วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
อย่าแตะเสาหลัก!
รมช.กลาโหมติงกมธ.ทหาร
ยันยุทธภัณฑ์ไม่ขาดแคลน
“บิ๊กอดุลย์”รมช.กลาโหม ยืนยันยุทธภัณฑ์ทางทหารไม่ขาดแคลน แต่ยามวิกฤตไม่พอ ติงกมธ.ทหาร อย่าดึงเสาหลักชาติมาเล่น ดราม่าของบริจาค มองเป็นการทะเลาะกันเอง ด้าน กมธ.ทหาร ไม่เชิญ“กัน จอมพลัง”ให้ข้อมูลเพิ่มแล้ว แต่ขอความร่วมมือส่งเอกสารขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานรัฐทั้งหมด จี้“โฆษก ทบ.”ส่งเอกสารคำร้องขอยุทธภัณฑ์ ยันไม่ได้พุ่งเป้าโทษใคร แต่เพื่อวางระบบรับบริจาค เสริมเขี้ยวเล็บให้แนวหน้า ขณะที่“กัน จอมพลัง” โชว์หนังสือหน่วยงานขอสนับสนุนแผ่นเกราะแข็งป้องกันกระสุน ลั่นอะไรที่ทำให้ทหาร-ตำรวจปลอดภัย พร้อมทำหมด “พล.ต.วินธัย”ยอมรับ“กัน จอมพลัง”สนับสนุนแผ่นเกราะฯ ให้กำลังพลแนวหน้าจริง โดยมอบให้ “ตชด.-ทหารพราน”
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ที่สํานักงานปลัดกลาโหมศรีสมาน พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่กรรมาธิการการทหารสภาผู้แทนราษฎรเดินหน้าตรวจสอบการใช้งบประมาณของกองทัพ ในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา หลัง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง นำยุทธภัณฑ์ และสิ่งของไปบริจาคให้กับทหารตามแนวชายแดน ว่า ทหารเมื่อจัดกำลังป้องกันชายแดนในแต่ละปีมีงบประมาณให้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นการจัดสรรงบประมาณในการป้องกันประเทศภาวะปกติ แต่ปัจจุบันอยู่ในขั้นที่ 2 พบมีการรุกล้ำชายแดน ที่ทหารต้องตอบโต้ จนเกิดการประทะกันเป็นระยะ นั่นหมายความว่าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ปกติ จึงชี้ให้เห็นว่า งบประมาณที่อนุมัติในสถานการณ์ปกติไม่เพียงพอ ที่ผ่านมาสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นหลายพื้นที่ ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งในแต่ละจุดปะทะ ทหารต้องเข้าไปในพื้นที่โดยเร็วที่สุด จึงขอตั้งคำถามว่าหากต้องเข้าพื้นที่โดยเร็วที่สุดงบประมาณที่จะจัดสรรให้ตามปกติ จะเพียงพอหรือไม่ และจะทันต่อเหตุการณ์หรือไม่
“มันไม่ทันหรอก ในเมื่อมีประชาชนร่วมมือกันที่จะให้สิ่งของ และมีงบประมาณที่จะทำทางให้ มีงบประมาณเติมน้ำมันให้ทหาร ให้ทหารเข้าไปถึงพื้นที่ ด้วยความรวดเร็ว ท่านว่าไม่ดีหรอครับ มันเป็นเรื่องดีที่ทำให้ทหารเข้าไปในพื้นที่ด้วยความรวดเร็ว ปลอดภัย ยิ่งถ้ามีเกาะอยู่ด้วย ท่านว่าไม่ดีหรอครับ” พลโท อดุลย์ กล่าว
พลโท อดุลย์ ย้ำว่า ทหารไม่ใช่นักธุรกิจ ที่เมื่อธุรกิจขาดทุนก็เริ่มใหม่ได้ แต่ทหาร สูญเสียอวัยวะ เรียกกลับคืนมาไม่ได้ ดังนั้น เมื่อมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เข้าพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย มีบังเกอร์ที่แข็งแรง “ไม่ดีหรืออันนี้ ขอถามคนไทยทั้งประเทศ”
รมช.กลาโหม ยืนยันว่ากองทัพบกให้เงินได้ แต่งบประมาณของทางราชการหากขอตามแผนประจำปี 2 ปี กว่าจะได้ แต่หากเป็นงบกลางอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาถึง 5 เดือน ส่วนตัวพูดด้วยความรู้สึกไม่ได้ปกป้องกองทัพบก แต่ที่ต้องออกมาพูดเพราะเห็นใจทหารที่อยู่ตามแนวชายแดน รับของแล้วเจอเรื่องดราม่า ว่ารับของมา ทั้งๆที่ เป็นความรักชาติของคนไทย ที่ร่วมมือกันบริจาค ส่วนที่ฝ่ายการเมืองทะเลาะกัน ขออย่าดึงทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง พร้อมขอให้ทหารมีสมาธิในการปฎิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ เพราะขวัญกำลังใจของกำลังพลถือว่ามีส่วนสำคัญ
พลโท อดุลย์ ระบุด้วยว่า ขณะนี้ได้รับการอนุมัติจาก รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ทำถนนเข้าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ อำนวยความสะดวกให้ทหารเข้าไปถึงพื้นที่ชายแดนได้อย่างรวดเร็วและสะดวก ขณะเดียวกันตอนนี้กำลังพลมีเสื้อเกาะ มีบังเกอร์ที่แข็งแรง พร้อมปกป้อง กัน จอมพลัง แต่เป็นการยืนยันว่า ทหารที่อยู่ตามแนวชายแดนต้องการสิ่งเหล่านี้ เพื่อรักษาชีวิต
เมื่อถามว่า ทำไมก่อนหน้านี้ผู้บังคับบัญชาไม่จัดหา ยุทธภัณฑ์เหล่านี้ให้กับกำลังพล แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นถึงมารับบริจาค พลโท อดุลย์ ระบุว่า ไม่มีใครรู้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น ยืนยันทุกปีกองทัพบกมีงบประมาณ ในการพัฒนาเส้นทางต่างๆ ที่จะเข้าไปตามแนวชายแดน แต่อาจไม่ตรงกับจุดที่เกิดภัยคุกคาม เช่นปราสาทคันนา ไม่มีใครรู้ว่าภัยคุกคามจะเกิดขึ้นบริเวณดังกล่าว รวมถึงอีกหลายพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ และขณะนี้ได้รับการสนับสนุนจาก หลายหน่วยงานทั้ง ไฟฟ้า น้ำประปา สัญญาณโทรศัพท์ รวมถึงการติดตั้งรั้ว cctv ที่ไม่ต้องทำเป็นกำแพงแต่ใช้ระบบดิจิทัล ซึ่งจะทำให้ทุกหน่วยงานสามารถใช้ข้อมูลจาก ระบบนี้ได้ เช่นการหลบหนีเข้าเมือง เป็นต้น การรับบริจาคสิ่งของจำเป็นต้องกำชับให้หน่วยงานในสังกัดต้องโปร่งใสในการ รับบริจาคสิ่งของหรือไม่ พลโท อดุลย์ ยืนยันว่าที่ผ่านมารับเป็นเงินแต่รับเป็นสิ่งของ ถ้าคนเราคิดดีทำดี เชื่อว่า ไม่มีวาระแอบแฝงอะไร สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับน้องน้องทหารทุกคน ที่ดูแลประเทศชาติของเรา อย่างไรก็ตามยืนยันว่าทุกอย่างต้องช่วยกันตรวจสอบใครโกงก็ต้องว่าเป็นคนๆ ไป
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่เป็นการดิสเครดิต กองทัพโดยใช้ กัน จอมพลัง หรือไม่ พลโท อดุลย์ ตอบว่า ไม่ แต่มองว่า เป็นการทะเลาะกันเอง ขออย่าดึงทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง กองทัพดูแลด้านความมั่นคง
“อย่าเอาความมั่นคงที่เป็นเสาหลักของชาติมาเล่นกันแบบนี้ ผมว่ามันต้องเห็นใจกัน กรรมาธิการก็ทำหน้าที่ของกรรมาธิการไป คุณกัน ก็ทำหน้าที่ของคนที่รักชาติ ส่วนคุณกันจะทำไม่ดีก็ไปตรวจสอบกันเอง พร้อมยืนยันด้วยว่าในสภาวะปกติกองทัพไม่ได้ขาดแคลน ยุทธภัณฑ์ แต่ขาดในภาวะวิกฤต เมื่อปะทะกัน ต้องการถนน บังเกอร์ เสื้อเกราะ จึงขอตั้งคำถามว่า หากมีคนเอามาให้จะผิดระเบียบหรือไม่ แต่ตนยอมผิดระเบียบ
วันเดียวกัน กัน จอมพลัง ได้โพสต์ภาพหนังสือราชการหน่วยงานแห่งหนึ่งที่มีการขอสนับสนุนแผ่นเกราะแข็งป้องกันกระสุน จากมูลนิธิ กันจอมพลัง ช่วยสู้ โดยระบุข้อความว่า “ผมพูดกับพี่น้องทหารตำรวจที่รักเสมออะไรที่ทำให้ทหารกับตำรวจหน้าแนวปลอดภัยกับเข้าใกล้ชัยชนะในเวลานั้นผมทำหมด ผมอยากให้ทุกคนได้กลับบ้านไปเจอครอบครัวชุดเกราะเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตพวกเค้าได้จริง”
จากกรณีที่เพจ “กันจอมพลัง ช่วยสู้” เผยแพร่เอกสารที่อ้างอิงว่าออกโดยหน่วยราชการลงวันที่ 27 ก.ค.2568 ขอรับการสนับสนุนแผ่นเกราะแข็ง ระดับ 4 (Level IV) จำนวน 250 แผ่น เพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชานั้น ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยอมรับว่า จากการตรวจสอบพบว่า กัน จอมพลัง สนับสนุนแผ่นเกราะกันกระสุนตามข่าวที่ปรากฏออกมาให้จริง โดยสนับสนุนให้กับตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ตชด.และทหารพราน
ที่รัฐสภา นายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงวาระการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้รับข้อมูลจาก กัน จอมพลัง เพียงบางส่วน ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อยุทธภัณฑ์ ที่มีการใช้คำว่าขอความอนุเคราะห์โดยตรงและไปซื้อกับบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้เห็นรายละเอียด คาดว่าจะเป็นหน่วยทหารแนวหน้าที่ส่งคำขอยุทธภัณฑ์มา ผ่านมูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้ ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงิน ดังนั้นสิ่งที่ต้องดำเนินการหลังจากนี้คือการขอเอกสารที่หน่วยงานส่งคำขอต่อมูลนิธิไปทั้งหมดว่ามีรายการอะไรบ้าง กรรมาธิการยังขอเอกสารกับ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถให้คำตอบกับคำถามกรรมาธิการได้ และตอบรับที่จะรวบรวมเอกสารส่งกรรมาธิการ ซึ่งแสดงว่าทหารแนวหน้าขาดแคลนในสิ่งที่กองทัพปฏิเสธข้อเท็จจริงในเรื่องนี้มาตลอด
“ยืนยันว่าการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการไม่ได้เป็นการมุ่งหมายตรวจสอบเพื่อเพ่งโทษใคร แต่เพื่อวางระบบของกองทัพ วางมาตรการแนวทางในการรับบริจาคที่ถูกต้อง พร้อมกับประกาศให้สาธารณะชนทราบว่าสิ่งใดที่กองทัพรับบริจาคได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้บริจาคทุกอย่าง และเมื่อถึงเวลาก็ดำเนินการอย่างไม่เป็นระเบียบ จึงต้องดำเนินการวางระบบให้ถูกต้อง” นายเอกราช กล่าว
นายเอกราช กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันเห็นว่าในเรื่องนี้อาจนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติยุทธภัณฑ์ การจัดซื้อจัดจ้างซึ่งด้านหนึ่งอาจมีปัญหาเรื่องอุปสรรคต่อการจัดซื้อจัดจ้าง ที่ต้องหาทางแก้ไขปรับปรุงต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ อาจไม่ต้องเชิญ นายกัน จอมพลัง แล้ว กรรมาธิการจะส่งหนังสือเพื่อขอความอนุเคราะห์เอกสาร จึงขอความร่วมมือ ในส่วนกองทัพทางโฆษกกองทัพรับปากว่าจะรวบรวมเอกสารมาให้ ที่ต้องดูว่าเอกสารดังกล่าวนั้นจะครบถ้วนหรือไม่ เพราะกรรมาธิการก็มีข้อมูลจากแนวหน้าในเรื่องการขาดแคลนและความต้องการในพื้นที่ โดยเน้นย้ำว่าทางกองทัพจะต้องไม่ปกปิดข้อเท็จจริง หรือให้เพียงแค่ดูดี
“ไม่ใช่การปกปิดข้อเท็จจริง หรือพูดไปเพียงแค่ให้ดูดี แต่ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมา และช่วยกันหาทางออกก็จะเป็นสิ่งที่ที่ดีที่สุด วันนี้เรามาเสริมติดเขี้ยวเล็บและแพร่กับกองทัพ แนวหน้าตรงไหนร้องขอกรรมาธิการก็พยายามไล่บี้ เช่นตำรวจตระเวนชายแดนพบว่าขาดเยอะ สอบถามหน่วยงานรัฐได้รับคำชี้แจงอย่างเป็นที่พอใจแล้ว เช่นเดียวกันเชื่อว่าหากนายพลที่อยู่แนวหลังใส่ใจกับทหารชั้นผู้น้อย ลงไปดูหน้างาน ดูรายละเอียดนิดนึง รวมถึงรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงไปดูหน้างานความเข้าใจจะทราบว่าต้องแก้ไขอย่างไร” นายเอกราชกล่าว
นายเอกราช กล่าวด้วยว่า หากกองทัพส่งเอกสารไม่ครบถ้วน กรรมาธิการจะรวบรวมข้อมูลเอง เพื่อปรับปรุงในเชิงนโยบาย เพื่อเสนอแนะการปฏิรูปกระบวนการจัด งบประมาณของกองทัพ ว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้หน่วยงานทหารแนวหน้าได้รับความเดือดร้อน แต่เป็นการติดเขี้ยวเล็บให้กับแนวหน้า โดยเฉพาะการจัดยุทธภัณฑ์ให้กับแนวหน้าไม่ตรงกับความต้องการนั้น อาจมองว่าผู้บัญชาการระดับบนจะมีปัญหาในการสั่งการดำเนินการ เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศพร้อมสนับสนุนทหารแนวหน้า จึงต้องการรู้ว่าฐานแนวหน้าขาดยุทธภัณฑ์อะไรบ้าง ซึ่งหากทราบข้อมูลได้มากเท่าไหร่ เท่ากับว่าติดเขี้ยวเล็บได้มากเท่านั้น แต่ไม่ใช่ทำเป็นไม่รู้แล้วจัดหาแบบไม่ถูกต้อง โดยชี้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หากสิ่งที่กองทัพต้องจัดหายุทธภัณฑ์ให้กับแนวหน้า แต่กลับให้หน่วยงานภายนอกจัดหาให้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี