กรมคุกแจงประกาศเขตเรือนจำ
ไม่ได้เอื้อ‘ทักษิณ’
แค่เฉือนพื้นที่รพ.ราชทัณฑ์
ส่งกลับคืนให้กับคลองเปรม
รองรับผู้ต้องขังที่เพิ่มมากขึ้น
สมุน‘เทวดา’วอนอย่าจองเวร
ราชทัณฑ์ แจงปมกำหนดอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรมใหม่เนื่องจาก รพ.ราชทัณฑ์หมดความจำเป็นใช้พื้นที่รักษาผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 แล้ว และจำนวนผู้ต้องขังเพิ่มสูงขึ้นจนแออัดจึงต้องขอคืนให้คลองเปรม ย้ำ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ผู้ใด
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2568 กรมราชทัณฑ์ได้ออกเอกสารข่าวชี้ แจง ว่าตามประกาศกระทรวงยุติธรรม เรื่อง กำหนดอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งพื้นที่เดิม มีเนื้อที่118 ไร่1งาน 1 ตารางวา เป็นเนื้อที่ 124 ไร่1 งาน 1 ตารางวา โดยมีอาณาเขตเพิ่มจำนวน 6 ไร่ 1 งาน นั้น กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่า อาณาเขตของเรือนจำกลางคลองเปรมที่เพิ่มนั้น เดิมเป็นอาณาเขตพื้นที่เดิมของเรือนจำกลางคลองเปรม แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมา จึงได้กำหนดอาณาเขตดังกล่าวให้อยู่ในการครอบครองดูแลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตามนัย หนังสือกรมราชทัณฑ์ ที่ ยธ 0702.3 / 15585 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2565 เรื่อง การกำหนดอาณาเขตเรือนจำกลาง คลองเปรมและทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ (ใหม่) เพื่อให้สามารถจัดการสถานการณ์ขณะนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ปัจจุบันเรือนจำกลางคลองเปรมมีผู้ต้องขังจำนวนมาก มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ ประกอบกับมีผู้ต้องขังพิการ จำนวน 42 คน ผู้ต้องขังที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 385 คน ผู้ต้องขังที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงจำนวน 22 คน อีกทั้งยังเป็นเรือนจำรับย้ายผู้ต้องขังที่มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจจากเรือนจำ/ทัณฑสถานอื่น เรือนจำกลางคลองเปรมจึงมีแนวโน้มที่จำนวนผู้ต้องขังเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สภาพความเป็นอยู่เกิดความแออัด ประกอบกับทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์หมดความจำเป็นในการใช้พื้นที่ดังกล่าวในการรักษาผู้ป่วยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทั้งการควบคุมและการพัฒนาพฤตินิสัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมราชทัณฑ์ จึงเสนอกระทรวงยุติธรรมพิจารณาปรับเพิ่มอาณาเขตของเรือนจำกลางคลองเปรมใหม่ โดยคืนพื้นที่ที่ไปอยู่ในการครอบครองดูแลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ให้กลับมาอยู่ในการครอบครองดูแลของเรือนจำกลางคลองเปรมตามเดิม
โดยประกาศกระทรวงยุติธรรมเรื่องกำหนดอาณาเขตของเรือนจำแต่ละแห่ง มีการดำเนินการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถาน การณ์ของการบริหารจัดการเรือนจำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีงบประมาณ 2567 มีการประกาศกำหนดอาณาเขตของเรือนจำ จำนวน 16 แห่ง เช่น เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง สังกัดเรือนจำกลางเชียงราย เรือนจำกลางเพชรบุรี และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ในปีงบประมาณ 2568 ถึงปัจจุบัน มีการประกาศกำหนดอาณาเขตของเรือนจำ จำนวน 7 แห่ง เช่น เรือนจำชั่วคราว เขาสมอแคลง สังกัดเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เรือนจำพิเศษพัทยา และเรือนจำกลางคลองเปรม เป็นต้น
กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่า การกำหนดอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรมใหม่ เป็นการคืนพื้นที่ให้กลับมาอยู่ภายใต้การครอบครองดูแลของเรือนจำกลางคลองเปรมตามเดิม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมผู้ต้องราชทัณฑ์ ที่มีจำนวนมากให้เป็นไปตามผลการจำแนกลักษณะและให้การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องขณะอยู่ในเรือนจำให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างเหมาะสมต่อไป
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 กันยายน ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่ 5 ของจำคุกของ นายทักษิณ กลุ่มมวลชนเสื้อแดงมาร่วมกันชุมนุมให้กำลังใจบนทางเท้าบริเวณดังกล่าว เดินทางมาจากทุกเขตทั่วกรุงเทพมหานคร และ จ.ปทุมธานี ประมาณ 50 คน มีการจัดกิจกรรมนำรถขยายเสียงติดป้ายข้อความ ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯคนที่ 23 ทำเพื่อประชาชน มาให้กำลังใจร้องเพลงบริเวณดังกล่าว เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. และจัดกิจกรรมจริงจังทุกวันเสาร์เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนเป็นต้นไป เพื่อชูป้ายให้กำลังใจเชิญชูคุณงามความดีที่อดีตนายกรัฐมนตรีทำให้ประเทศชาติที่ผ่านมา
ด้าน โด่ง อรรถชัย อนันตเมฆ อดีตดารานักแสดงชื่อดัง เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาในวันนี้ต้องการมาให้กำลังใจคุณทักษิณ ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และสร้างนโยบายที่ช่วยเหลือประชาชนคนไทย อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ตนเองเพิ่งได้ไปใช้บริการนโยบายดังกล่าว ส่วนตัวมองว่าคุณทักษิณทำให้อะไรให้ประชาชนและประเทศไทยมาค่อนข้างเยอะมาก อยากให้มีการพิจารณารื้อคดีมาตัดสินใหม่ ไม่คิดว่าคนดีๆ ต้องมาเจออะไรแบบนี้
ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคนบางกลุ่มฝ่ายแค้นหน้าเดิมๆ นำมวลชนไปกดดัน และหวังผลทางการเมือง ตามราวีอดีตนายกฯทักษิณไม่เลิก โดยไม่สนกระแสสังคม ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายหรือไม่ และได้ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ คัดค้านการพิจารณาให้นายทักษิณ ชินวัตร ได้รับสิทธิพักโทษ กักขังนอกเรือนจำว่า การพิจารณาว่านายทักษิณ จะได้รับการพักโทษหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ถ้าเข้าหลักเกณฑ์เงื่อนไข ถือเป็นสิทธิของท่าน เหมือนกับผู้ถูกคุมขังคนอื่นๆ ไม่มีใครไปบังคับกรมราชทัณฑ์หรือไปสั่งให้เอื้ออำนวยประโยชน์ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ ในวันนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่มีรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ไม่มีใครไปแทรกแซงได้ กระบวนการพิจารณายังไม่ออกมา อย่าเอาความแค้นส่วนตัวมาเล่นงานเฉพาะบุคคล เพราะยังมีผู้ถูกคุมขังคนอื่นๆ ที่เขาเข้าเกณฑ์ดังกล่าว อาจได้รับผลกระทบตามไปด้วย พวกฝ่ายแค้นอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ เดาล่วงหน้า นายทักษิณ ถูกบังคับโทษ1ปีตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว ถือว่าท่านมีความเป็นสุภาพบุรุษ นักสู้ แม้จะมีโอกาส ไม่เดินทางกลับมา แต่ท่านเลือกที่จะกลับมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้หมดข้อครหา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี