ถกเลิกMOU43-44
‘บวรศักดิ์’สั่งกต.ศึกษาแผนสำรอง
รับมือถ้าไปถึงศาลโลก
คาด1-2เดือนได้ข้อสรุป
‘ไชยชนก’ย้ำนโยบายรบ.
ทำประชามติถามปชช.
“บวรศักดิ์”เรียกถกลับ “ฝ่ายมั่นคง” วางแนวทางยกเลิก MOU43-44 บอกสื่อถึงเวลาจะพูด “ไชยชนก”ย้ำนโยบายรัฐบาล ทำ“ประชามติ”ยกเลิก MOU43-44 เตรียมแผนสำรอง พร้อมรับทุกผลที่ออกมาเผย“บวรศักดิ์”สั่ง“กระทรวงการต่างประเทศ’ทำการบ้านศึกษาเพิ่มเติมรับมือทุกสถานการณ์ รวมทั้งหากเรื่องต้องไปศาลโลก โฆษกรัฐบาลบอก‘สหรัฐ’ยังไม่คอนเฟิร์ม‘ทรัมป์’ร่วมลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา ย้ำเขมรต้องทำตาม 4 เงื่อนไข เผยหลายประเทศต่อคิวคุยนายกฯ
เมื่อเวลา 10.00 วันที่ 17 ตุลาคม 2568 ที่ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรัฐ (สลค.) ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย เรียกหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง มาประชุมหารือถึงแนวทางการยกเลิก MOU 43-44 โดยมีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณา MOU 43-44 สภาผู้แทนราษฎร พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เข้าร่วมด้วย
“บวรศักดิ์”บอกถึงเวลาจะพูดปมล้มMOU
พล.ท.อดุลย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า เป็นแค่การหารือกันเบื้องต้น ไม่มีอะไรเลย ส่วนรายละเอียดให้สอบถามนายบวรศักดิ์ เช่นเดียวกับ นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกกระทรวงยุติธรรม ปฏิเสธเปิดเผยรายละเอียดของผลการประชุม และให้ไปสอบถามนายบวรศักดิ์
ขณะที่นายบวรศักดิ์เดินมาขึ้นรถที่ลานจอดชั้นใต้ดิน เพื่อเดินทางออกจากตึก สลค. ผู้สื่อข่าวได้พยายามตะโกนสอบถามถึงผลการหารือ นายบวรศักดิ์ลดกระจกรถยนต์ลง และตะโกนบอกผู้สื่อข่าวว่า “ถึงเวลาจะพูด”
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยเป็นการหารือเรื่องข้อดีข้อเสีย และแนวทางที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งกองทัพเป็นผู้เสนอ และหลังจากนี้ จะให้หน่วยงานต่างๆ แยกย้ายไปทำข้อมูล เพื่อนำกลับมาส่งให้รัฐบาล
เมื่อถามว่า กรมแผนที่ทหารกังวลในการยกเลิก MOU หรือไม่ เพราะส่งผลต่อการปักปันเขตแดน แหล่งข่าวระบุว่า ทหารเขาได้หมดอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะทางไหน ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งต้องนำข้อดีมาใช้ประโยชน์ และแก้ไขข้อเสีย ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีความกังวล เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศแต่อย่างใด
สั่งทุกฝ่ายทำการบ้านพร้อมรับทุกสถานการณ์
นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา สภาผู้แทนราษฎรกล่าวหลังหารือกับนายบวรศักดิ์ ถึงแนวทางยกเลิก MOU 2543-2544 ว่า เป็นการประชุมร่วมกันของทุกหน่วยงานทุกภาคส่วน ทุกคนทำหน้าที่ได้ดีมาก ส่วนแนวโน้มในที่ประชุมเห็นได้ถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งฝั่งความมั่นคงและรัฐบาล ทำให้มั่นใจได้ว่าทั้งรัฐบาลและประเทศไทยมีความพร้อมมากไม่ว่าผลทำประชามติจะออกมาในรูปแบบใด จะทำให้เราได้เปรียบมากขึ้นทุกสถานการณ์หรือไม่ หลังจากนี้ทุกฝ่ายจะกลับไปทำการบ้าน
เมื่อถึงข้อสรุปการยกเลิก MOU 2543 และ2544 จะใช้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.)หรือการทำประชามติขอความเห็นประชาชน นายไชยชนกกล่าวว่า ปัจจุบันยังเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลคือ การทำประชามติ แต่ได้เตรียมความพร้อมรับผลของประชามติ จะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก หรือต้องปรับปรุง รวมถึงด้านต่างประเทศหากเกิดการเปลี่ยนแปลง ยกเลิก MOU หรือนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างอื่น เราพร้อม ดังนั้น การประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวันนี้ ทิศทางเป็นไปในทางบวก และไทยพร้อมรับมือมากขึ้นกับทุกสถานการณ์ ทั้งนี้ สถานการณ์จะดีขึ้นแน่ เพราะทุกคนกำลังร่วมมือกัน
กต.ทำการบ้านเพิ่มถ้าต้องไปศาลโลก
นายไชยชนก กล่าวต่อว่า นายบวรศักดิ์ยังกำชับหน่วยงานด้านความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ ให้เตรียมศึกษาสถานการณ์ทุกรูปแบบ และต้องให้ความเป็นธรรมเจ้าหน้าที่ เพราะทุกฝ่ายทำตามนโยบายรัฐบาลนั้นๆ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่าที่ผ่านมา กระทรวงพยายามทำตามนโยบายทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ไปศาลโลก แต่ขณะนี้ไม่ใช่ว่านโยบายของรัฐบาลจะไปสู้ในศาลโลก แต่นายบวรศักดิ์ ก็ได้ให้นโยบายว่าเราต้องมีความพร้อม ไม่ว่าเรื่องจะไปสู่ศาลโลกหรือไม่ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะทำการบ้านเพิ่มเติม หากต้องไปศาลโลก เพื่อให้ไทยไม่เสียเปรียบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าแนวทางการทำประชามติ จากที่เดิมมีแค่ยกเลิกหรือไม่ยกเลิก จากการประชุมวันนี้จะเพิ่มเรื่องการปรับปรุง MOU ใช่หรือไม่ นายไชยชนก กล่าวว่า ยังมีอีกหลายแนวทาง แต่ในรายรายเอียด ขอให้แต่ละฝ่ายไปทำการบ้านเพิ่มเติม เพื่อนำกลับมาเสนออีกครั้ง ไม่เช่นนั้นเป็นการกดดัน แต่ยืนยันว่า MOU 2543 และ 2544 แยกศึกษา ไม่เหมารวม ตรงไหนเปรียบหรือมีข้อกังวลจะถูกนำมาพิจารณาทั้งหมด
ถ้ายกเลิกต้องตั้งกก.ศึกษาเชิงลึก-กำหนดเวลา
ถามต่อว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงกังวลอะไรหรือไม่ นายไชยชนกกล่าวว่า ทุกฝ่ายเป็นห่วง และตั้งใจทำให้สถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้น ยืนยันระหว่างรัฐบาล กระทรวงกลาโหม หน่วยงานด้านความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ มีความสัมพันธ์ ความสามัคคีที่ดีขึ้นในการร่วมการแก้ปัญหา
ถามอีกว่าแนวทางหากมีการยกเลิก MOU จะเป็นอย่างไร นายไชยชนก กล่าวว่า ที่ประชุมหารือว่าจะต้องตั้งคณะกรรมการ เพื่อเสนอข้อมูลเชิงลึก และหากมีการยกเลิกมีหลายรูปแบบไม่ใช่เพียงฉีก MOU แต่จะต้องกำหนดระยะเวลายกเลิกด้วย
คาด1-2เดือนได้ข้อสรุปเลิกMOU43-44หรือไม่
ขณะที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถถึงการปะชุมหารือแนวทางการยกเลิก MOU 43-44 โดยเชิญ ผบ.หล่าทัพ กระทรวง การต่างประเทศ และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา MOU 43-44 สภาผู้แทนราษฎร มาพูดคุยกันถึงแนวทางดําเนินการ ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรก ซึ่งมีการรับฟังข้อดีและข้อเสียที่จะบังคับใช้ต่อหรือจะยกเลิก และจะมีผลปฏิบัติอย่างไร คาดว่า 1-2 เดือนจะได้ข้อสรุป ทั้งนี้ ในที่ประชุม ไม่ได้ประเมินสถานการณ์ชายแดนไทยเขมร ฝ่ายความมั่นคงยังไม่ได้ยกเลิกประเด็นหรือข้อกังวลใดๆ
ยังไม่ยืนยัน“ทรัมป์”ร่วมถกไทย-เขมร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศ มาเลเซีย โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะมาร่วมลงนามสันติภาพไทย - กัมพูชา นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการยืนยัน จากสหรัฐฯ แต่ได้สอบถามไปแล้ว ซึ่งวันนี้กระทรวงการต่างประเทศพูดถึงกระบวนการ เนื่องจากนายกฯต้องเดินทางไประหว่างวันที่ 25-28 ตุลาคมและวันที่ 29 ตุลาคม นายกฯต้องเดินทางไปประชุมเอเปคที่ประเทศเกาหลีใต้ จึงเป็นการพูดภาพรวมทั้งสองเวที ซึ่งมี 10 กว่าประเทศที่ให้ความสนใจ และอยากขอเข้าพูดคุยกับนายกฯ ซึ่งนายกฯพยายามไปให้ครบทุกองค์ประชุ ส่วนต้องไปประชุมกับสหรัฐฯหรือไม่ ก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน ต้องรออีกฝั่งเสนอมาก่อน
เมื่อถามว่า หากต้องลงนามสันติภาพ จะยังยืนยันใน 4 เงื่อนไข ต่อกัมพูชาหรือไม่ นายสิริพงศ์กล่าวว่า นายกฯยืนยันใน 4 ข้อเสนอมาตลอด โดยเขมรต้องดำเนินการก่อนทั้ง 4 ข้อ ถึงจะมีการพูดคุยกัน
เผยแบบ“รั้วชายแดน”ค่าสร้าง7.3พัน/ม.
กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) เปิดแบบแผนการดำเนินการโครงการสร้างรั้วคอนกรีตสำเร็จรูป ครึ่งตะแกรงเหล็ก ชุบอลูซิงค์ ติด ลวดหนามหีบเพลง ที่จะสร้างกั้นชายแดนไทย-กัมพูชา โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมถนนตรวจการณ์ โดยติดตั้ง
ลวดหนามหีบเพลง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 เซนติเมตร ราคาเมตรละ 210 บาท รั้วตะแกรงเหล็กชุบอลูซิงค์ระยะห่าง 2 เซนติเมตร พร้อมอุปกรณ์ ป้องกันปืนป่าย ราคาเมตรละ 3,100 บาท ทับหลังสำเร็จรูป ขนาดหน้าตัด 20x15 เซนติเมตร ราคาเมตรละ 420 บาท แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป ขนาด 3.00 X 0.25 เมตร หนา 7.5 ชม. (5แผ่น) ราคาเมตรละ 1,020 บาท คานคอดินสำเร็จรูป ขนาด 65x20 เซนติเมตร ราคาเมตรละ 620 บาท ตอม่อขนาด 1.00 x 1.00 เมตร ราคาชุดละ 550 บาท เสาสำเร็จรูป ขนาดหน้าตัด 20x20 เซนติเมตร ราคาเมตรละ 1,260 บาท ค่าปรับพื้นที่ถากถาง ขุดดิน ทำตอม่อ และ คานคอดิน ราคาเมตรละ 180 บาท รวมค่าก่อสร้างรั้ว ราคาเมตรละ 7,360 บาท ราคาต่อกิโลเมตรละ 7,360,000 บาท
พร้อมทั้งสร้างถนนตรวจการณ์ ที่มีผิวจราจรเป็นลูกรังกว้าง 5 เมตร เป็นพื้นลูกรังบดอัดแน่น 3 ชั้น ราคา 1,300, 000 บาทต่อกิโลเมตร เมื่อรวมค่าก่อสร้างทั้งหมด กิโลเมตรละ 8,660,000 บาท ต่อกิโลเมตร
รอทหารไฟเขียวเปิดเครื่องเสียงเพื่อชาติ
มีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว โดยกลุ่มรถเครื่องเสียงขนาดใหญ่ไนัดหมายรวมตัวกันที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อจัดกิจกรรมเปิดสารคดีและอื่นๆให้ผู้รุกล้ำดินแดนอธิปไตยไทยได้ฟังกันตลอดทั้งวัน ซึ่งกิจกรรมจะจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ วันที่ 17-19 ตุลาคมนี้ ล่าสุด รถเครื่องเสียงขนาดใหญ่เดินทางมาถึงบ้านหนองจานแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเสียงได้ เนื่องจากต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ทหารอย่างเป็นทางการก่อน เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่คล้ายคลึงกับ กัน จอมพลัง ที่นำเครื่องเสียงมาเปิดเสียงซาวด์หลอนและเครื่องบิน F-16 จนเป็นกระแสดรามาอยู่ขณะนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี