‘หนู’ต่อยอดโครงการ‘บิกตู่’ ฟื้น‘คนละครึ่ง’ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ

‘หนู’ต่อยอดโครงการ‘บิกตู่’ ฟื้น‘คนละครึ่ง’ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ

วันอาทิตย์ ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

‘หนู’ต่อยอดโครงการ‘บิกตู่’
ฟื้น‘คนละครึ่ง’
พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ
หลังแถลงนโยบายจบ
พ่อค้าแม่ค้าเฮ!ขานรับ
เชื่อทุกฝ่ายได้ประโยชน์

พ่อค้าแม่ค้าลูกค้าเตรียมเฮ! “ภูมิใจไทย” เผยเตรียมปัดฝุ่น “โครงการคนละครึ่ง” ใหม่ ยันเริ่มขับเคลื่อนทันทีหลังแถลงนโยบาย แก้ไข ปัญหาเศรษฐกิจ สานต่อยอดโครงการดีๆ ในอดีต ปัดปูทางประโยชน์ทางการเมือง

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 เวลา 11.05 น.ที่พรรคภูมิใจไทย(ภท.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ในกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กำลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบคนละครึ่งเวอร์ชั่นใหม่ว่า ภายในคณะกรรมการบริหารพรรคและทีมเศรษฐกิจได้มีการหารือถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นหลายแนวทาง ซึ่งโครงการคนละครึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกหยิบยกขึ้นมา แต่หากจะนำกลับมาใช้อีกครั้งก็อาจมีการปรับปรุงรูปแบบให้แตกต่างจากเดิม เช่น การเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ประชาชนมากขึ้น


“พรรคมีแนวคิดที่จะหยิบโครงการที่เคยประสบความสำเร็จในอดีต มาต่อยอดและแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในแต่ละยุค เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด พร้อมยืนยันว่าหากรัฐบาลเดินหน้านโยบายนี้จริง จะเป็นการทำงานต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างระบบใหม่ แต่จะเลือกใช้ระบบของรัฐที่มีอยู่แล้วและพร้อมใช้งานทันที” รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว

เมื่อถามว่ามองว่าการนำโครงการคนละครึ่งมาขับเคลื่อนเพราะมองว่าได้ผลดีกว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า หากพิจารณากระแสตอบรับในสังคมและบนสื่อออนไลน์ จะเห็นได้ว่าคนละครึ่งยังได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวาง และเงินที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจก็สามารถหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับกรอบเวลาในการดำเนินงาน นายสิริพงศ์ กล่าวว่า หากมีการแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการ นายอนุทิน จะสั่งการให้เริ่มขับเคลื่อนทันที โดยคาดว่าโครงการจะสามารถเริ่มต้นได้ภายในเดือนแรกหลังการแถลงนโยบาย ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีเวลาทำงานเพียง 4 เดือน ทุกมาตรการจึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนที่สุด ในส่วนของงบประมาณ ยังไม่ได้มีการกำหนดตัวเลขที่ชัดเจน เพราะขณะนี้เป็นเพียงการพูดคุยเชิงหลักการ ส่วนรายละเอียดด้านการเงินต้องรอการพิจารณาเพิ่มเติมจากรัฐบาล

เมื่อถามว่าการผลักดันโครงการดังกล่าวเป็นการปูทางไปสู่การหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า จุดประสงค์หลักคือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ทางการเมือง

นายสรเทพ โรจน์พจนารัช สตีฟ ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและที่ปรึกษากิติมศักดิ์ สมาคมโฮสเทลประเทศไทย กล่าวว่า จากที่ผ่านมาทางชมรมได้เรียกร้องรัฐบาลชุดก่อนหน้ามาโดยตลอด 2 ปี ให้เร่งออกมาตราการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ โดยเฉพาะ ให้ช่วยทำโครงการคนละครึ่งแต่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ

จน ณ วันนี้เศรษฐกิจรากหญ้าแย่กันหมดแล้ว ดังนั้นตนมองว่าโครงการคนละครึ่งจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้เกือบทั้งระบบ ทั้งพ่อค้าแม่ขายร้านระดับล่างข้างทางไปจนถึงร้านระดับ SMEs ที่สำคัญยังช่วยลดค่าใช้จ่ายอาหารให้กับพนักงานที่ทำงานออฟฟิศและบุคคลทั่วไปที่ทำงานเงินเดือนไม่สูงด้วย

นายสรเทพ กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งจะสามารถเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็กและข้างทางได้อย่างน้อย 1.8 – 2.5 เท่าจากครั้งที่แล้วที่เคยออกมา และยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันของประชาชนทั่วไปได้อย่างน้อย 15-20% และยังกระจายไปสู่ห่วงโซ่ซัพพลายที่มาต่อธุรกิจร้านอาหารอีกทางด้วยไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ขายในตลาดสดจนไปถึงภาคเกษตกร

นายสรเทพ กล่าวว่า หวังว่า นายกรัฐมนตรีท่านใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะเร่งทำในทันทีหลังจากเข้ารับตำแหน่ง เพราะตนคิดว่า นายอนุทิน ทราบดีอยู่แล้วว่าโครงการคนละครึ่งจะช่วยเหลือธุรกิจรากหญ้าได้เป็นอย่างดีจากการที่ท่านเคยร่วมอยู่ในรัฐบาลที่เคยทำและอนุมัติโครงการนี้มาก่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top