เปิดข้อมูลนักวิชาการ! ชี้"ฮุนเซน"ละเมิดรัฐธรรมนูญของกัมพูชาเอง ขณะที่สื่อต่างประเทศชี้ชัด เป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา เสี่ยงเป็นอาชญากรสงคราม
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยตรวจพบรายงานจากสื่อระดับโลก Reuters ซึ่งเผยแพร่บทความเมื่อวันที่ 31 ก.คใที่ผ่านมา โดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูต 3 รายว่า สมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงมีบทบาทโดยตรงในการควบคุมและสั่งการด้านการทหารในสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา แม้จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งในฝ่ายบริหารอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม
โดยรายงานระบุว่า สมเด็จ ฮุนเซนปรากฏตัวในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการสวมเครื่องแบบทหาร ประชุมกับผู้นำกองทัพ และเผยแพร่ข้อความที่มีเนื้อหาโจมตีประเทศไทยผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ในขณะที่นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ซึ่งเป็นบุตรชายกลับมีบทบาททางการเมืองที่เงียบลงอย่างเห็นได้ชัด
ขณะเดียวกัน นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ของไทย โดยรองศาสตราจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทยว่า พฤติกรรมของสมเด็จ ฮุนเซนในช่วงวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา อาจเข้าข่ายละเมิดบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรกัมพูชา พ.ศ.2536 โดยเฉพาะ มาตรา 2 และมาตรา 53 ซึ่งระบุหลักการสำคัญว่า :
- กัมพูชาต้องไม่รุกรานประเทศอื่น และไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
- กัมพูชาต้องแก้ไขปัญหาทางการเมืองด้วยสันติวิธี และดำรงความเป็นกลางอย่างถาวร
- กัมพูชาห้ามเข้าร่วมพันธมิตรทางทหารที่ขัดต่อหลักความเป็นกลาง
- กัมพูชาต้องไม่อนุญาตให้มีฐานทัพต่างชาติในประเทศ และห้ามมีฐานทัพของตนเองในต่างแดน เว้นแต่ในกรอบคำร้องของสหประชาชาติ
- กัมพูชาต้องยึดแผนที่มาตราส่วน 1:100,000 ที่จัดทำระหว่างปี ค.ศ.1933 - 1953 ซึ่งเป็นแผนที่ที่ได้รับการรับรองในเวทีระหว่างประเทศช่วงปี ค.ศ.1963 - 1969 ในการนิยามเขตแดน ไม่ใช่แผนที่ขนาด 1:200,000 ที่กล่าวอ้างในปัจจุบัน
นอกจากนี้ รองศาสตราจารย์ปริญญา ยังชี้ว่า การกระทำของสมเด็จฯ ฮุนเซนและนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ละเมิดทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ (เช่น การโจมตีพลเรือน การยิงจรวดใส่โรงพยาบาล และการฝังกับระเบิดในพื้นที่ สำคัญทางศาสนาและโบราณสถาณ) และยังขัดต่อรัฐธรรมนูญของกัมพูชาเองอย่างชัดเจน โดยการสั่งการให้รุกรานประเทศเพื่อนบ้าน และการอ้างแผนที่ผิดฉบับจากที่กฎหมายกำหนด
นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ประชาคมโลกจับตาการใช้อำนาจที่อยู่นอกกรอบรัฐธรรมนูญของกัมพูชาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการที่ผู้นำซึ่งพ้นวาระไปแล้ว ยังคงมีอิทธิพลเหนือกองทัพ และสั่งการปฏิบัติการทางทหาร อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในภูมิภาคอาเซียนอย่างรุนแรง
"รัฐบาลไทยยืนยันว่า ประเทศไทยมีจุดยืนชัดเจนในการยึดมั่นแนวทางสันติวิธี และเคารพอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมอาเซียน และสื่อมวลชนระหว่างประเทศ ร่วมกันตรวจสอบบทบาทของบุคคลที่อยู่นอกโครงสร้างบริหารของกัมพูชา แต่ยังมีอิทธิพลในเชิงปฏิบัติที่อาจละเมิดกฎหมายภายในและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งอาจเป็นอาชญากรสงคราม" นายจิรายุ ระบุ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี