โหวตเลือกนายกฯใหม่ใช้เวลาไม่นาน ‘วันนอร์’แย้มคดี‘อิงค์’ สภาไม่ได้เตรียมพร้อมอะไร

โหวตเลือกนายกฯใหม่ใช้เวลาไม่นาน ‘วันนอร์’แย้มคดี‘อิงค์’ สภาไม่ได้เตรียมพร้อมอะไร

วันอาทิตย์ ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

โหวตเลือกนายกฯใหม่ใช้เวลาไม่นาน
‘วันนอร์’แย้มคดี‘อิงค์’
สภาไม่ได้เตรียมพร้อมอะไร
ทุกอย่างอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ
พท.มั่นใจ29ส.ค.ได้รับข่าวดี
ยัน‘แพทองธาร’ไม่ชิงลาออก

“วันนอร์” เผย 29 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินคดีคลิปเสียง “อุ๊งอิ๊งค์” ในส่วนของ สภาไม่ต้องเตรียมอะไรและไม่ขอคาดเดา ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ชี้ถ้าจะโหวตชิงนายกฯใหม่ ก็ใช้เวลาไม่นานเพราะเป็นขั้นตอนปกติ ด้าน “วิสุทธิ์-ประเสริฐ” แกนนำเพื่อไทย เชื่ออีกไม่นานได้รับข่าวดี ทั้งนายใหญ่-นายน้อยหญิง พ้นเคราะห์ไม่ชิงลาออก ปิดประตูเก้าอี้นายกฯตกไปถึง “บิ๊กตู่-เสี่ยหนู”

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมพร้อมรองรับการตัดสินคดีคลิปเสียงการสนทนาน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกับ สมเด็จ ฮุน เซน ของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้


โดยกล่าวว่าสภาฯไม่ได้เตรียมอะไรรองรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 สิงหาคมเพราะเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหา และศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัย หลังจากนั้นผลจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องระหว่างศาลกับนายกรัฐมนตรี สภาฯจึงไม่ได้มีการเตรียมการอะไร แต่หลังวันที่ 29 สิงหาคม ถ้ามีผลอย่างไรสิ่งใดที่เป็นหน้าที่ของสภาฯ สภาฯก็จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด พร้อมย้ำว่าวันที่ 29 สิงหาคม ไม่ใช่หน้าที่ของสภาฯ

เมื่อถามว่าถ้าคำวินิจฉัยวันที่ 29 สิงหาคม เป็นลบ กระบวนการขั้นตอนการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ต้องใช้เวลากี่วัน นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่าต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องของสภาฯที่จะมีการประชุม จากเดิมต้องประชุมร่วมรัฐสภา แต่มาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญจบไปแล้ว

โหวดเลือกนายกฯใช้เวลาไม่นาน

“ถึงจะมีแค่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เหมือนกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาครั้งล่าสุด คงใช้เวลาไม่นาน สภาฯพร้อมดำเนินการเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แต่เราไม่อยากจะพูดตอนนี้ ว่าผลจะออกมาเป็นบวกหรือเป็นลบ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ โดยเฉพาะฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งต้องเคารพฝ่ายตุลาการ”ประธานสภาผู้แทนฯย้ำ

’พท.‘มั่นใจมีเจตนาดีต่อบ้านเมือง

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรมกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชาในวันที่ 29 ส.ค.นี้พรรคเพื่อไทย มีการเตรียมวอร์รูมติดตามสถานการณ์หรือไม่ ว่า ตอนนี้ยังไม่มี ซึ่งกำลังใจของสส.ในพรรคเชื่อมั่นในตัวของนายกฯ ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ต่อประเทศชาติบ้านเมือง มีความปรารถนาดี

เมื่อถามว่ามั่นใจเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านที่น.ส.แพทองธาร ชี้แจงตอบข้อซักถามต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็มีความมั่นใจว่าท่านมีเจตนาดีไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ตนเจอท่านที่มาสภา ยิ้มแย้มแจ่มใสมีกำลังใจดีพวก เรา สส.ก็ได้ให้กำลังใจท่าน

’อิ๊งค์‘สู้ถึงวันตัดสิน ไม่ชิงลาออก

เมื่อถามย้ำว่า ยังยืนยันหรือไม่ว่าน.ส.แพทองธารจะไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนวันตัดสินคดีในวันที่ 29 ส.ค.นี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนยังยืนยัน ไม่มีเรื่องนี้ ตนไม่เคยได้ยิน

เมื่อถามอีกว่าน.ส.แพทองธาร จะสู้ต่อจนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า “แน่นอน”

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์กรณีที่ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในคดีมาตรา112 และวันที่29ส.ค.นี้ศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดลงมติชี้ขาดในคดีคลิปเสียงหลุดของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ รัฐบาลมีความกังวลมากน้อยแค่ไหนว่า รัฐบาลมั่นใจว่า นายกฯสามารถชี้แจงได้ คงจะได้รับข่าวดีในวันที่29ส.ค.นี้ ส่วนกรณีที่ศาลฯยกฟ้องนายทักษิณ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่นายทักษิณ โดนกล่าวหามีความชัดเจนขึ้น เมื่อศาลฯวินิจฉัยแล้วก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และถือเป็นขวัญกำลังใจให้กับสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพราะนายทักษิณเป็นผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ก็คือพรรคไทยรักไทยในอดีตในฐานะอดีตหัวหน้าพรรค

เมื่อถามว่าคดีที่ยังเหลืออีก2คดี คือคดีคลิปเสียงหลุดของน.ส.แพทองธาร และคดีชั้น14ของนายทักษิณ หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะโดนเยอะ มีความกังวลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจว่าคดีที่เหลืออยู่ จะได้รับข่าวดีที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า และจะได้รับความเป็นธรรม สามารถที่จะพิสูจน์ตัวเองได้

ยันไร้แผนสำรองหากโดยสอย

เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้มั่นใจ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนคิดว่าการที่น.ส.แพทองธาร ไปชี้แจงต่อศาลฯ เมื่อเราดูเจตนาที่บริสุทธิ์ใจดีๆแล้ว น.ส.แพทองธาร ไม่มีเจตนาที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหายเลยตามที่หลายคนกล่าวหา นายกฯปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติอยู่แล้ว ตรงนี้เป็นข้อเท็จจริงอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าหากไม่เป็นไปตามนั้น มีแผนสำรองหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่มีแผนสำรอง ส่วนโอกาสในการยุบสภาจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น มันมีหลายปัจจัย เช่น งบประมาณไม่ผ่านการพิจารณาวาระ2-3ในสภาฯ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการยุบสภา ขณะนี้ไม่มีปัจจัยอะไรเลยที่จะชี้นำไปสู่การยุบสภา

ยังมั่นใจ‘อิ๊งค์’ไม่ชิงลาออก

เมื่อถามกระแสข่าวที่น.ส.แพทองธาร จะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เพื่อให้คดีมันยุติ นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังมั่นใจว่าไม่ลาออก การที่นายกฯไปชี้แจงต่อศาลฯก็เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างหนึ่ง

เมื่อถามว่าหากมีอะไรเกิดขึ้น นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย พร้อมหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอให้ถึงจุดนั้นก่อน แต่ขณะนี้มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้น ส่วนจะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)อีกรอบหรือไม่ ต้องถามนายกฯ

ไม่เชื่อเก้าอี้นายกฯตกไปถึง‘ลุงตู่-หนู‘

เมื่อถามว่าหากน.ส.แพทองธาร ต้องพ้นจากนายกฯมีการมองกันไปถึงว่าจะให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีหรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะมาเป็นนายกฯอาจทำให้พรรคร่วมฯแตกออกไปสนับสนุนมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายประเสริฐ ตอบว่าตนยังไม่เชื่อขนาดนั้น เพราะกลไกของรัฐธรรมนูญเขียนไว้อยู่แล้วว่าหากมีอุบัติเหตุทางการเมืองมันก็มีกระบวนการเลือกนายกฯที่อยู่ในบัญชีอยู่แล้ซึ่งคนที่อยู่ในบัญชีก็ยังมีของพรรคเพื่อไทยอยู่และมีของพรรคอื่นเช่นกันขอย้ำอีกครั้งมั่นใจว่าพรรคร่วมฯยังสนับสนุนอยู่

สภาล่มบ่อยแต่พรรคร่วมยังแน่นปึ้ก

เมื่อถามถึงกรณีที่สภาฯล่มบ่อย จนได้รับฉายาว่าสภาฯเป็นง่อย จะทำให้เป็นปัจจัยเร่งนำไปสู่การยุบสภาเร็วขึ้นหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าการประชุมสภาฯ สส.ต้องไปประชุมคณะกรรมาธิการชุดต่างๆประกอบด้วย หลายครั้งที่องค์ประชุมไม่ครบ ไม่ใช่ว่าสส.หนีไปไหน แต่ติดตามงานในกรรมาธิการชุดต่างๆ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่ององค์ประชุม ต้องเข้าใจเหตุผลว่าทุกคนก็อยู่ แต่บางคนอยู่ในห้องประชุมใหญ่ บางคนอยู่ในห้องเล็ก ยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่น ดูจากการโหวตงบประมาณปี2569 เวลาวาระสำคัญ สส.ซีกรัฐบาลก็พร้อมเพรียงกันดี

เมื่อถามว่าแต่ทางพรรคประชาชนออกมาระบุต้องอาศัยเสียงของพรรคประชาชนด้วยจึงจะผ่านไปได้ นายประเสริฐ กล่าวว่า กฎหมาย หรือญัตติบางเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศโดยรวม เป็นเรื่องที่เห็นพ้องกันก็โหวตด้วยกันหมดอยู่แล้ว ตนคิดว่าทุกคนพร้อม แต่บางเรื่องที่มีความแตกต่างก็ว่ากันไป เป็นเรื่องธรรมดาของความคิดเห็นทางการเมือง

‘เด็จพี่’ฟาดขาประจำคาดผลคดีอิ๊งค์

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่าหลังจากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และรมว.วัฒนธรรม เข้ารับการไต่สวนศาลรัฐธรรมนูญคดีคลิปเสียงวันที่21ส.ค.และศาลอาญายกฟ้องคดีมาตรา 112 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯวันที่ 22 ส.ค.พวกขาประจำ ฝ่ายตรงข้ามไม่หวังดี ยังไม่เลิกพฤติกรรมเดิมๆ โดยเฉพาะพวกไม่หวังดี อินฟลูเอนเซอร์ขาป่วน นักการเมือง นักกฎหมายบางคน ออกมาฟันธง ทำให้ผู้คนในสังคมเห็นว่าคดีของน.ส.แพทองธาร ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินวันที่ 29 ส.ค.จะไม่เป็นผลดีต่อนายกฯและรัฐบาล ใช้อคติชี้นำสังคมมากกว่าข้อเท็จจริง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ยิ่งแล้วใหญ่ ไปปราศรัยคดีวันที่ 29 ส.ค.หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาฝืนความรู้สึก จ้องจะปลุกระดมมวลชนให้ลงถนนมาไล่ศาล ตนมองว่าชักจะไปกันใหญ่แล้ว หาหลักอะไรยึดไม่ได้เลย

ซัดทำตัวศาลเตี้ยเดาผลล่วงหน้า

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พวกนักเคลื่อนไหว ขาประจำทั้งหลาย เรียกร้องนายทักษิณกลับประเทศ ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อท่านกลับมาต่อสู้คดีม.112 คดีพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ยังไม่พอใจ พวกท่านก็บอกเองให้ทุกคนเคารพศาล น้อมรับคำวินิจฉัย แต่นี่ยังไม่ทันอะไร นายทักษิณรอดคดี 112 มาฟันธงล่วงหน้า ฟาดงวงฟาดงาใส่คดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ไม่รอดแน่ คดีน.ส.แพทองธารท่านเข้ารับการไต่สวน ศาลไม่ถ่ายทอดสดเพราะเป็นเรื่องความมั่นคง บางคนมาติติงปลุกระดม ลุกลามว่า จะต้องตัดสินตามความต้องการของตัวเอง มันใช้ไม่ได้ ไปบอกมีดีลลับบ้าง ไปคาดการณ์ผลตัดสินล่วงหน้า ทำตัวเป็นศาลเตี้ย ไปชี้นำสังคมให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาผิดไปแล้ว อย่าปล่อยให้อคติมาครอบงำจิตใจมากนัก คดีของนายกฯ วันที่ 29 ส.ค. ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร พวกนักปราศรัย ฝ่ายแค้นเอาแต่ความสะใจตัวเอง พูดเลยธงไปมาก ระวังมวลชนที่มาร่วมด้วยจะหนีหาย รับไม่ได้กับการไม่มีหลักอะไรเลย เอาแต่ความสะใจอย่างเดียว ต้องการให้ประเทศปั่นป่วนวุ่นวาย ถอยหลัง ไม่เป็นประชาธิปไตย เกิดการปฏิวัติยึดอำนาจอีกครั้ง ถึงจะพอใจใช่หรือไม่

ใจร่มๆ ตั้งสติรอคำวินิจฉัยศาล

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่าหลังมีคำตัดสินคดีของนายทักษิณวันที่ 22ส.ค.หุ้นปิดบวกกว่า8จุด ดัชนีทะยานไปที่ 1253สะท้อนนักลงทุนคลายความกังวลการเมือง ตอบรับในทิศทางบวก ปัญหาชายแดนไทย กัมพูชาสงบลงไปมาก เข้าสู่กระบวนการเจรจา การเดินหน้าแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาปากท้อง พรรคร่วมรัฐบาลมีเสถียรภาพแข็งแกร่ง รัฐบาลเร่งเครื่องเดินหน้าแก้ปัญหาของประชาชนไม่หยุด แต่ยังมีพวกจ้องจะฉุดรั้ง คอยขัดขวาง เล่นการเมืองทั้งในสภา นอกสภา เพื่อสนองความต้องการทางการเมืองของตัวเอง

“คดีที่รอศาลตัดสิน น.ส.แพทองธาร 29 ส.ค. คดีนายทักษิณวันที่ 9 ก.ย.ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ระหว่างนี้ควรรอคำวินิจฉัยของศาลออกมาให้เรียบร้อย สงบปากสงบคำ อย่าร้อนรนเกินไปนัก ไม่อยากให้นักปราศรัยบางคนต้องคดีหมิ่นศาล ข่มขู่ศาล บ้านเมืองมีขื่อมีแป จะให้ทุกคนตอบสนองความสะใจ ความต้องการของตัวเองอย่างเดียวไม่ได้ ระหว่างนี้ทำใจร่มๆ ตั้งสติ อย่าให้ความแค้นส่วนตัวมาเป็นตัวชี้นำ แล้วมารอฟังคำตัดสินอีก 2 สำคัญไปพร้อมกัน”นายพร้อมพงศ์ ย้ำ

‘เทพไท’ชี้ยังมีอีกหลายด่าน

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า”อย่าคิดว่า รอด 1 คดีแล้วจะรอดหมด หลังจากศาลอาญามีคำพิพากษาคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร ให้ยกฟ้อง ทำให้นายทักษิณและกองเชียร์ ผู้สนับสนุนต่างดีอกดีใจ เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องปกติของจำเลย เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้ชนะคดีก็แสดงความดีอกดีใจ ส่วนฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับนายทักษิณ อาจจะรู้สึกผิดหวังซึ่งเป็นเรื่องปกติของการสู้คดีในศาล มีแพ้มีชนะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลขององค์คณะผู้พิพากษาซึ่งทุกฝ่ายจะต้องให้การเคารพ

คดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ของนายทักษิณ แม้ว่าจะชนะคดีในศาลชั้นต้น ยังมีการสู้คดีในศาลอุทธรณ์อีกและเชื่อว่าอัยการสูงสุดคงจะไม่สวนกระแสของสังคมที่อยากให้มีการอุทธรณ์คดีนี้ เพื่อที่จะพิสูจน์ให้ชัดเจนว่า ความผิดของคดีนี้มีข้อยุติอย่างไร และไม่ควรตีโพยตีพาย หรือจินตนาการไปยังอีก2คดีของนายทักษิณ และนางสาวแพทองธาร ชินวัตรว่าจะมีผลของคดีในทำนองเดียวกัน เพราะทั้ง3คดีของ2พ่อลูก มีความแตกต่างกัน ทั้งรูปแบบคดี เนื้อหาคดี ศาลที่พิจารณาคดีทั้ง 3คดีจะสรุปว่าผลจะออกมาในทำนองเดียวกันก็ไม่สามารถสรุปอย่างนั้นได้ และไม่ควรเชื่อกระแสข่าวลือ ทุกฝ่ายควรจะเคารพดุลยพินิจของศาลแต่ละองค์กรที่พิจารณาคดีของนายทักษิณและน.ส.แพทองธาร

ฟันฉับ รอด1คดีแล้วไม่รอด2คดี

“ผมได้วิเคราะห์ทั้ง3คดีมาในเบื้องต้น ซึ่งคดีแรก คือคดีความผิดตามมาตรา 112 ของนายทักษิณ ผมวิเคราะห์ว่าคดีนี้ นายทักษิณน่าจะชนะคดี ในที่สุดผลของคำพิพากษาศาลอาญา ก็ตรงกับคำวิเคราะห์ของผม ส่วนอีก2คดีคือ คดีคลิปเสียงหลุดของ น.ส.แพทองธารซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มีการนัดฟังคำวินิจฉัยวันที่ 29 สิงหาคม ผมได้วิเคราะห์คดีนี้ว่า น.ส.แพทองธารไม่สามารถรอดพ้นจากความผิดไปได้ ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ส่วนคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งในวันที่ 9 กันยายน ซึ่งคดีนี้ผมวิเคราะห์ว่า นายทักษิณยังไม่เคยถูกจำคุกเลยแม้แต่วันเดียว ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อาจมีคำสั่งให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ บังคับโทษคดีของนายทักษิณใหม่

ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนายทักษิณ ให้ไม่ต้องถูกจำคุกในเรือนจำแม้แต่วันเดียว ก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต่อไป อยากจะให้ทุกฝ่ายได้ใช้สติ ใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา และในการเชื่อผลคดีทั้ง3คดี และควรเคารพการทำหน้าที่ของศาลทุกศาล และทั้ง3คดี ผมยังยืนยันในคำวิเคราะห์เดิมของผม คือรอด1คดีและไม่รอด2คดี ตอนนี้รอด1คดีวิเคราะห์ได้ถูกแล้ว ลุ้นกันต่อไปว่าอีก2คดี จะถูกตามคำวิเคราะห์ของผมหรือไม่”นายเทพไท กล่าวทิ้งท้าย

ส.ว. แถลงปิดคดีคลิปเสียง 25 ส.ค.

นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะหนึ่งใน 36 ส.ว.ที่ร่วมกันลงชื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาถอดถอน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จ ฮุน เซน ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นคำแถลงปิดคดีของฝั่ง ส.ว. ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ยืนยันว่ายื่นแน่นอน ส่วนคนที่จะไปยื่นคำแถลงปิดคดี คาดว่าคือ พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ส.ว.

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่านายกฯ ไม่ลาออกก่อนศาลวินิจฉัยแน่นอน นายไชยยงค์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดี เพราะถือว่า น.ส.แพทองธาร ใช้วิธีทางกฎหมายต่อสู้คดีเพื่อหักล้าง และจะทำให้กฎหมายไปได้สุดทาง เราก็เคารพการตัดสินของนายกฯ คิดว่าเป็นวิธีการที่ถูกต้องตามกฏหมาย ดังนั้นเราจะไปพิสูจน์กันที่ปลายทาง ให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย จะได้รู้เรื่องความถูกผิด และไม่มีอะไรค้างคาใจทั้งสองฝ่าย

เมื่อถามว่า นายกฯ ควรเดินทางไปฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองหรือไม่ นายไชยยงค์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าวิถีทางและอุปนิสัยของนายกฯ ถ้าเดินมาถึงขนาดนี้ เขาจะไปฟังด้วยตนเอง

เมื่อถามว่า ทาง ส.ว.ได้พูดคุยกันหรือไม่ว่า ทิศทางในวันที่ 29 ส.ค.นี้จะเป็นอย่างไร นายไชยยงค์ กล่าวว่า ตอนนี้เราไม่มีอะไรต้องวางแผน เพราะเป็นกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ เราพร้อมยอมรับคำวินิจฉัย ไม่ว่าจะออกมาแบบไหน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top