กองอวยเริ่มนับ 1!‘สุชาติ’มั่นใจผลงานโควิดยุค‘อนุทิน’ ประสบการณ์เพียบ-เหมาะสมสุดนั่ง‘นายกฯ’เอาอยู่ ยันเป็น‘เอกสิทธิ์’จิ้มเลือกใคร ลั่นหมดเวลา‘แพทองธาร’ไปตั้งแต่ศาลฯสั่งพ้นตำแหน่ง ปัดคุยโควตารมต. ขอมองข้ามไม้เบื่อไม้เมา‘ปชน.’ ต้องเดินหน้าประเทศ ไร้อาฆาต เป็นเพื่อนสมาชิกด้วยกัน
3 กันยายน 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย(ภท.) นายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวถึงการเซ็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชนว่า กลุ่มของตนจากพรรครวมไทยสร้างชาติมีจำนวน 16 คน รวมทั้งพรรคร่วมที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาล และสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้พรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรี จึงนัดหารือกัน และทานข้าวร่วมกันที่พรรคภูมิใจไทย หลังจากนี้จะกลับไปทำหน้าที่สส.ในสภาฯต่อ
ส่วนการขับเคลื่อนการบริหารประเทศในช่วงระยะเวลา 4 เดือนนั้น ตนเชื่อมั่นว่า ก่อนที่นายอนุทินจะมีการเซ็นข้อตกลง ต้องมีการพูดคุย และตกผลึกกันแล้วว่า 4 เดือนนี้จะเดินหน้าเรื่องอะไรก่อน ส่วนพวกตนใช้เอกสิทธิ์ในฐานะสส. ในการสนับสนุนนายอนุทิน ให้ได้รับการโหวตเห็นชอบจากสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี และขั้นตอนต่อไปต้องรับฟังหัวหน้ารัฐบาลคนใหม่
“กลุ่มของผมเองที่มาร่วมรัฐบาลจำนวน 16 คน มาตั้งแต่วันแรก ที่จะสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นเอกสิทธิ์ของพวกผม ไม่ได้มาเพื่อประโยชน์อื่นสิ่งใด แต่มาเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้อย่างสวยงาม” นายสุชาติกล่าว
เมื่อถามถึงการยุบสภา นายสุชาติ กล่าวว่า ตนติดตามตลอด ตั้งแต่ขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ และเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีหนังสือเวียน จึงไม่ขอก้าวล่วง เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องข้อกฎหมาย แต่ต้องฟังคนที่มีความรู้ด้านกฎหมาย พร้อมทั้งเชื่อว่า ที่กฤษฎีกามีการตีความมาได้ถกเถียงด้วยเหตุและผลแล้ว
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการจัดสรรโควตารัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดถึงขั้นตอนนั้น มีเพียงการพูดคุยเรื่องน.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เราได้หารือกันมาโดยตลอดว่า เราจะเดินทางไหน ถ้าไม่มีเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญเป็นตัวตัดสิน เราก็ยังอยู่ที่เดิม และทำงานในตำแหน่งเดิม แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นเอกสิทธิ์ของพวกเราที่ต้องตัดสินใจ ดังนั้นเอกสิทธิ์ที่ใช้เลือกน.ส.แพทองธาร หมดไปแล้วตั้งแต่วันที่น.ส.แพทองธารถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่ง และวันนี้เป็นเอกสิทธิ์ครั้งต่อไปที่ตนจะเลือกใช้
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาสส.พรรคประชาชน บางคนเป็นไม้เบื่อไม้เมากันจะทำงานอย่างไร นายสุชาติ เชื่อว่า ทุกคนจะมองข้ามเพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้ เพราะเราเองในทางการเมือง นักการเมืองมีการกระทบกระทั่งกันมาตลอด แต่ก็อยู่บนพื้นฐานความจริงและความถูกต้อง เราเจอเราก็ทักทายกัน ไม่มีความอาฆาต เพราะเป็นเพื่อนสมาชิกด้วยกัน มีสิทธิ์ที่จะถกเถียงกัน
นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า วันนี้ประเทศไทยเรื่องของความมั่นคง เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องภาษีสหรัฐอเมริกา รวมถึงความมั่นคงชายแดน ซึ่งหากเลือกนายกรัฐมนตรีที่ทำให้การแก้ปัญหาเดินต่อไปไม่ได้ ตนก็รู้สึกผิด ซึ่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมือง และต้องมีวิสัยทัศน์เป็นที่ยอมรับของประชาชน ที่สำคัญที่สุดคือต้องแข็งแรงมีความเพียบพร้อมของการเป็นนักการเมือง ถ้าหากไม่มีนายกรัฐมนตรีไม่มี ความเป็นนักการเมืองเลย ก็จะไม่เข้าใจงานในสภาหรือความต้องการของสส. แต่หากเป็นนักธุรกิจอย่างเดียว ก็จะรู้แค่เรื่องธุรกิจ เราต้องรับฟังเสียงสะท้อนจากข้างล่าง แต่หากนายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งเป็นทั้งสส. เป็นรองนายกรัฐมนตรี และตนเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่ปี2562 ที่ตนเป็นรมว.แรงงาน จึงเชื่อว่าวิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาโควิด -19 ที่ผ่านมา ยังแก้มาด้วยกันได้
“จึงเหมาะสมที่สุดในสถานการณ์นี้ เพราะถือเป็นคนที่มีประสบการณ์ และผ่านการแก้ปัญหาโควิด-19 แต่หากคนที่มาไม่เคยเจออุปสรรค และไม่เคยแก้ไขปัญหา มาแก้ผิดแก้ถูก ลูกหลานข้างหน้าจะทำอย่างไร ยืนยันว่า ผมไม่ได้ว่าใครดีไม่ดีแต่หากมีตัวเลือกให้ 1 กับ 2 ตัวเลือก จะขอใช้เอกสิทธิ์ตนเอง” นายสุชาติ ระบุ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี