้นำสหรัฐอเมริกา และผู้นำจีนแล้ว
ฉะหยุดปล่อยข้อมูลเท็จใส่ความไทย
“รัฐสภาไทยขอเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือบิดเบือน ข้อเท็จจริง ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิดและซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลง เพื่อประโยชน์ฝ่ายเดียว ไทยยังคงยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และการคุ้มครองชีวิตพลเรือนและข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว และยืนยันว่า ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่จนบัดนี้กัมพูชายังไม่หยุดยิง ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลง จึงขอเรียกร้องให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด รวมถึงเรียกร้องให้ประธานอาเซียนตั้งคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศต่างๆ หาแนวทางหยุดยิงให้ได้ผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง ทั้งนี้ รัฐสภาจะนำแถลงการณ์นี้ส่งยังประธานสหภาพรัฐสภา เพื่อเสนอไปยังประเทศสมาชิกให้เกิดความเข้าใจในสถานการณ์อย่างถูกต้องตามความเป็นจริง
อัดยับเอาสิ่งที่ตัวเองทำมาโบ้ยให้ไทย
นายวันมูหะมัดนอร์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ประธานสภาฯเขมรแถลงต่อที่ประชุมไอพียูว่า ไทยละเมิดข้อตกลงโดยยิงเข้าไปยังเป้าหมายพลเรือน ทำให้พลเรือนเขาบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงโรงพยาบาลและเด็กด้วย นอกจากนี้ ยังใช้วัตถุเคมี ซึ่งข้อเท็จจริงที่เขาแถลงนั้น เป็นสิ่งที่กัมพูชากระทำต่อเรา โดยเอาข้อที่เขากระทำกับเรามากล่าวหาว่าเรากระทำกับเขา ถ้าไม่จริงกระทรวงการต่างประเทศคงไม่กล้ายืนยัน ที่ตนต้องมาชี้แจงเพราะไม่อยากให้คนไทยเสพอะไรที่เป็นเท็จ และให้ประชาคมทั่วโลกได้เข้าใจข้อเท็จจริง
กมธ.มั่นคงฯสภาชงเชิญทูตปท.พยานมาคุย
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรเรียกร้องให้ไทยรวบรวมข้อมูลเสนอมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน หรือชาติต่างๆให้โลกเห็นว่า กัมพูชาละเมิดการหยุดยิง ทำให้ไทยมีความชอบธรรมตอบโต้ ไม่ได้รังแกกัมพูชา อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ข้อมูลที่น่าเชื่อถือในการที่ไทยจะตอบโต้เขมร เพราะประเทศต่างๆไม่รู้ใครยิงก่อน ถ้าไทยรวบรวมข้อมูลให้เห็นพฤติกรรมกัมพูชาตลอดมาจะเป็นผลดี กัมพูชาพยายามทำลายความชอบธรรมไทย เพื่อไปสู่ศาลโลก จึงต้องแสดงให้ทั่วโลกเห็นกัมพูชาละเมิดข้อตกลง ไทยต้องสื่อสารให้มากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นจะพลาดท่าเสียทีเขมรได้ รัฐบาลช้ากว่าทุกองคาพยพ จึงอาจทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ ดังนั้น จึงต้องปรับการสื่อสารให้เร็ว ทันสถานการณ์ วอร์รูม 24ชั่วโมงคงมี แต่ต้องทำงานมีประสิทธิภาพกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นหยุดยิงให้ได้ก่อน ควรเชิญทูตสหรัฐ จีน มาเลเซีย มาพูดคุยสถานการณ์แบบนี้มีความเห็นอย่างไร มิเช่นนั้นการคุยที่มาเลเซียก็เปล่าประโยชน์ การส่งหนังสือประฌามก็ไม่เพียงพอ ต้องเชิญทูตแต่ละประเทศมาหารือ
แนะใช้ยาแรง!ตัดสัมพันธ์การทูต
ส่วนนายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา(สว.) เห็นว่า ถ้ากัมพูชายังไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิง ก็ไม่ควรเปิดโต๊ะเจรจาระดับใดๆกับเขมร ปัจจุบันทหารทำหน้าที่ได้อย่างดี แต่รัฐบาลและกระทรวงต่างประเทศทำอะไรที่เป็นการปกป้องและรักษาศักดิ์ศรีคนไทย สิ่งที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการคือ 1.ปิดชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งหมด 2.ตัดไฟฟ้า น้ำ สัญญาณเนต โทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับกัมพูชา 3.ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตทุกระดับ เพื่อให้เอ็มโอยูต่างๆที่ทำไว้ ถูกยกเลิกโดยปริยาย 4.คนกัมพูชาที่มาทำงานในประเทศไทย ให้มารายงานตัวต่อหน่วยงานรัฐ เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นไส้ศึกหรือไม่ การเจรจากับกัมพูชาจะเริ่มได้ต่อเมื่อสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ถูกดำเนินคดีข้อหาอาชญากรสงครามแล้วเท่านั้น และต้องจ่ายค่าชดใช้ความเสียหายต่อชีวิตทหาร ประชาชน และทรัพย์สินต่างๆที่รัฐบาลไทยจ่ายไปเท่าใด กัมพูชาต้องชดใช้คืนทั้งหมด จึงจะเริ่มโต๊ะเจรจากันใหม่ รวมถึงอย่านำกรณีภาษีทรัมป์มาเป็นเงื่อนไขต่อรองการเจรจาข้อพิพาทกับเขมร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี