ใครจะติดคุกรายต่อไป! ‘ศุภชัย’ รอดู ‘ภูมิธรรม’ จะสร้างมาตรฐานเดียวกัน เคส‘อัลไพน์-เขากระโดง’
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ออกมาระบุ จะใช้มาตรฐานเดียวกันในการจัดการเรื่องของสนามกอล์ฟอัลไพน์ กับเขากระโดงว่า อยากจะทบทวนให้ฟังว่า ตั้งแต่นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินจำนวน732 ไร่ ให้กับวัดธรรมิการามวรวิหาร จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 22 พ.ย.2512 ต่อมานางเนื่อมถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 22พ.ค.2514 จึงมีการตั้งผู้จัดการมรดก แทนที่ที่ดินดังกล่าวจะถูกจดทะเบียนโอนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของวัดก็หาไม่ เพราะพระราชเมธาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาส แสดงเจตจำนงจะขายที่ดินของวัด แต่ผู้จัดการมรดกเดิมที่มีจำนวน 3 คนไม่ยอมอดีตเจ้าอาวาสจึงตั้งมูลนิธิมหามกุฏฯ ให้เป็นผู้จัดการมรดก ต่อมาได้โอนที่ดินทั้งสองแปลงให้แก่มูลนิธิมหามกุฏฯแล้วจดทะเบียนขายให้แก่บริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท กับ บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับ ในวันที่ 31 ส.ค. 2533 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 130 ล้านบาท โดยบริษัทดังกล่าวมีนางอุไรวรรณ เทียนทอง (ภรรยาของนายเสนาะ เทียนทอง) และนายชูชีพ หาญสวัสดิ์ เป็นผู้ถือหุ้น
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า ต่อมาทางบริษัทอัลไพน์ฯ ได้ขายหุ้นให้กับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งในปี 2544 อธิบดีกรมที่ดินได้เพิกถอนการจดทะเบียนการโอนที่ดินเพื่อคืนที่ดินนั้นให้กับวัดเป็นที่ธรณีสงฆ์แล้ว ต่อจากนั้นปี 2545 นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองปลัดกระทรวง (รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ขณะนั้น) มีคําสั่งให้เพิกถอนคําสั่งของอธิบดีกรมที่ดินนั้น แล้วก็คืนโฉนดที่ดินให้กับบริษัทอัลไพน์ฯ ในที่สุดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เห็นว่า นายยงยุทธ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แล้วก็ถูกดําเนินคดีในศาลอาญาทุจริต จนปีพ.ศ. 2563 ศาลพิพากษาให้นายยงยุทธ จําคุก 2 ปี ตามคําพิพากษา นั่นคือในส่วนของกรณีอัลไพน์ฯ
นายศุภชัยกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ดินเขากระโดง เรื่องนี้ที่มีการเสนอให้มีการเพิกถอนโฉนดที่ดินมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2552 ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินในขณะนั้น ได้มีตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ประมวลกฎหมายที่ดิน ในที่สุดคณะกรรมการชุดนั้นก็เห็นว่าการออกเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดิน น.ส.3 ไม่ได้คลาดเคลื่อน และไม่ชอบด้วยกฎหมาย อธิบดีกรมที่ดินในขณะนั้นก็ได้เห็นชอบกับคณะกรรมการ และให้ยุติเรื่องไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เรื่องนี้ก็มีมาจนกระทั่งปีพ.ศ. 2564 การรถไฟได้ไปฟ้องกรมที่ดิน ขอให้ใช้อํานาจเพิกถอนที่ดิน แต่ศาลปกครองมีคําพิพากษาให้กรมที่ดินไปตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 เหมือนตอนปี 2552 ที่อธิบดีตั้งมาครั้งหนึ่งแล้ว และรอบนี้ผลก็เหมือนกันคือ มีความเห็นตามคณะกรรมการที่เสนอว่า การออกเอกสารสิทธิ์ไม่ได้คลาดเคลื่อน หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีความเห็นชอบตามมตินั้น คือไม่เพิกถอน พอไม่เพิกถอน สิ่งที่เกิดขึ้นคือเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา 21 กรกฎาคม 2568 นายภูมิธรรม ได้ให้นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 7 คน ซึ่ง 7 คนนี้ให้ไปตรวจสอบคําสั่งของอธิบดีกรมที่ดินที่เห็นชอบในการไม่เพิกถอน และหลังจากนั้น เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา มีคําสั่งว่า “ให้มีการเพิกถอนโฉนดที่ดิน”
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า จากการที่ได้ไล่เรียงตามลำดับไทม์ไลน์จนมาถึงตรงนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า แสดงว่ามีคนที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเรื่องของการให้เพิกถอนเรื่องนี้ ซึ่งตนไม่ทราบว่าใครที่จะต้องรับผิดชอบบ้าง เพราะกรณีที่เห็นชอบให้ไม่เพิกถอน มีตั้งแต่ อธิบดีกรมที่ดิน รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็มีความเห็นเหมือนกันหมด รวมทั้งคณะกรรมการที่ตั้งไปตามมาตรา 61 หรือการตั้งคณะกรรมการที่ตั้งมาโดย มท.3 ตามคำสั่งของ มท.1 ให้มาตรวจสอบอธิบดีกรมที่ดินเรื่องนี้ ก็มีประเด็นว่ามันชอบ หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
“ถ้าบอกว่านายยงยุทธ ที่ติดคุกไป ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าในที่สุดแล้ว กรณีเรื่องเขากระโดง จะมีการติดคุกกันเหมือนกับกรณีเรื่องของอัลไพน์ฯหรือไม่ ผมอยากติดตามดูว่า ใครจะติดคุกในกรณีเรื่องเขากระโดงบ้าง“ นายศุภชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี