วันเสาร์ ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ทบ.ฮึ่ม!ขอใช้สิทธิ์ปกป้องตัวเอง  ทหารขาขาดอีก1  เหยียบกับระเบิดที่ตาเมือนธม  ชี้ชัดเขมรฉีกกฎหยุดยิงซ้ำซาก

ทบ.ฮึ่ม!ขอใช้สิทธิ์ปกป้องตัวเอง ทหารขาขาดอีก1 เหยียบกับระเบิดที่ตาเมือนธม ชี้ชัดเขมรฉีกกฎหยุดยิงซ้ำซาก

วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : เขมร ฉีกกฎหยุดยิง ตาเมือนธม ทบ.ฮึ่ม ฟ้องยูเอ็น ทหารขาขาดอีก1
  •  

ทบ.ฮึ่ม!ขอใช้สิทธิ์ปกป้องตัวเอง

ทหารขาขาดอีก1

เหยียบกับระเบิดที่ตาเมือนธม

ชี้ชัดเขมรฉีกกฎหยุดยิงซ้ำซาก

เจตนาลอบกัดไทยตลอดเวลา

‘กัมพูชา’ตีหน้าเศร้าฟ้องยูเอ็น

ทภ.2สรุปสถานการณ์ชายแดน ทหารพรานเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมบาดเจ็บ ขาซ้ายขาด 1 นาย คาดเป็นทุ่นระเบิด PMN-2 ด้านโฆษกกองทัพบกแถลงเหตุทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดรายล่าสุดเป็นหลักฐานชี้ชัดเขมรเจตนาลอบทำร้ายไทยตลอดเวลา ด้วยวิธีการซ่อนเร้น เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงซ้ำซาก ลั่นถ้าจำเป็นไทยต้องใช้สิทธิ์ป้องกันตัวเอง โดยยึดก.ม.ระหว่างปท.

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ประจำวันที่ 12 สิงหาคม 2568 จนถึงเวลา 14.00 น. มีรายละเอียด ดังนี้ สถานการณ์โดยรวม เมื่อเวลา 09.10 น. กำลังพลหน่วยเฉพาะกิจกองร้อยทหารพรานที่ 2610 ได้จัดกำลังพลลาดตระเวนเส้นทางบริเวณจุบตะโมก พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยของพื้นที่และป้องกันมิให้เกิดการรุกล้ำอธิปไตย ระหว่างลาดตระเวนตรวจสอบเส้นทาง กำลังพลได้ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิด ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ในอาณาเขตอธิปไตยของไทย สันนิฐานเบื้องต้นจากเศษชิ้นส่วนที่พบในที่เกิดเหตุ คาดว่าจะเป็นทุ่นระเบิดชนิด PMN 2 โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ สิบเอก ธีรพล เพียขันที ได้รับบาดเจ็บ ขาซ้ายขาด ปัจจุบันได้นำกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว


การดำเนินงานด้านจิตอาสา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ให้ นายภพ ภูสมปอง รอง ผวจ.อุบลราชธานี เชิญดอกไม้ และตะกร้าสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ณ รพ.ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จว.อุบลราชธานี ยังความซาบซึ้ง และสำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณแก่กำลังพล หาที่สุดมิได้

ศอ.จอส.พระราชทาน จว.ศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสา 904 จิตอาสาพระราชทาน ประชาชนจิตอาสา ร่วมอำนวยความสะดวกประชาชน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิด ได้มาให้ความรู้กับประชาชนในการสังเกตถึงความผิดปกติ ของบ้านเรือนพื้นที่ ที่ได้รับความเสียหาย และร่องรอยวัตถุอันตราย โดยให้ประชาชนสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอด

ส่งทหารเหยื่อกับระเบิดรักษารพ.สุรินทร์

กองทัพภาคที่ 2 ยังคงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน หากมีการพบเห็นวัตถุคล้ายระเบิด หรือวัตถุต้องสงสัย ให้ดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในทันที เพื่อประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าดำเนินการตรวจสอบ เก็บกู้ หรือทำลาย และขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่ดังกล่าวจนกว่าจะมีประกาศยืนยันความปลอดภัยโดยชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีรายงาน ส.อ.ธีรพล เทียสันเที อาสาสมัครทหารพราน สังกัดทหารพรานจู่โจมที่ 2610 ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าขาด เจ้าหน้าที่ทหารเข้าช่วยเหลือลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และส่งต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์สุรินทร์ด้วยเฮลิคอปเตอร์และเจ้าหน้าที่ทหารได้ประกาศปิดกั้นถนนทางเข้าปราสาทตาเมือนธมเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ชี้ชัดเขมรเจตนาลอบทำร้ายทหารไทย

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพลฯ ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย

ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า การใช้อาวุธโดยฝั่งกัมพูชายังคงมีอยู่ตลอดเวลาในช่วงมีข้อตกลงหยุดยิง

ทบ.ลั่นถ้าจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ป้องกันตัวเอง

“ยอมรับว่าพฤติกรรมและการกระทำลักษณะเช่นนี้ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการในมาตรการหยุดยิงอย่างแน่นอน รวมถึงเป็นท่าทีที่ชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาต้องการคุกคามฝ่ายไทย ด้วยการใช้อาวุธทางทหารในรูปแบบซ้อนเร้นไม่เปิดเผย ทำให้เชื่อได้ว่ากัมพูชายังคงดำรงความมุ่งหมายที่จะทำร้ายฝ่ายไทยด้วยรูปแบบลอบทำร้ายอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าช่วงเวลานี้จะอยู่ในช่วงการตกลงที่จะหยุดยิง ซึ่งต้องไม่มีการใช้อาวุธต่อกันในทุกรูปแบบ” พลตรีวินธัยกล่าว

และว่า สิ่งที่เกิดขึ้นยังสอดรับอย่างเป็นระบบโดยเฉพาะการที่กัมพูชาไม่ยอมตอบรับข้อเสนอไทย เรื่องทุ่นระเบิดจากการประชุม GBC ครั้งที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าเรื่องทุ่นระเบิดนี้น่าจะมีการวางแผนใช้มาเป็นระบบเจตนานำมาใช้คุกคามทำร้ายฝ่ายไทย ซึ่งที่ผ่านมากองทัพบกยึดมั่นแนวทางสันติวิธีมาตลอด และไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่หากสถานการณ์บีบบังคับก็อาจจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ป้องกันตนเองภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศในการคลี่คลายสถานการณ์ที่ทำให้ฝ่ายไทยต้องสูญเสียกำลังพลอย่างต่อเนื่อง จากการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและรุกล้ำอธิปไตยของทหารกัมพูชา

‘สว.ยกคณะลุยพื้นที่ชายแดน’บุรีรัมย์-สุรินทร์’

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญชัย ไชยพิศ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) นำคณะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนมอบสิ่งของจำเป็นเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดนเริ่มต้นภารกิจที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ มอบตาข่าย ให้กองร้อยทหารราบที่ 251 เพื่อใช้ในภารกิจป้องกันประเทศ จากนั้นเดินทางต่อไปยัง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อมอบ ชุดเสื้อสำหรับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และที่สำคัญคือได้มอบ เสื้อเกราะกันกระสุน ให้กับนายอำเภอพนมดงรัก เพื่อใช้เป็นเกราะป้องกันชีวิตให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเมื่อวันที่ 11สิงหาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังมอบตาข่ายให้กองร้อยทหารปืนใหญ่ค้นหาเป้าหมาย พร้อมกับเข้าเยี่ยมเยียนโรงพยาบาล อ.พนมดงรัก พบปะและพูดคุยกับคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เพื่อรับฟังสถานการณ์ความเสียหายจากเหตุความขัดแย้งชายแดนที่ผ่านมา ซึ่งยังคงทิ้งร่องรอยบาดแผลทั้งกายและใจให้กับผู้ประสบเหตุ อีกทั้งยังเป็นการมอบความห่วงใย และขวัญกำลังใจต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่ สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยไม่ทิ้งกันในทุกสถานการณ์

โฆษกเขมรโต้เฉยไม่เคยวางทุ่นระเบิดใหม่

วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เพ็ญ โบนารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะโฆษกรัฐบาลกัมพูชาออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยที่ว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ โดยยืนยันว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูลความจริง ไม่มีการสอบสวนที่น่าเชื่อถือ และเป็นการกุเรื่องขึ้นมาเพื่อทำให้เกิดปัญหา โดยระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม เพ็ญ โบนาย้ำว่า ข้อกล่าวหาของฝ่ายไทยต่อกัมพูชานั้นไม่มีมูลความจริง ขาดการสอบสวนจากผู้เชี่ยวชาญอิสระที่น่าเชื่อถือ และเป็นการกุข้อกล่าวหาขึ้นมาเองโดยเจตนาเพื่อปลุกปั่น

‘เพ็ญ โบนา’ กล่าวว่า ในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตั้งแต่ปี 1999 กัมพูชาได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติจากความสำเร็จและผลงานในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และความมุ่งมั่นที่จะไม่ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอีก กัมพูชาสามารถเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลไปแล้วกว่า 1 ล้านลูก และวัตถุระเบิดจากความขัดแย้งในอดีตที่ยังไม่ระเบิดอีกกว่า 3 ล้านชิ้น ช่วยชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน และทำให้ชุมชนมีที่ดินปลอดภัยเพื่อใช้ประโยชน์จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการสอบสวนอย่างเป็นทางการและโปร่งใสเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการออกแถลงการณ์สาธารณะ เนื่องจากข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงอาจบั่นทอนเจตนารมย์ของการหยุดยิง และทำลายความไว้วางใจซึ่งกันและกันในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้

“หน่วยงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดและช่วยเหลือเหยื่อทุ่นระเบิดของกัมพูชา (CMAA) ก็ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลของกระทรวงการต่างประเทศไทย ซึ่งกล่าวหากัมพูชาว่าวางทุ่นระเบิดใหม่ โดย CMAA ย้ำชัดว่า กัมพูชายืนหยัดในจุดยืนที่จะไม่ใช้และไม่มีเจตนาที่จะใช้ทุ่นระเบิดใหม่ กัมพูชาหวังว่าไทยจะเคารพข้อตกลงที่ได้ตกลงกันไว้ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วมกัมพูชา–ไทย (GBC) สมัยวิสามัญ โดยเฉพาะข้อ 2 ที่ระบุว่าทั้งสองฝ่ายต้องหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายกำลังทหาร รวมถึงการงดลาดตระเวนเกินกว่าตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบัน”

กัมพูชายืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกับไทย ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ และประชาคมระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อกับทุ่นระเบิด เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและส่งเสริมความปลอดภัย

ร่อนจม.โร่ฟ้องUNไทยละเมิดหยุดยิง-ล้ำแดน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา นายปรัก สุคน รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ส่งจดหมายถึงเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นภายหลังการหยุดยิงระหว่างกัมพูชากับไทย

โดยทางรมว.ต่างประเทศกัมพูชากล่าวหาว่า กองทัพของไทยยังคงละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา รวมถึงละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ข้อตกลงทวิภาคีและเงื่อนไขของการหยุดยิงที่ตกลงกันไว้ พร้อมระบุว่านับตั้งแต่การหยุดยิงมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา กองทัพของไทยรุกล้ำเข้ามาในดินแดนกัมพูชาหลายครั้ง โดยวางลวดหนามผิดกฎหมายและก่อสร้างหลายพื้นที่

นายจุม สุนรีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา อ้างว่า กองกำลังของไทยได้รุกล้ำและยกระดับกิจกรรมในจ.พระวิหารผิดกฎหมาย ตั้งแต่การวางลวดหนามไปจนถึงการทำลายบ้านเรือนชาวกัมพูชา และใช้เครื่องจักรกลหนักสร้างป้อมปราการ พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและกองกำลังทหารของไทยดำเนินการ 3 ข้อ คือ

1.ยุติการบุกรุก การยึดครองโดยผิดกฎหมายและกิจกรรมใดๆ ที่เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาโดยทันที 2.ถอนกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ของไทยทั้งหมดไปยังตำแหน่งที่สอดคล้องกับเขตแดนที่กฎหมายกำหนดไว้ 3.ปฏิบัติตามพันธกรณีทวิภาคีและพันธกรณีระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันทั้งหมดอย่างเต็มที่และไม่มีเงื่อนไข กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศของไทย แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อกรณีกองทัพไทยละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา

เจรจาก็ทำไป-เล็งฟ้องระดับสากล

พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี่ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าทหารกัมพูชาลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทยเป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทย อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ขอข้อมูลเร่งด่วนเพื่อทำการประท้วงฝ่ายกัมพูชาต่อไป

“แม้จะมีการประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ครั้งต่อไป ไทยจะนำเรื่องทุ่นระเบิดนี้ไปหารือ แต่เชื่อว่ากัมพูชาคงไม่ยอมรับเหมือนที่เขาพูดใน GBC เมื่อเขาปฏิบัติเรื่องนี้เขาก็ไม่พูดถึง”พล.ท.บุญสิน กล่าว

เมื่อถามว่า ทางกัมพูชาไม่ยอมร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดและทหารไทยเหยียบระเบิดแบบนี้ต่อไป พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ถ้าเหตุการณ์สงบ เราก็ต้องให้ศูนย์เก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เข้ามาดำเนินการเก็บกู้ แต่ถ้าไม่สงบ ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราต้องตอบโต้ด้วยกำลัง เมื่อถามอีกว่า เราได้เจรจาหยุดยิงไปแล้วมีผลอะไรหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องหน้างาน การเจรจาก็เจรจาไป เรามีสิทธิ์ปกป้อง และคุ้มครองกำลังพลของเราเช่นกัน

“ทางเราจะมีการปรับแผน ในการลาดตระเวน เพื่อให้กำลังพลจะได้ไม่ต้องไปเสี่ยงกับทุนระเบิดที่ทางกัมพูชาได้วางไว้ ทางเราเพิ่มการใช้กล้องวงจรปิด และใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าทำการเคลียร์ เส้นทางลาดตระเวนแทนการใช้บุคคล ในการควบคุมแต่ละพื้นที่ เป็นการป้องกันกำลังพล นอกจากนี้จะได้เพิ่มการเฝ้าตรวจในระยะไกลขึ้นมาอีกสเต็ป“ พล.ท.บุญสิน กล่าว

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ตัดโควตา!ไร้ที่นั่ง‘เขมร’ใน‘วปอ.’ เปิดรายชื่อ‘7 ทหารต่างชาติ-บิ๊กเนม’ได้สิทธิ์เรียนปีหน้า ตัดโควตา!ไร้ที่นั่ง‘เขมร’ใน‘วปอ.’ เปิดรายชื่อ‘7 ทหารต่างชาติ-บิ๊กเนม’ได้สิทธิ์เรียนปีหน้า
  • \'พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล\'ออกโรง! ซัด\'กัมพูชา\'โกหกไม่เลิก บิดเบือน\'ไทย\'ใช้อาวุธเคมีในเวทีโลก 'พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล'ออกโรง! ซัด'กัมพูชา'โกหกไม่เลิก บิดเบือน'ไทย'ใช้อาวุธเคมีในเวทีโลก
  • กต.เชิญ\'ทูต-องค์กรภาคี\' เข้าฟังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กต.เชิญ'ทูต-องค์กรภาคี' เข้าฟังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
  • เขมรกลัวอดตาย ทะลักกลับเข้าไทย 2กระทรวงผ่อนผัน เขมรกลัวอดตาย ทะลักกลับเข้าไทย 2กระทรวงผ่อนผัน
  • \'5 ขา\'เดือนเดียว! ทุ่นระเบิด\'เขมร\'ละเมิดหยุดยิง-หยามไทย '5 ขา'เดือนเดียว! ทุ่นระเบิด'เขมร'ละเมิดหยุดยิง-หยามไทย
  • ละเมิดข้อตกลงชัดเจน!! เปิดคลิปโดรนเขมรกว่า 20 ลำ บินบริเวณสัตตะโสม ละเมิดข้อตกลงชัดเจน!! เปิดคลิปโดรนเขมรกว่า 20 ลำ บินบริเวณสัตตะโสม
  •  

Breaking News

แฉ!'ไมเคิล อัลฟาโร' ไม่ใช่นักข่าวทำเนียบขาว แต่เป็น'ล็อบบี้ยิสต์' ที่กัมพูชาจ้างมาปล่อยข่าวปลอม

'พีระพันธุ์'ยังอยู่ในกระบวนการชี้แจงข้อกล่าวหา คดีถุงยังชีพ ป.ป.ช.เผยไม่มีคดีอื่นเพิ่มเติ

ครอบครัวทหารพราน เหยียบระเบิดขาขาด ประณามเขมรละเมิดสัญญาออตตาวา

ใกล้ถึงจุดจบ! ‘วัส ติงสมิตร’วิเคราะห์ ละครคลิปเสียง'แพทองธาร-ฮุนเซน'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved