วันศุกร์ ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ปชน.ถล่มงบ’69 ไม่ตอบโจทย์แก้สารพัดวิกฤตปท.พิษศก.-สงคราม-การเมือง

ปชน.ถล่มงบ’69 ไม่ตอบโจทย์แก้สารพัดวิกฤตปท.พิษศก.-สงคราม-การเมือง

วันพฤหัสบดี ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : การเมือง แก้สารพัดวิกฤต จัดงบฯไร้ตอบโจทย์ แนวหน้าออนไลน์ ปชน.ถล่ม ฝ่ายค้าน เศรษฐกิจ สงคราม ถกงบปี69 วาระ2-3
  •  

ปชน.ถล่มงบ’69
ไม่ตอบโจทย์แก้สารพัดวิกฤตปท.
พิษศก.-สงคราม-การเมือง
เย้ย1ใน3ละลายกับแผนงาน
สร้างตึก/ตัดถนน/ขุดคลอง
ทุ่มลง‘อปท.’รอรับเลือกตั้ง

“พิชัย” แจงรายงานกมธ.ปรับลด 8,920 ล้านบาท เหตุไม่สอดคล้องภาวะปัจจุบัน-การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ด้าน“เท้ง” ซัดรบ.หูหนวก-ตาบอด จัดงบฯ’69 ไร้ตอบโจทย์แก้สารพัดวิกฤตเศรษฐกิจ-สงคราม-การเมือง คิดไม่ลึก- ไร้รอบคอบ ชี้1ใน3หมดไปกับสร้างตึก-ตัดถนน-ขุดคลอง ไม่ขัดกระจายงบฯลง’อปท.’ดักคอแลกผลประโยชน์ตอบแทน เหตุใกล้จะเลือกตั้ง‘ศิริกัญญา‘ขอปรับลดงบฯภาพรวมลง50,000ล้าน ชี้สงครามการค้า ทำชาติตกอยู่ในภาวะ3เสี่ยง ทั้งด้าน‘รายได้-รายจ่าย-หนี้สาธารณะ’

เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 13สิงหาคม2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้เทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78ล้านล้านบาท วาระ2และวาระ3 ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาแล้วเสร็จ เป็นวันแรก


‘พิชัย’แจงเหตุผลลดงบ8.9พันล้าน

โดย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกมธ.ฯรายงานผลการพิจารณาต่อที่ประชุมตอนหนึ่งว่า การพิจารณารายละเอียดได้พิจารณาตามความจำเป็น คำนึงถึงฐานะการคลัง การขับเคลื่อนของหน่วยงานภายใต้ความสุจริต โปร่งใส และเป็นธรรม พร้อมมีข้อสังเกตในภาพรวม เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการเศรฐกิจในปีงบประมาณ2569 ที่มีแนวโน้มชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลกระทบต่องบประมาณ ทั้งส่วนรายได้และรายจ่าย การเตรียมงบรองรับมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศ เศรฐษกิจหลักและการจัดการหนี้สาธารณะให้ลดลงในระยะยาว เพื่อให้มีพื้นที่การคลังไว้ใช้ในยามเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ โดยไม่กระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังในอนาคต และให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาแต่ละจังหวัดที่แตกต่างไปในแต่ละบริบทพื้นที่ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม และหน่วยรับงบประมาณควรแสดงงบประมาณส่วนเงินนอกงบประมาณต่อแผนงานประจำปีเพื่อให้การพิจารณาครอบคลุมทุกแหล่งเงิน

นายพิชัย กล่าวต่อว่า การทำงานของกมธ.ปรับลดงบประมาณ 8,920ล้านบาท โดยพิจารณาความสอดคล้องในสถานการณ์ปัจจุบัน ความคุ้มค่า ศักยภาพในการใช้จ่ายเงิน เช่น งบประมาณไม่สามารถใช้จ่ายได้ทันปีงบประมาณหรือรายการผูกพันงบประมาณเดิมที่ต่ำกว่างบประมาณเสนอไว้ รายการไม่สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบันหรือดำเนินการไปแล้วแต่ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณ รายการที่ชะลอได้ โดยไม่กระทบภารกิจให้บริการประชาชนหรือทบทวนโครงการให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ส่วนที่ยกเลิกหรือใช้งบจากส่วนอื่นนอกจากงบประาณได้ เช่น เงินที่จัดเก็บเอง เงินสะสมคงเหลือ เงินนอกงบประมาณ สำหรับการพิจารณารายละเอียดงบประมาณ ปรับลด เพิ่มและเปลี่ยนแปลง งบประมาณ กมธ.ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ต่อความพร้อมและศักยภาพของหน่วยงาน ความซ้ำซ้อน เป้าหมายดำเนินงาน ผลการดำเนินงานและภารกิจกระตุ้นเศรฐกิจ การแก้ปัญหาประชาชนและประโยชน์โดยตรงกับประชาชน รวมถึงสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโต เข้มแข็ง รองรับปัจจัยภายในและภายนอกอย่างมีเสถียรภาพ รวมถึงการดำเนินงานไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ระเบียบ เพื่อให้อยู่ในกรอบวงเงิน3.78ล้านล้านบาท

‘ศิริกัญญา‘ขอลดงบ5หมื่นล้านบาท

เวลา 10.00น.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะกมธ.ฯ อภิปรายว่า ตนขอสงวนความเห็นในมาตรา4งบประมาณในภาพรวม ขอให้ปรับลดเพิ่มอีก 50,000ล้านบาท เหลือ 3.73ล้านล้านบาท ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติที่เราอยากตัดลดงบพิ่มในยามที่ประเทศอาจจะกำลังเผชิญกับวิกฤตคู่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการประทะตามแนวชายแดนและหวังว่า วิกฤตินี้จะจบในเร็ววัน ไม่ยืดเยื้อไปถึงงบสมัยหน้า การขอปรับงบครั้งนี้เพื่อให้เก็บกระสุนไว้ใช้ในยามจำเป็น โดยตลอดการอภิปราย คงได้ฟังว่ามีการจัดงบประมาณใดบ้างที่ซ้ำซ้อน ไม่จำเป็น แพงและงบใดที่ต้องตัดลดรีดไขมันออกชะลอหรือเลื่อนออกไปก่อนต้องจัดลำดับความสำคัญกันใหม่ จากวิกฤตที่จะเกิดกับสงครามการค้าที่จะมาถึง ที่จะทำให้การคลังของประเทศตกอยู่ในภาวะ 3เสี่ยง ทั้งด้านรายได้ รายจ่ายและหนี้สาธารณะ

รายจ่ายเพิ่ม-รายได้ลด-หนี้สาธารณะพุ่ง

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ยกตัวอย่างข้อมูลจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2568 ถึง2569 ที่มีการคาดการณ์ว่าจีดีพี จะโตอยู่ที่ 2.8% แต่ล่าสุดในปลายปี 2569 เหลือเพียงแค่ 1.6% ซึ่งแม้เราจะทราบอัตราภาษีแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าตัวเลขจะดีขึ้น เพราะหลายวิจัยปรับเพิ่มจีดีพีปี2568 จริง แต่ไม่มีวิจัยฉบับไหนที่ปรับเพิ่มจีดีพีในปี 2569 ส่วนการประมาณการรายได้ ปี 69 ถ้าจีดีพีปรับลดลง การจัดเก็บรายได้ก็ลดลงด้วย จากการประมาณการของสถิติการคลัง จากนั้น ถ้าจีดีพีลดลง 1.7% จะทำให้รายได้ลดลง 1.45% แต่เศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นเรื่องสงครามการค้าจะส่งผลต่อทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลดลงก็จะส่งผลด้วย ซึ่งจะทำให้เราจัดเก็บภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าน้ำมันลดลง0.7%แค่2ปัจจัยนี้จะทำให้รัฐจัดเก็บรายได้พลาดเป้าอาจจะเกือบ 64,000ล้านบาท นี่เป็นเรื่องใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นในปี2569 มาจากความผันผวนทางเศรษฐกิจจากสงครามการค้า

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ขณะที่ความเสี่ยงด้านรายจ่ายปี 69 จะต้องมีงบเพื่อฟื้นฟู พยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้มีการเตรียมการไว้งบกลางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังคงอยู่ที่ 25,000 ล้านบาทเท่าเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงหรือแปรเพิ่มเข้ามาในส่วนนี้ ทั้งที่ในปี 68 ที่ไม่มีวิกฤตดีกว่าเกือบ 200,000 ล้านบาท กองทุน FTA ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ไม่ได้มีการปรับงบแต่อย่างใด และกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้งบประมาณเพิ่มขึ้น 5ล้านบาท ซึ่งแทบจะทำไม่ได้ในช่วงที่เกิดวิกฤต ถือเป็นความเสี่ยงด้านรายจ่ายที่จะทำให้เรากดดันให้เราไม่มีงบประมาณเหลือจ่ายไปใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ต้องเก็บกระสุนไว้สู้สงครามศก.

ส่วนความเสี่ยงด้านหนี้สาธารณะ ขณะนี้กำลังจะชนเพดาน พื้นที่ทางการคลังของเราเหลือไม่มากแล้ว ปัจจุบันเหลือแค่64% ที่เราคิดว่าน่าจะพอไหว แต่สิ้นปีงบ68 จะเหลือที่ 66% ส่วน ปี 69 ถ้ากู้ตามที่วางแผนไว้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะขึ้นไปถึง69% อันเนื่องมาจากว่าจีดีพีของเราที่กำลังถดถอยลงเรื่อย ๆ ทำให้สัดส่วนที่สาธารณะต่อจีดีพีกำลังจะชนเพดานในปี 2569 จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องปรับงบประมาณในส่วนนี้ เพื่อไปเป็นส่วนสมทบในส่วนหน้า และต้องมีการขยายเพดานหนี้สาธารณะให้เกิน 70% ของจีดีพีและอาจจะต้องมีการออก พรบ.หรือพรก.เงินกู้ เพื่อมาพยุงเศรษฐกิจในปี 2569 เพราะถ้าดูจากยอดปรับลดของ ปี69 ในการเกลี่ยงบประมาณใหม่ ไม่ได้เป็นไปตามนั้นเลย ตลอดการพิจารณาที่ผ่านมาปรับงบลดไปได้เพียง 8,900 ล้านบาท และถูกนำไปให้กับงบประมาณที่ควรจะขอมาตั้งแต่เริ่ม ไม่ว่าจะเป็นการใช้หนี้ให้กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม การจัดประชุม World Bank IMF เงินประกันสังคม ซึ่งเป็นเงินควรเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว

“ซึ่งงบ69 ดูไม่รู้สึกรู้สาเหตุเลยว่า มีวิกฤตรออยู่ ต่างจากช่วงวิกฤตโควิดที่งบเคยไปถึงกว่า 30,000 ล้านบาท ดิฉันไม่อยากปรับลดงบปช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่เราจำเป็นที่จะต้องเก็บกระสุน ถ้าการจัดงบประมาณในครั้งนี้ ไม่ได้ตอบโจทย์เพื่อช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากสงครามการค้าได้ เราต้องปรับลดงบประมาณในครั้งนี้ เพื่อเก็บพื้นที่ทางการคลังเอาไว้ใช้เมื่อเกิดวิกฤตจริง“ น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

‘เท้ง’ซัดซัดไร้ตอบโจทย์แก้วิกฤติศก.

เวลา11.40น.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายว่า การปรับลดลงประมาณของ กมธ.8,920ล้านบาท หรือเท่ากับ 0.24% แต่กลับพบการจัดสรรให้กับหน่วยงานที่ไม่ตรงจุดและตอบโจทย์การรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจ และสงคราม ทั้งสงครามชายแดน และสงครามการเมืองทั้งนี้ตนไม่โทษกมธ.ฯแต่โทษรัฐบาลที่หูหนวก ไม่ยอมฟังเสียงสภาฯ ตาบอดโดยไม่พิจารณางบประมาณที่มีความจำเป็นกับประชาชนและภาวะของประเทศ ทั้งนี้ตนมองว่าเหตุที่รัฐบาลเป็นเช่นนั้นเพราะขาดเข็มทิศ เศรษฐกิจที่ต้องการคือเม็ดเงินลงทุนที่สร้างการเติบโตให้ประเทศและสร้างประโยชน์กับประชาชน ไม่ใช่กระจุกตัวกับผู้รับสัมปทานบางกลุ่ม หากรัฐบาลเตรียมร่างพรบ.งบฯ69 ดีเพียงพอ จะทำให้นักลงทุนและคนไทยเห็นถึงเป้าหมายว่า จะเดินไปทางไหน สิ่งที่อยากเห็นในงบลงทุน เช่น นำไปปลูกป่าเศรษฐกิจ ลดคาร์บอน ต่อยอดอุตสาหกรรม สร้างไบโอแมททีเรียล ถือธงนำให้เอกชนพัฒนาเมือง ปลูกโซลาร์บนหลังคาประชาชน เปลี่ยนโครงสร้างพลังงานเป็นพลังงานสะอาด และให้รัฐบาลร่วมลงทุน ทำให้ประชาชนลดค่าไฟด้วย นอกจากนั้นคือ การลงทุนปลูกข้าวยั่งยืน ข้าวรักษ์โลก เปลี่ยนกระบวนการปลูกที่ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ร่างพรบ.งบฯ69 เป็นงบที่คิดไม่รอบคอบ คิดไม่ลึก จึงขอสงวนปรับลดกรอบวงเงินในภาพรวม ให้มีพื้นที่การคลังเพียงพอต่อการสร้างอนาคตประเทศ

เย้ยเน้นสร้างตึก-ตัดถนน-ขุดคลอง

นายณัฐพงษ์ ยังให้สัมภาษณ์ก่อนอภิปรายร่าง พรบ.งบฯว่า สิ่งที่รัฐบาลเตรียมมาเป็นสิ่งที่รัฐบาลคิดไม่รอบและไม่ลึก เพราะขาดความรอบคอบ การที่กมธ.ปรับลดงบประมาณ 8.9พันล้านบาท แต่รัฐบาลกับแปรญัตติให้มีงบฯรายจ่ายประจำ เช่น เงินเดือนข้าราชการประกันสุขภาพซึ่งงบส่วนนี้เป็นรายจ่ายประจำที่ต้องตั้งงบประมาณให้เต็มสัดส่วนอยู่แล้วตั้งแต่วาระ1แต่กลายเป็นว่าตั้งขาด พอมีการปรับลดงบประมาณก็แปรญัตติส่วนนี้กลับเข้ามา ส่วนที่บอกว่าคิดไม่ลึก เพราะคิดตื้นๆ ในส่วนงบลงทุน 8.9 พันล้านบาทที่กรรมาธิการได้ตัดรถ1ใน3เป็นงบลงทุนในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กลายเป็นว่างบลงทุนส่วนใหญ่ของประเทศ จะถูกนำไปใช้ในการลงทุนเพื่อสร้างอนาคตให้กับประเทศ กลับเอาไปใช้สร้างตึกตัดถนน ขุดคลองซึ่งเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่าตอนที่รัฐบาลเสนองบประมาณเข้ามา เป็นการคิดจัดสรรงบประมาณที่ไม่รอบคอบยังคิดไม่ลึกเพียงพอ

ดักคอเทงบลง’อปท.’หวังรับเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า มีการตัดงบในหลายกระทรวงสำคัญเพื่อนำไปจัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท.หลายจังหวัด เหมือนมีนัยสำคัญใกล้จะเลือกตั้งหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ขัดข้องอะไรที่จะแปรญัตติเติมเข้าไปในอปท.เช่น ภารกิจถ่ายโอนมีการประหยัดเอาไปให้ อบจ.ต่างๆ ดังนั้น ถ้าเป็นการแปรญัตติตรงไปตรงมาตามภารกิจของท้องถิ่นก็ไม่ติดใจอะไร แต่ถ้ามีในเรื่องของการประสานงานเบื้องหลังอยู่ใกล้เลือกตั้งหรือไม่เป็นสิ่งที่พวกเราไม่ได้อยากเห็น และไม่อยากให้กระบวนการพิจารณางบประมาณได้ประโยชน์ต่างตอบแทน เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองแบบนั้น

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ชาวอุบลฯ\'ขอบคุณ\'ทักษิณ-ทวี\'มอบบ้านน็อคดาวน์สำเร็จรูป เป็นหลังที่ 5 'ชาวอุบลฯ'ขอบคุณ'ทักษิณ-ทวี'มอบบ้านน็อคดาวน์สำเร็จรูป เป็นหลังที่ 5
  • \'มาดามหยก\'ย้ำพรรคก้าวอิสระยืนเคียงข้างทหาร-ชาวไทย ปลุกใจจับมือผ่านเรื่องโหดร้ายไปด้วยกัน 'มาดามหยก'ย้ำพรรคก้าวอิสระยืนเคียงข้างทหาร-ชาวไทย ปลุกใจจับมือผ่านเรื่องโหดร้ายไปด้วยกัน
  • ตอกหน้าพรรคส้ม!! ทหารพรานโชว์ใช้สายไส้ไก่รัดห้ามเลือดด้วยตัวเอง หลังถูกด้อยค่ากลางสภาฯ ตอกหน้าพรรคส้ม!! ทหารพรานโชว์ใช้สายไส้ไก่รัดห้ามเลือดด้วยตัวเอง หลังถูกด้อยค่ากลางสภาฯ
  • \'ภูมิธรรม\'ยันไร้แผนสำรองหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองปมคลิปเสียง\'อิ๊งค์-ฮุนเซน\' 'ภูมิธรรม'ยันไร้แผนสำรองหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองปมคลิปเสียง'อิ๊งค์-ฮุนเซน'
  • \'หริรักษ์\'ซัด\'ภูมิธรรม\'ขวางรับบริจาคลวดหนาม คงมีอะไรบังตา เป็นปกติพวกถึงกาลวิบัติล่มสลาย 'หริรักษ์'ซัด'ภูมิธรรม'ขวางรับบริจาคลวดหนาม คงมีอะไรบังตา เป็นปกติพวกถึงกาลวิบัติล่มสลาย
  • \'ปลอดประสพ\'ปิ๊งไอเดีย ประกาศรับซื้อทุ่นระเบิดเขมร ลูกละ 10,000 บาท 'ปลอดประสพ'ปิ๊งไอเดีย ประกาศรับซื้อทุ่นระเบิดเขมร ลูกละ 10,000 บาท
  •  

Breaking News

‘สภ.เมืองน่าน’จัดอบรมเครือข่ายป้องกันและรักษาความสงบระดับจังหวัด

เขมรระดมส่ง'กระเทียม'ให้ทหารกัมพูชาสู้'แก๊สพิษ' ชาวไทยโต้ที่แท้มันคือกลิ่นศพ

รวบ 3 สิงห์รถบรรทุก! ซุกบุหรี่เถื่อนคาด่าน มูลค่ากว่า 2 ล้าน

‘ประธานวิปรัฐบาล’บี้‘พรรคส้ม’แมนๆเปิดมาเลยฝั่งรัฐบาลใครแจกกล้วยแลกโหวตงบ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved