'บวรศักดิ์'กางไทม์ไลน์'การเมืองไทย'
เลือกตั้ง29มี.ค.69
พร้อมให้ทำประชามติ
มติสภาถกแก้ไขรธน.
รับร่างฉบับ‘ปชน.-ภท.’
ตีตกฉบับของเพื่อไทย
“บวรศักดิ์”เปิดไทม์ไลน์ทำประชามติ รธน.ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม วาง 2 แนวทาง กรณีทำประชามติโดยใช้กฎหมายประชามติฉบับปัจจุบัน-การทำประชามติโดยใช้กฎหมายที่รัฐสภาได้นำทูลเกล้าฯ ไปแล้ว เผย31 มกราคม 2569 ยุบสภาฯ-เลือกตั้ง 29 มีนาคม 2569 “ชวน” แนะร่าง รธน.เน้นความสำคัญที่‘คน-ผู้ใช้’ปลุกประชาชนตื่นตัวรณรงค์”เลือกตั้งสุจริต”ตั้งแต่วันนี้ ปูทางสู่ได้องค์กรดี พัฒนาบ้านเมืองได้ไกล ชี้ที่ปัญหาเพราะผู้ใช้ไม่เคารพ ทำให้รธน.สะดุดหกล้ม ยันกม.ที่ดีต้องไปกับคนที่ดี จึงจะพัฒนาประเทศได้ มติรัฐสภาฉลุยร่างแก้รธน.’ภท.-ปชน.’เทร่าง’เพื่อไทย’เหตุ’สว.สีน้ำเงิน’ไม่เอา ตั้ง กมธ.43คนพิจารณาต่อไป
เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 15ตุลาคม2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันรัฐสภา มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่..พ.ศ.…3ฉบับของพรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 เพิ่มหมวด15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นวันที่ 2 ก่อนลงมติในวาระรับหลักการ
พท.โวนักสู้ตัวจริงเพื่อรัฐธรรมนูญ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า ไม่มีรัฐธรรมนูญใดศักดิ์สิทธิ์ถ้าไม่ได้เขียนด้วยหัวใจของประชาชน พรรคเพื่อไทยเสนอแนวทางที่จับต้องได้จริงเพื่อให้การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นของประชาชนจริงๆ คือ 1.จัดตั้งสภาพลเมือง เวทีของประชาชนที่หลากหลาย เลือกจากทุกเพศ ทุกวัย ทุกภูมิภาคให้เป็นภาพจำลองของประเทศไทย 2.สร้างคณะผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ข้อมูลเป็นกลาง ถูกต้อง ไม่บิดเบือนให้ประชาชนทุกคนเข้าใจข้อดีข้อเสียของแต่ละแนวทางเพราะรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องของการชนะแต่คือเรื่องของความเข้าใจร่วม 3.แต่งตั้งประธานที่เป็นกลางเพื่อคุมกระบวนการให้โปร่งใส ไม่เอนเอียง กรรมการที่ไม่มีทีม ทำหน้าที่เหมือนหัวหน้าห้องที่ไม่ลำเอียง
4.ฝ่ายเลขานุการ ทีมงานที่คอยสนับสนุนการดำเนินการทุกขั้นตอนตั้งแต่ติดต่อประสานงานไปจนถึงการจัดทำรายงานสรุป 5.เปิดพื้นที่เรียนรู้ทั่วประเทศ สร้างเว็บกลาง เปิดช่องยูทูบ จัดพอดแคสต์สรุปสาระรัฐธรรมนูญ แจกแผ่นพับฯลฯประเทศที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้เกิดจากรัฐบาลที่เก่งที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการที่ประชาชนกล้าออกเสียงและมีส่วนร่วม รัฐธรรมนูญจึงต้องยึดโยงประชาชนให้มากที่สุด
‘ชวน’ชี้รธน.ปี21ใช้นานกว่าฉบับอื่น
ด้าน นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายว่า ในฐานะที่ตนเป็นผู้ใช้รัฐธรรมนูญมากกว่าหลายเท่าในที่ประชุมได้ใช้รัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี2511 สมาชิกห้องนี้ส่วนใหญ่น่าจะยังไม่เกิด และเพื่อนร่วมรุ่นในรัฐธรรมนูญฉบับนั้นก็คงไม่มีแล้วในห้องนี้ รัฐธรรมนูญฉบับนั้น เป็นฉบับที่ใช้เวลาร่างอยู่ 10ปี แต่ใช้ได้เพียง2ปี9เดือนก็มีอันเป็นไป ต่อมาก่อให้เกิดเหตุการณ์14ต.ค.2516 ซึ่งทั้งหมดก็เกิดขึ้นจาก 2ปี9เดือน ที่ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนั้น ทำให้ประชาชนได้เปิดหูเปิดตา สื่อมวลชน นักศึกษา รู้ว่าความเป็นประชาธิปไตย ทำให้เขาได้รู้ความเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไม่มากก็น้อย จากนั้นเรามีรัฐธรรมนูญปี2517ถือเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุดฉบับหนึ่ง แต่ว่าใช้ได้ 2ปี ก็เกิดเหตุการณ์ 6ต.ค.2519 ในที่สุดรัฐธรรมนูญฉบับนั้นก็ล้มไป ต่อมา เป็นรัฐธรรมนูญปี2521 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ตนได้เป็น สส.ครั้งที่3 แต่น่าแปลกว่า ฉบับนี้อยู่ได้นานกว่าฉบับอื่น ซึ่งมีคำตอบอยู่ในตัว
“จากประสบการณ์ที่ได้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวเหล่านี้มามาก ทำให้ผมได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตัวเองว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่เราจะเขียนให้ดีอย่างไรก็ตาม แต่เวลาปฏิบัติอาจเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อนสมาชิกในห้องนี้คงทราบดี ผมหวังผลว่า ประชาชนซึ่งไม่มีโอกาสได้ติดตามใกล้ชิด อาจมีข้อกังวลว่าทำไมมาสนใจเรื่องนี้ ทำไมไม่พูดเรื่องปากท้องก่อน จึงอยากจะเรียนว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นหลักของบ้านเมือง เป็นหลักที่จะบอกให้เรารู้ว่า อำนาจแต่ละฝ่ายมีมากน้อยเพียงใด เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการละเมิดอำนาจที่กำหนดไว้บ้านเมืองจะมีปัญหา จึงเน้นย้ำเรื่องนี้ว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญ คือโครงสร้างที่แท้จริงที่จะให้รู้ว่า ขอบเขตอำนาจแต่ละฝ่ายมีเพียงใด” นายชวน กล่าว
มีปัญหาเพราะผู้ใช้ไม่เคารพกม.
นายชวน กล่าวอีกว่า สำหรับรัฐธรรมนูญปัจจุบันฉบับปราบโกง ตนเห็นด้วยกับสมาชิกว่าจริงๆแล้วโกงก็ปราบรัฐธรรมนูญ ขยับไปตรงไหนก็มีปัญหาทุจริตโกงกินทุกหย่อมหญ้า บ่อนการพนันกระจายไปทั่วประเทศเพื่อหาเงินส่งส่วยให้นักการเมือง เพราะเกิดจากคุณภาพ ถ้าเรากลั่นกรองคนที่จะเข้ามาสู่ในกระบวนการประชาธิปไตยในฝ่ายไหนก็ตาม รวมถึงฝ่ายนิติบัญญัติของพวกเราได้ คนที่มีความสุจริต เที่ยงตรง ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันก็อาจจะเกิดขึ้นน้อย ตนจึงรณรงค์ให้ทำเรื่องนี้ แต่ปัญหานี้ก็มีองค์กรที่ดูแล และสมาชิกก็อภิปรายวิจารณ์องค์กรที่ตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างรุนแรง ทั้งหมดที่พูดไปก็เป็นความจริง
กม.ที่ดีต้องเดินควบคู่ไปกับคนที่ดึ
“ผมเชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่เราจะแก้ในอนาคต ถ้าเรามองข้ามความสำคัญของผู้ใช้รัฐธรรมนูญเราจะผิดพลาดและจะมีปัญหา ผมจึงคิดว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญที่ดีที่เราจะมีต่อไปในอนาคตกับคนที่ดีต้องไปด้วยกัน ผมพูดในฐานะที่เห็นรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ใช้มาตั้งแต่ปี2511 ทั้งหมดที่เราเขียนมาดีแล้ว แต่ทำไมถึงยังมีปัญหาคำตอบคือ ผู้ใช้รัฐธรรมนูญ เราต้องคำนึงว่ากฎหมายที่ดีกับคนที่ดีนั้นจะต้องไปด้วยกันตลอดเวลา ที่เรามีปัญหาสะดุดหลายครั้ง หกล้มหลายครั้ง เพราะผู้ใช้กฎหมายของเราไม่เคารพกฎเกณฑ์กติกาเลือกปฏิบัติ ทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยก อย่างที่ไม่เคยเกิด ขอให้เราให้ความสำคัญกับเรื่องของคน ซึ่งจะมาทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบัญญัติก็เป็นผู้จัดตั้งฝ่ายบริหารถ้าองค์กรเหล่านี้มาจากเส้นทางที่ดีตลอดทางแต่ต้น เราจะได้องค์กรที่ดี และพัฒนาบ้านเมืองได้ไกล ตามที่ประชาชนทั้งประเทศของเรา ซึ่งเป็นเจ้าของอธิปไตยอย่างแท้จริงคาดหวังไว้” นายชวน กล่าว
‘สุทิน’หวั่นไว้ใจพรรคที่ไม่อยากแก้
นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายสรุปในส่วนร่างฯพรรคเพื่อไทย ว่า ส่วนตัวเบื่อที่สุดเรื่องการเขียนรัฐธรรมนูญ แต่การแก้ปัญหาปากท้องประชาชนก็ต้องเริ่มจากสร้างระบบที่ดี รัฐธรรมนูญปี2560 พยายามแก้มาหลายครั้ง ต่างชาติไม่ยอมรับ คนที่ทำให้การแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จได้คือ พรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นแกนนำรัฐบาล โดยมี สว.เป็นคนชี้ขาดและคนที่ประสาน สว.ได้ดีสุดคือ พรรคภูมิใจไทย ดังนั้น เส้นทางแก้รัฐธรรมนูญจะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่พรรคภูมิใจไทย จึงกังวลใจ สิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจคือ ไปไว้ใจคนที่ไม่อยากแก้ แต่กลับไม่ไว้ใจคนที่อยากแก้ “ไม่อยากจี้ใจดำใคร แต่การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้อย่าคิดว่าจะง่าย คนที่ไม่อยากแก้ก็ไปบังคับให้มาแก้ จึงฝากข้อกังวลว่า เรากำลังร่วมมือแก้รัฐธรรมนูญกับคนที่อยากหรือไม่อยากแก้ ถ้าทำแล้วไม่สำเร็จ อนาคตประเทศจะมืดมน” นายสุทิน กล่าว
‘บวรศักดิ์’เปิดไทม์ไลน์ทำประชามติรธน.
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงไทม์ไลน์การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า จะนำข้อคิดเห็นในการอภิปรายของสมาชิกไปพิจารณาต่อไป ส่วนการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 15 / 1 ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นอำนาจของรัฐสภา แต่การทำประชามติกฎหมายกำหนดชัดให้ประธานรัฐสภาส่งร่างรัฐธรรมนูญต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือกับ ส่วนไทม์ไลน์ 1.รัฐธรรมนูญฉบับปี2560 2.พรบ.ออกเสียงประชามติปี2564และ3.MOA มี 2กรณี คือ 1.กรณีที่พรบ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับปัจจุบันใช้บังคับ และ 2.กรณีที่มีการประกาศใช้พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติฉบับปี 2568 หากมีการประกาศใช้ ซึ่งตามข้อตกลง MOA ยุบสภาภายใน 4 เดือนนับแต่วันที่ 1ต.ค.2568 นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งจะครบ 4 เดือน ในวันที่31 ม.ค.2569 ซึ่งหมายถึงการยุบสภาในวันนั้นตามข้อตกลง MOA และตามรัฐธรรมนูญการเลือกตั้งที่เกิดจากการยุบสภา ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 -60 วัน ซึ่งวันที่เหมาะสมที่สุดคือวัน อาทิตย์ที่ 29มี.ค.2569 ที่ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและMOA
กกต.กำหนดวันทำประชามติและคำถาม
รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องการทำประชามติเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 256 กำหนดไว้ หากเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 (8) รวมถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องมีการจัดทำประชามติ และ กรณี1.กฎหมายประชามติฉบับปัจจุบันกำหนดไว้ว่าให้ประธานรัฐสภาให้แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบและประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีการออกเสียงตามวันที่ได้กำหนด ต้องไม่เร็วกว่า 90-120 วัน นับแต่วันที่แจ้งต่อประธานรัฐสภา เพื่อประหยัดงบประมาณ หากทำแยกต้องใช้ 6,000 ล้านบาทก็สมควรที่จะทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งในวันที่ 29 มี.ค.2569 แต่เมื่อรับเวลา 90 วันคือวันที่ 30 ธ.ค. 2568 ต้องเป็นวันที่นายกรัฐมนตรี และ กกต. ประกาศให้ทำประชามติได้ นั่นหมายความว่าต้องนับย้อนหลังในการลงมติวาระที่ 3 ควรไม่เกินวันที่ 15-20ธ.ค.2568 ซึ่งจะต้องเว้นว่างระยะเวลาไว้ 10 วัน เพื่อเผื่อเวลาให้ประธานรัฐสภาเตรียมการ และ ต้องให้เวลานายกรัฐมนตรีหารือ กกต.ในการกำหนดวัน ซึ่งต้องเป็นวันเดียวกับวันเลือกตั้ง 29มี.ค.2569 ถ้าเป็นอย่างนี้แปลว่าจะต้องขอความกรุณารัฐสภาแห่งนี้ ลงมติในวาระที่ 3 ในร่างทั้ง3ร่างที่ยุบรวมกันเป็น1 ร่างไม่เกินวันที่15- 20 ธ.ค.นี่คือกรณีที่หนึ่ง” นายบวรศักดิ์กล่าว
กางไทม์ไลน์เลือกตั้งใหม่29มี.ค.69
นายบวรศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรณีที่ 2.กรณีที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติที่ได้นำทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายไปแล้ว และประกาศบังคับใช้ กรณีทำให้รัฐสภามีเวลามากขึ้นในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากการยุบสภาดำเนินการในวันที่ 31ม.ค.2569และเลือกตั้งวันที่ 29มี.ค.2569 เหมือนเดิม ซึ่งลดเวลาจาก 90วันเหลือ 60วัน ซึ่งนับ 60วัน วันสุดท้ายจะเป็นวันที่ 29ม.ค.2569 ที่ประธานรัฐสภาต้องแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบและหารือ กกต.ต้องประกาศทำประชามติ เพราะฉะนั้นหากเป็นอย่างนี้รัฐสภาต้องลงมติในวาระที่3 ให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่รัฐสภากำลังจะลงมติรับในวาระที่1 ช่วงวันที่15-19ม.ค.เว้นเวลาไว้ 10วัน เพื่อให้ประธานรัฐสภาจัดทำร่างตลอดจนคำอธิบายสาระสำคัญของร่าง เพื่อให้รัฐบาลสามารถหารือกับ กกต.ได้ ยืนยันว่า ไทม์ไลน์ดังกล่าวนั้นเป็นไปตามMOA ซึ่งรัฐบาลไม่อาจก้าวล่วงได้ แต่ต้องประสานงานกันในหลายเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ จึงได้เสนอไทม์ไลน์ที่รัฐบาลมองว่าควรจะเป็นเช่นนั้น
มติ‘ปชน.-ภท.’ฉลุย-ปัดตกร่างฯพท.
ต่อมา เวลา 15.00น.ประธานสั่งให้มีการลงมติใช้วิธีขานชื่อแต่ละคนว่าจะรับ หรือไม่รับ งดออกเสียง แต่ละฉบับ วาระ1 โดยระบุว่า จะรับฉบับที่1 ของพรรคประชาชน ฉบับที่2 ของพรรคภูมิใจไทย และฉบับที่3ของพรรคเพื่อไทย โดยจะเรียกชื่อแต่ละคน จากนั้นเวลา 17.20น.นับคะแนนเสร็จ ฉบับแรก ของพรรคประชาชน ที่ประชุมมีมติรับหลักการ568เสียง ไม่รับหลักการ10เสียง งดออกเสียง 74คน ฉะนั้นคะแนนที่รวมกันแล้ว 568 เสียง ถือว่าเกินกึ่งหนึ่งและมีสว.ลงคะแนนทั้งหมด 108 เสียง ถือว่าเกิน 1 ใน 3 ถือว่าฉบับที่ 1 รับหลักการ ฉบับที่2ของพรรคภูมิใจไทย รับหลักการ 629เสียง ถือว่าคะแนนเกินกึ่งหนึ่ง ในจำนวนนี้มีสว.167เสียง ถือว่าเกิน1ใน3 ถือว่าฉบับที่2รับหลักการฉบับที่3ของพรรคเพื่อไทย รับหลักการ521 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา แต่มีสว.รับหลักการ 60เสียง ไม่ถึง1ใน3 ถือว่าฉบับที่3 ที่ประชุมไม่รับหลักการในวาระที่1 จากนั้นตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ทั้งหมด 43คน โดย สว. 12คนและสส.31คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี