แนะสอบเขากระโดงใหม่
อดีตตุลาการศาลปค.เสนอ
ย้ำให้ได้ข้อยุติก่อนเพิกถอน
“ชั่งทอง”อดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุด ชี้การเพิกถอนที่ดินเขากระโดง แนะต้องตั้งคณะกรรมการมาตรา 61 มาตรวจสอบใหม่ ให้ได้ข้อยุติก่อนเพิกถอนและผู้เสียสิทธิ สามารถใช้สิทธิฟ้องเรียกค่าชดเชยจากกรมที่ดินหรือรัฐบาล ขณะที่เอกสารว่อนการรถไฟดอดขอ สค.1หลังชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 นายชั่งทอง โอภาสศิริวิทย์ อดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุด วิเคราะห์เกี่ยวกับที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ โดยได้นำเสนอภาพรวมทั้งหมดใน 4 ฉากทัศน์ คือ ฉากทัศน์ที่ 1.คดีเกิดจากที่ประชาชนจำนวนหนึ่งยื่นขอออกโฉนดในพื้นที่เขากระโดง แต่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท) ได้ยื่นคัดค้าน โดยอ้างว่าที่ดินดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ของ รฟท. ซึ่งศาลฎีกาได้วินิจฉัยในคดีหมายเลขแดงที่ 842-876/2560 และ 8027/2561 ว่า ที่ดินเขากระโดงจำนวน 5,083 ไร่ 80 ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมายของ รฟท. ดังนั้น ผู้ที่ขอออกโฉนดในพื้นที่นี้จึงไม่สามารถกระทำได้ และผู้ฟ้องคดีทั้ง 2 กลุ่มเป็นฝ่ายแพ้คดี
ฉากทัศน์ที่ 2.รฟท.ได้นำคำพิพากษาศาลฎีกาไปยื่นเรื่องต่อกรมที่ดิน เพื่อให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แต่กรมที่ดินไม่ดำเนินการ รฟท. จึงฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้กรมที่ดินมีหน้าที่โดยตรงต้องดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 เมื่อปรากฏว่าที่ดินเป็นของรัฐ และมีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ โดยระบุว่ากรมที่ดินละเลยต่อหน้าที่
ฉากทัศน์ที่ 3.กรมที่ดินได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง โดยแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แต่ภายหลังกลับมีคำสั่งให้ยุติการสอบสวน โดยให้เหตุผลว่าไม่พบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบ รฟท.จึงยื่นอุทธรณ์ แต่รองปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งยกอุทธรณ์ รฟท. จึงนำเรื่องนี้ไปฟ้องต่อศาลปกครองอีกครั้ง ซึ่งหลายข้อหาศาลไม่รับ เพราะซ้ำซ้อน เคยพิพากษาไปแล้ว และรับเรื่องไว้พิจารณาบางข้อหา ที่เกี่ยวกับการให้ยกเลิกอุธรณ์ของ รฟท.
ฉากทัศน์ที่ 4.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แถลงข่าวว่าจะสั่งเพิกถอนคำสั่งยุติการสอบสวนของกรมที่ดิน และสั่งให้เริ่มกระบวนการ เพิกถอนโฉนด เอกสารสิทธิ์ ที่ออกโดยไม่ชอบ การเพิกถอนจะกระทบแปลงที่ดินกว่า 900 แปลง ในพื้นที่เขากระโดง ซึ่งทาง รฟท. อ้างกรรมสิทธิ์อยู่ โดยหลักการแล้วรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งเพิกถอนคำสั่งของผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
“อย่างไรก็ตาม การจะเพิกถอนโฉนดนั้นจะต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด คือการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 ซึ่งอาจจะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมา และหากมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ผู้ที่ได้รับผลกระทบก็มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหาย หากเอกสารสิทธิ์ ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย เขาก็มีสิทธิ์ที่จะไปเรียกร้องเงินชดเชย หรือจะฟ้อง อย่างที่ว่าฟ้องละเมิด ต้องมีการพิสูจน์ในศาลว่า ผู้ถือครองมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือไม่ หรือเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐแต่เพียงผู้เดียว และศาลก็จะพิจารณาว่าค่าเสียหายจริงควรจะเป็นเท่าไหร่ หรือว่าจะมีแนวทางการเยียวยากันวิธีไหน เช่น ให้เช่าได้หรือไม่” นายชั่งทอง กล่าว
. นายชั่งทอง กล่าวว่า กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์เพราะในระบบที่ดินของประเทศไทย ก็ยังมีพื้นที่คล้ายเขากระโดงอีกจำนวนมาก บางท่านก็พูดถึงอัลไพน์ที่ก็ต้องปฏิบัติคล้ายกัน ก็คือไปทําให้ถูกต้องแล้วจะเยียวยาแก้ไขกันอย่างไร ก็ทําให้ถูกต้อง
“แต่ที่สําคัญที่สุดก็คือในอนาคต จะต้องป้องกันมิให้มีกรณีลักษณะนี้อีก การออกเอกสารสิทธิใดๆ ให้กับราษฎรเจ้าพนักงานที่ดินต้องทําอย่างเคร่งครัด ให้แน่ใจว่าที่ดินต่างๆ เหล่านั้น ไม่ได้ออกโดยไม่ชอบ เช่น ไม่ได้ออกทับที่สาธารณะ ไม่ได้ออกทับที่อุทยาน ถ้ามีการกระทําผิดอีกต่อไป เพราะว่าถ้ากรณีที่เอกชนที่ได้รับเอกสารสิทธิ์แล้วเขามาฟ้องมีความเสียหายเกิดขึ้น รัฐก็ต้องเป็นผู้ที่ชดใช้”นายชั่งทอง กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเผยแพร่เอกสาร “แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1)” เลขที่ 1180 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2498 (นายไสว นิมนวล) สบท. ตัวแทนการรถไฟฯ แจ้งครอบครองพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ รวมเนื้อที่ 5,083 ไร่ ต่อกรมที่ดิน โดยระบุในช่องสาเหตุการได้มาว่า “พระราชกฤษฎีกา” แต่ไม่ปรากฏวัน เดือน ปี ที่ได้มา และระบุสภาพที่ดินเป็น “ทางรถไฟ”
สำหรับ ส.ค.1 เป็นเพียงการแจ้งครอบครองเพื่อทำประโยชน์ ไม่ใช่หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ ทั้งนี้ การแจ้งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกรมที่ดิน ประกาศให้ราษฎรที่ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อนวันที่ 14 ธันวาคม 2497 มาจดทะเบียนแจ้งสิทธิ ซึ่งประชาชนจำนวนมากในพื้นที่เขากระโดง ได้แจ้ง ส.ค.1 ไว้แล้วตั้งแต่ปี 2497 ก่อนการรถไฟฯ จะมายื่นในปี 2498
ประเด็นนี้จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่า หากการรถไฟฯ มีกรรมสิทธิ์มาตั้งแต่ปี 2462 ตามที่อ้าง เหตุใดต้องมาขอจด ส.ค.1 ซึ่งเป็นสิทธิที่กฎหมายออกแบบมาเพื่อราษฎร และเหตุใด จึงไม่สามารถระบุ วัน เดือน ปี การได้มาของสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาที่อ้างได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมาย หน่วยงานของรัฐจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน ต้องได้มาโดยการเวนคืนหรือการจัดซื้อ พร้อมแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาที่กำหนดเขตชัดเจน และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา ครบทั้ง 3 องค์ประกอบ ซึ่งในกรณีพื้นที่เขากระโดง ที่ผ่านมาการรถไฟฯ ไม่สามารถนำเอกสารครบทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ มาแสดงต่อคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อให้มีมติเพิกถอนเอกสารสิทธิของประชาชนได้ เอกสาร ส.ค.1 ปี 2498 นี้ จึงเป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่ทำให้ข้อพิพาทเรื่องสิทธิในที่ดินเขากระโดง ยังคงต้องพิสูจน์กันในศาล ด้วยข้อเท็จจริงและหลักฐานครบถ้วน ต่อไป
ด้านนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “กรวีร์ ปริศนานันทกุล Korrawee” กรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เคยระบุว่าเตรียมเพิกถอนที่ดิน “เขากระโดง” ซึ่งจนถึงวันนี้ผ่านมากว่า 10 วันแล้ว ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ โยนายกรวีร์ ระบุว่า...10 วันเต็มๆ นับจากวันที่ท่านรมต.(หรือพรรคพท.) ประกาศ #พรุ่งนี้ เพิกถอนโฉนดเขากระโดง พรุ่งนี้มา 10 วันแล้ว หรือพรุ่งนี้ไม่มีจริง?? หรือความจริงมันทำไม่ได้?? หรือเพียงแค่ประเด็นโจมตีทางการเมือง?? จึงอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า #พรุ่งนี้กี่โมง???
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี