ยืนกรานได้สิทธิ์เขากระโดงถูกต้อง
‘สนามช้างฯ’เดือด
ฮึ่ม!ขู่ฟ้องกลับคดีแพ่ง-อาญา
เรียกค่าเสียหายจากภาครัฐ
‘มท.1’โยนอธิบดีที่ดินจัดการ
สนามช้างฯแถลงโต้ยันได้สิทธิ์ที่ดิน“เขากระโดง”ถูกต้องตามกฎหมาย เตือนหากการเมืองแทรกวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอาจล่มสลาย ขู่ฟ้องกลับคดีอาญา-ศาลปกครอง เรียกค่าเสียหายหากรัฐเพิกถอนโฉนด
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ผู้อำนวยการสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมด้วย นายประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานทรัพย์สิน และผู้อำนวยการสายงานการตลาดและการสื่อสาร สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความตัวแทนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ และตัวแทนประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ประกอบการธุรกิจ และนิติบุคคลที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ แถลงข่าวชี้แจงกรณีข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ร่วมกันแถลงเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 5,083 ไร่ (995 ราย) เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568
นายชนินทร์กล่าวว่า ข้อพิพาทสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง แม้จะมีคำพิพากษาของศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์บางคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำมาอ้าง แต่ภายใต้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคสอง คำพิพากษาดังกล่าวผูกพันเฉพาะคู่ความและที่ดินพิพาทในคดีเท่านั้น ไม่อาจยกขึ้นยันกับราษฎรผู้ถือเอกสารสิทธิตามกฎหมายในที่ดินแปลงอื่น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวและได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127 และประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 2 และมาตรา 3 อีกทั้งยังได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา37อีกด้วย ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันไม่ปรากฏว่า มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตและจัดซื้อที่ดิน พร้อมแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาประกาศในราชกิจจานุเบกษา รับรองให้ รฟท. ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บนที่ดินบริเวณเขากระโดงตามพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 หรือกฎหมายอื่นใด ดังนั้น ที่ดินพิพาทจึงไม่ตกเป็น “ที่ดินรถไฟ” ตามนิยามในพระราชบัญญัติดังกล่าว
นายชนินทร์กล่าวอีกว่า ยิ่งไปกว่านั้น แผนที่สำรวจ (Exploitation Plan) ดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อรองรับการขนย้ายหินบริเวณเขากระโดงชั่วคราว โดยอาศัยพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 มาตรา 45 จึงไม่ใช่ทางรถไฟเพื่อใช้ในการเดินรถตามมาตรา 3 (3) ของพระราชบัญญัติเดียวกัน และไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาที่ผ่านกระบวนการพระราชทานโปรดเกล้าฯ ตามกฎหมาย ข้อเท็จจริงข้างต้นยืนยันอย่างชัดเจนว่า ราษฎรผู้ถือครองเอกสารสิทธิโดยสุจริตยังคงมีสิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณเขากระโดงโดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ทุกประการ และได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศไทย อีกทั้งยังมีสิทธิในการต่อสู้และพิสูจน์ถึงความไม่ชอบของแนวเขตที่ดินที่ รฟท.กล่าวอ้าง
“หากนายภูมิธรรม เวชยชัย อธิบดีกรมที่ดิน และหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการเพิกถอนโฉนดโดยยึดถือแผนที่หรือข้อมูลเท็จของ รฟท. เพื่อสนองนโยบายทางการเมือง อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง ราษฎรทุกรายผู้ได้รับผลกระทบจะยืนหยัดปกป้องสิทธิของตนอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะฟ้องเพิกถอนคำสั่งทางปกครองและเรียกค่าเสียหาย หรือดำเนินคดีอาญาฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เบิกความเท็จ ปลอมแปลงเอกสารราชการ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้กระทำต้องรับผิดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด”
นายชนินทร์กล่าวว่า การเพิกถอนต้องชอบด้วยกฎหมาย และมีคนบิดเบือนว่าคำพิพากษาศาลฎีกาสามารถบังคับใช้ได้ทันที แต่คำพิพากษาของศาลไม่มีผลบังคับถึงบุคคลภายนอก ดังนั้นกรมที่ดินจึงไม่อาจเพิกถอนเอกสารสิทธิของราษฎรที่ไม่ใช่คู่ความในคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาได้ การที่ดำเนินการเพิกถอนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายผู้กระทำต้องรับผล ดังนั้นนายภูมิธรรมที่ทำในวันนั้นไม่สามารถทำได้ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
ด้านประชาชนจำนวนมาก และแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วประเทศ เรียกร้องผ่านโซเชียลให้ แยกการเมืองออกจากผลประโยชน์ของชาติ พร้อมตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการนำคำพิพากษาบางคดีมาใช้เป็นเหตุเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินจำนวนมาก ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ในพื้นที่ยังชี้ว่า หากสถานะทางกฎหมายของที่ดินไม่ชัดเจน ผู้สนับสนุนกีฬาทั้งจากทั้งภาครัฐและเอกชนในอนาคตจะหยุดชะงักทันที กระทบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวกรณีที่มีประชาชนในพื้นที่เขากระโดง รวมตัวกันคัดค้านการเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดงให้เป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า การแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ เป็นการแก้ไขปัญหาตามหลักกฎหมาย เพราะเราปกครองด้วยระบอบกฎหมาย แต่เมื่อหากรู้สึกว่าถูกรอนสิทธิ์ ก็สามารถร้องขอกระบวนการยุติธรรมได้เลย เราไม่ได้ปฏิเสธ หากเราทำตรงนั้นไม่ถูกต้อง จะแก้ปัญหาก็ว่ากันต่อไป แต่ขณะนี้เรากำลังปฏิบัติตามคำสั่งศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกายืนยันว่าเป็นที่ดินของรัฐ และเป็นมาตั้งแต่ต้น เราก็ปฏิบัติตาม เพราะฉะนั้นการยกเลิกเป็นไปตามกฎหมายอย่างแท้จริงทั้งหมด ส่วนคนที่รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เราไม่ได้ปิดกั้นสิทธิ์ เมื่อถามว่า ขณะนี้กระบวนการยกเลิกอยู่ในขั้นตอนใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการไปตามหลักเกณฑ์และให้หลักการไปแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงตัวอธิบดีกรมที่ดิน ก็ต้องรออธิบดีคนใหม่เข้ามาดำเนินการ ตนไม่ได้แทรกแซงกระบวนการ และตนได้บอกไปแล้วว่าถ้าได้ตัดสินใจไปตามอำนาจศาลที่มีอยู่ ผู้มีอำนาจหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติ หากไม่ปฏิบัติก็จะโดนมาตรา 157 คือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ตนไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด ขอให้ไปสอบถามกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อถามว่าจะย้อนกลับไปดำเนินคดีกับ อธิบดีกรมที่ดินคนเก่า หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยไปว่ากัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี