วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568
‘นายกฯ’ยันรัฐบาลนี้ปราบสแกมเมอร์แล้ว ทั้ง‘ถอนสัญชาติ-ยึดทรัพย์’ ลั่นคนทำงานไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่อง ท้า‘ไอซ์ รักชนก’มาบริหารประเทศก่อน แล้วจะทำอะไรก็ทำ หลังติง‘ธรรมนัส’นั่งบอร์ดปราบค้ามนุษย์ไม่เหมาะสม โวย‘ซังกะบ๊วย’กล่าวหา‘เนวิน-อนุทิน’เอี่ยวโยงเป็นหัวโจกสแกมเมอร์
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นิวยอร์คไทมส์ ออกมาระบุไทยก็เป็นศูนย์กลางของของสแกมเมอร์ จะจัดการอย่างไร ว่า เรื่องนี้มีคนจัดการแล้ว ส่วนปัญหาสแกมเมอร์ที่ยังมีในฝั่งของเมียนมาทะลักเข้าไทยอยู่นั้น ต้องทำทั้งป้องกัน และปราบปรามอยู่แล้ว คนที่ทำงานได้ทำอยู่แล้ว คนที่ไม่ได้ทำ ก็อ่านข่าวมาแล้วขยายผล ทำให้ปั่นป่วนวุ่นวาย ซึ่งเรามีมาตรการที่ทำมาอย่างเต็มที่ เพราะเรื่องเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จะทำแบบเดิมไปตลอดไม่ได้ ซึ่งเป้าหมายที่ได้มอบให้ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คือ ต้องล้ำหน้ากว่าฝ่ายกระทำความผิดอยู่เสมอ ไม่ใช่เป็นตำรวจจับโจร ต้องดักทางทุกอย่างให้ถูก และแสวงหาความร่วมมือให้ได้มากที่สุด
ล่าสุดที่พบกับทูตจากสหรัฐอเมริกาได้เร่งให้มีผู้ชำนาญการมาร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้กระทำผิดในเรื่องนี้ และล่าสุดได้ทำให้เห็นชัดเจนในรัฐบาลชุดนี้แล้ว คือ การลงนามถอนสันชาติ นายพัด สุภาภา หรือ ลียง พัด ไม่ให้ถือสัญชาติไทยอีกต่อไป เพราะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งได้ทำให้เห็นแล้ว ว่า สิ่งที่ไม่เคยทำมาในอดีต รัฐบาลนี้ได้ทำทั้งที่พึ่งเข้ามาทำงานเพียง 2 - 3 สัปดาห์ พร้อมย้ำว่า ยังทำอยู่ แต่คนที่ทำไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องพวกนี้ เพราะเกี่ยวข้องกับความลับทางราชการ กลยุทธ์วิธีการต่าง ๆ ถ้าพูดฝ่ายตรงข้ามก็จะหาวิธีมาแก้ไข และจะทำให้กระบวนการปราบปราม หรือ การดำเนินการอะไรต่างๆ ไม่เสร็จสักที
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุมีนักการเมืองอักษรย่อ “ช.ช้าง” เชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ ได้ตรวจสอบภายในพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โชคดีที่ไม่ได้บอกเป็นอักษรนามสกุล ถ้านามสกุล ช.ช้าง ก็คงเป็นตนเอง ดีที่บอกเป็นชื่อ แต่การตรวจสอบ ไม่ใช่จะตรวจสอบจากการที่ได้ยินใครมา เพราะมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) รวมถึงกลไกของรัฐตรวจสอบอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ออกมาทักท้วงว่า การตั้งร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ไม่เหมาะสม นายกฯ กล่าวว่า ของพวกนี้ ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์กัน เพราะไม่ได้เป็นคนทำงาน ถ้าอยากจะทำเรื่องนั้น ก็มาบริหารประเทศก่อน และทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ก็สามารถทำได้ ไม่ได้ห้าม
“แต่วิธีการทำงานของผมเองนั้นทำแบบนี้ แล้วที่ยอมถูกดุ ถูกด่า ถูกว่า ถูกตำหนิ มาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครมายึดทรัพย์ผู้กระทำผิด และครั้งนี้ได้ยึดทรัพย์ด้วย ไม่ใช่แค่ถอนสัญชาติ สิ่งที่ผมเองทำมาตลอด บางทีก็ไม่ต้องพูด ซึ่งจะทำต่อเนื่อง เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่ได้จบภายในวัน หรือสองวัน และ 4 เดือนก็ไม่จบ แต่จะขัดขวาง และปราบปรามให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ที่มารับช่วงต่อในการปราบสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นรัฐบาลกดดันทุกวัน ไม่ถูกกดดันเรื่องนี้ ก็ถูกกดดันเรื่องอื่น ต้องทำงานภายใต้ความกดดันเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่จะต้องทำ คือ ต้องไม่ไปเสียขวัญกับแรงกดดันต่าง ๆ ถ้ามั่นใจ ว่า ได้ดำเนินการในทิศทางที่ถูกต้องแล้วก็ทำต่อไป ใครจะมาพูด หรือ ว่าอะไร ก็รับฟังไว้ และมาทำตลอด แต่ส่วนใหญ่ไม่เข้าท่า เช่น อยู่ๆบอกว่าปรับไม่ได้สักทีแล้วมาสงสัยตน หรือนายเนวิน ชิดชอบประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นเจ้าของสแกมเมอร์ เป็นบทสรุปที่ซังกะบ๊วย อย่างนี้ไม่ได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี