รฟท.ร้องดีเอสไอ
เอาผิดรุกที่‘เขากระโดง’
ฟันกลุ่มบุคคล-จนท.รัฐ
“ฝ่ายกฎหมายร.ฟ.ท.” เข้าพบดีเอสไอ ร้องทุกข์เอาผิด “กลุ่มบุคคล-จนท.รัฐ” ยึดที่เขากระโดงบุรีรัมย์ ยืนยันกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของ รฟท. ลั่น รักษาผลประโยชน์แผ่นดิน ด้านผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติฯระบุว่าต้นสัปดาห์หน้า จะเริ่มกระบวนการพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ซึ่งจะชัดเจนในอีก 1-2 สัปดาห์
จากกรณี พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการสืบสวนเรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐและเกี่ยวข้องกับกลุ่มคณะบุคคลหลายฝ่าย เป็นเรื่องสืบสวนที่ 97/2568 พร้อมให้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวบรวมและตรวจสอบพยานหลักฐาน ประสานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แขวงการทางรถไฟลำปลายมาศ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่บุรีรัมย์ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์
ต่อมา การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายเป็นผู้รับมอบอำนาจเตรียมเข้าดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย. เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจะเข้ามอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งความประสงค์ดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ แต่ได้แจ้งเลื่อนไร้กำหนด ก่อนประสานเข้าพบเจ้าหน้าที่ดีเอสไออีกครั้งในวันที่ 5 ก.ย. นั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 5 ก.ย. 2568 ฝ่ายกฎหมายของ รฟท. หรือเจ้าหน้าที่สำนักงานอาณาบาล รฟท. รวม 3 ราย ได้เดินทางมาที่ กองคดีทรัพยากรธรรมชาติฯ ศูนย์ราชการฯ อาคารบี ชั้น 8 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถามขอสัมภาษณ์ประเด็นการร้องทุกข์กล่าวโทษคณะบุคคลที่เข้ายึด รุก ครอบครอง ที่ดินเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แต่เจ้าหน้าที่อาณาบาล รฟท. ตอบสั้น ๆ ว่า วันนี้มาตามหนังสือเชิญของดีเอสไอ ก่อนรีบเดินออกจากวงสัมภาษณ์ตรงไปยังห้องกองคดีทรัพยากรธรรมชาติฯ และเมื่อถามต่อว่า ก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่า รฟท. ต้องมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ก.ย. เจ้าหน้าที่อาณาบาล รฟท. ตอบว่า ตามหนังสือคือเชิญมาวันนี้ ไม่มีการเลื่อน ส่วนวันนี้จะมีการร้องทุกข์ใครบ้าง อาจต้องขอดูก่อน
ต่อมาเวลา 14.35 น. เจ้าหน้าที่อาณาบาล สำนักงานอาณาบาล รฟท. ให้สัมภาษณ์หลังเข้าให้ข้อมูล รวมถึงการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเป็นเวลาประมาณ 1 ชม. ก็ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนเพียงสั้น ๆ ว่า วันนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยมาตามนัดหมาย ตามหนังสือเชิญของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนการร้องทุกข์กล่าวโทษและฐานความผิดนั้น เรื่องฐานความผิดคงเป็นเรื่องของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนมา ทางเราเพียงแต่มาให้ถ้อยคำในส่วนที่เกี่ยวข้องของการรถไฟฯ ซึ่งเรายืนยันในเรื่องของกรรมสิทธิ์ที่ดินตามคำพิพากษาศาลฎีกา และคำพิพากษาศาลปกครองทุกส่วน ก็ยืนยันสิทธิหน้าที่ของการรถไฟ ส่วนเรื่องของผู้เกี่ยวข้องก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษที่จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีกลุ่มบุคคลร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการครอบครองยึดถือที่ดินนั้น เจ้าหน้าที่อาณาบาล ระบุว่า คงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ส่วนให้ข้อมูลอย่างไรและเจอกี่คนนั้น อันนี้ให้เป็นเรื่องของสำนวน ทางการรถไฟฯ แค่มายืนยันกรรมสิทธิ์ในส่วนของการรถไฟและการได้มา ส่วนกรรมสิทธิ์ดังกล่าวเป็นเรื่องของช่วงปีใดนั้น ก็ตั้งแต่ในหลวงท่านพระราชทานให้เป็นที่ดินของการรถไฟ
ถามว่า รฟท. ทราบว่ามีกลุ่มคนบุกรุกที่ดินเขากระโดงของทางการรถไฟตั้งแต่เมื่อไรนั้น เจ้าหน้าที่อาณาบาล ระบุว่า หากเป็นเรื่องรายละเอียดขอให้ไปสอบถามกับกรมสอบสวนคดีพิเศษแทน ส่วนเหตุใดจึงเพิ่งเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีในตอนนี้ ต้องเรียนว่าเราดำเนินการมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มแรก เพียงแต่ไม่ได้เป็นข่าว สิ่งที่เราดำเนินการคือขับไล่
เมื่อถามว่า กรณีว่ามีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟไปเกี่ยวข้องอย่างไร หรือไปเซ็นรับรองว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่ของการรถไฟฯ จนสามารถออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินได้นั้น เจ้าหน้าที่อาณาบาล ระบุว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนแทน ซึ่งทราบว่าในสำนวนมีรายชื่อของเจ้าหน้าที่ที่เซ็นรับรองไว้อยู่แล้ว และตนต้องขออนุญาตให้รายละเอียดอยู่ในสำนวนของพนักงานสอบสวน
ต่อข้อถามว่าพื้นที่ดังกล่าวมีตระกูลดังรวมอยู่ด้วย แต่ทางนั้นก็ยืนยันว่าได้เอกสารโฉนดมาโดยชอบ และผ่านเวลามาเนิ่นนานแล้ว รวมทั้งเมื่อสอบถามว่าเรื่องกรรมสิทธิ์การครอบครองที่ดิน มีการออกโฉนดทับที่การรถไฟ ได้มีการตรวจสอบอย่างไรบ้าง และเมื่อถามว่าในพื้นที่เขากระโดงก็มีการตั้งอยู่ของ 12 หน่วยงานราชการ สรุปแล้วเป็นที่ดินราชพัสดุหรืออย่างไร ปรากฏว่าทุกคำถามที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนั้น เจ้าหน้าที่อาณาบาล ได้ขออนุญาตยุติการให้สัมภาษณ์ และกล่าวขอบคุณสื่อมวลชน
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่อาณาบาล ดูเรื่องกฎหมาย พอจะให้ข้อมูลสังคมได้หรือไม่ เพราะมันจะต้องรักษาสิทธิประโยชน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาณาบาล ได้ตอบสั้น ๆ ว่า “ดูแลอยู่ครับ ดูแลกับดีเอสไอ ขอให้ดีเอสไอดำเนินการตามกฎหมาย” ก่อนยกมือไหว้ขอบคุณสื่อมวลชนและเข้าลิฟต์ลงจากอาคาร
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาณาบาล รฟท. ได้ประสงค์ขอให้ดีเอสไอดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มบุคคลที่ได้มีการบุกรุก ยึดถือ ครอบครองที่ดินบริเวณเขากระโดงทั้งหมด 4,414 ไร่ รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ตามประมวลกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องต่อไป
ก่อนหน้านี้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเรื่องการครอบครองพื้นที่เขากระโดง พบว่ามีการออกโฉนดโดยมิชอบที่อยู่ในบัญชีท้ายของ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ที่มีตอนนี้เกินกว่า 50 ไร่ เบื้องต้นพบจำนวน 4 ราย โดยมีทั้งบุคคลในพื้นที่และบุคคลอื่น รวมถึงตระกูลดั้งเดิมในพื้นที่ ก็จะนำมาประกอบข้อมูลอื่นด้วยเช่นกัน เพื่อพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ
“ถึงแม้ว่าจะมีผู้มีอิทธิพลครอบครองที่ดินในพื้นที่นี้ด้วย ก็ยืนยันว่าไม่กดดันในการทำคดี เพราะเราผิดชอบคดีใหญ่อยู่แล้ว และเป็นคดีที่มีความสลับซับซ้อน เป็นคดีที่มีผู้มีอิทธิพล หรือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ กองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ทำคดีเหล่านี้มาโดยตลอด จึงไม่มีความกดดันแต่อย่างใด เราทำไปตามกรอบอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีผู้มีอำนาจมากดดันอะไร” พ.ต.ต.ณฐพล กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข้อกังวลว่าหากรัฐบาลมีการเปลี่ยนขั้วการเมือง ดีเอสไอจะยังสามารถดำเนินการทำคดีนี้ต่อไปได้ หรือจะต้องถูกเบรกก่อนหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ณฐพล ระบุ ว่าเมื่อเรารับทุกคดี เราก็ต้องเดินหน้าทำตามกรอบหน้าที่ มันก็อยู่ที่ขั้นตอนและพยานหลักฐานที่เรามี ก็ต้องดำเนินการไปตามปกติ ซึ่งคาดว่ากรอบระยะเวลาที่จะมีการประมวลเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชารับเป็นคดีพิเศษนั้น หากทางการรถไฟแห่งประเทศไทยมีการให้ข้อมูลครบถ้วน และไม่มีการให้ดีเอสไอดำเนินการอะไรเพิ่มเติม ราวสองสัปดาห์หลังจากนี้ จะสามารถขออธิบดีดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษได้”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี