วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
‘พรรคปชน.’ยก3เงื่อนไข
ขู่รบ.เมินเจอซักฟอกแน่
ภท.เปิดผู้สมัครสส.
3จังหวัดบ้านใหญ่
นายกฯเยี่ยมโรงเรียนเก่า “อัสสัมชัญ” ย้อนรำลึกความหลังวัยขาสั้น แนะเด็กตั้งใจเรียนตอบแทนแผ่นดิน บอกอยากเป็นนายกฯต้องตั้งเข็มทุ่มเต็มที่ ด้าน‘เพื่อไทย’เคาะ 3 แคนดิเดตนายกฯ’สุริยะ’มาแน่ สะพัดทาบ’ณัฐพงศ์-ลูก’เจ๊แดง’ด้าน‘พริษฐ์’ย้ำให้ความสำคัญ ทั้งคู่‘แก้รธน.-สแกมเมอร์’ยันเอาปชช.เป็นตัวตั้ง ยก3เงื่อนไข ขู่ฝ่อถ้ารัฐบาลไม่เปิดสมัยวิสามัญเข็นแก้รธน.ทันวาระ3ก่อนยุบสภา จะยื่นซักฟอกทันที ป้อง’ศิริกัญญา’ชี้ปชน.พยายามตรวจสอบ-ชี้ให้เห็นรัฐบาล มีข้อกังขาอะไรในการบริหาร
เมื่อเวลา 08.30น.วันที่ 10พฤศจิกายน2568 ที่โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เดินทางมาเยี่ยมเยียนโรงเรียนอัสสัมชัญ ในฐานะศิษย์เก่าและพบปะคณะผู้บริหาร ครูและนักเรียน เมื่อมาถึง นายอนุทิน ได้ถ่ายภาพร่วมกับคณะผู้บริหารและเข้าแสดงความเคารพวางดอกไม้ที่หน้าอนุสาวรีย์ บาทหลวงเอมิลออกัสต์ กอลมเบต์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนอัสสัมชัญ ก่อนเดินลอดซุ้มธงโรงเรียนอัสสัมชัญและเดินทักทายนักเรียนที่รอต้อนรับ โดยบรรดาเด็กนักเรียนได้แห่เข้ามารุมล้อมขอจับมือกันอย่างอบอุ่น ก่อน นายอนุทิน นำพวงมาลัยไหว้คุณครูที่เคยสอนสมัยศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญ
‘อนุทิน’เยี่ยม’อัสสัมชัญ’โรงเรียนเก่า
จากนั้น นายอนุทิน กล่าวถึงความทรงจำในรั้วโรงเรียนตอนหนึ่งว่า ต้องบอกลูกๆหลานๆว่าถ้าเกิด 10 กว่าปี 20 กว่าปีก่อนที่ผ่านมา ลุงเคยมา ลุงยังเรียกน้องได้ แต่ตอนนี้ต้องเรียกว่าน้องๆว่าลูก และหลาน วันนี้ตนต้องขออนุญาตเรียนว่าเป็นสิ่งที่ตื่นเต้น ถึงแม้ว่าจะเคยเจอคนมากกว่านี้หลายเท่าตัวมาแล้วบนเวที แต่ไม่ตื่นเต้นเท่ากับมาที่โรงเรียนเก่า เพราะยังกลัวคุณครูอยู่ ตนยังจำคุณครูได้ทุกคนสมัยที่ตนเรียนอยู่ในชั้นเรียน และทุกอย่างปลูกฝังมาจากที่นี่ วิชาความรู้ที่ได้รับนำพาสู่อนาคตที่ดี
ทั้งนี้ อย่าง มาสเซอร์ พนาเวศ หลายรัตน์ ผูกพันที่สุด เปรียบเสมือนเป็นผู้มีพระคุณสูงสุดในโรงเรียน พอได้ 49 คะแนน มาสเซอร์ปัดให้เป็น 51 ด้วยความเมตตา และเรียกแม่ของตนมาให้เคี่ยวเข็ญตนให้มากกว่านี้ เพราะถ้าปล่อยไปแบบนี้เป็นโจรแน่นอน ทั้งนี้โรงเรียนอัสสัมชัญบ่มเพาะให้พวกเราเป็นผู้เป็นคน เติบโตมั่นคงเป็นคนที่ดี ที่สำคัญนักเรียนอัสสัมชัญ ทำให้ละอาย และเกรงกลัวต่อการทำชั่วทำผิดทำไม่ดี
แนะลูกหลานตอบแทนคุณแผ่นดิน
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เมื่อเราพ้นจากรั้วนี้ไปแล้วเราเจอรุ่นพี่รุ่นน้องอัสสัมชัญ รุ่นพ่อรุ่นลุง น้องๆเชื่อเถอะพอบอกว่าเรียนจบอัสสัมชัญมันเปรียบเสมือนเกตเวย์ (ทาง) ถูกเปิด อย่างน้อยยากเป็นง่าย หนักเป็นเบา ความใกล้ชิดบังเกิดและเราพยายามสนับสนุนซึ่งกันและกัน ไม่มีหรอกครับเป็นกลาง ไม่เป็นกลาง เข้าข้างอัสสัมชัญเสมอและโรงเรียนอัสสัมชัญสอนให้พวกเรามีวินัย หลังจากนี้ก็อย่าลืมหาโอกาส หากมีโอกาสเมื่อไหร่ก็ให้คิดถึงบ้านเมือง คิดถึงประเทศคิดถึงอนาคตของตัวเอง และของพ่อแม่ และคนรุ่นก่อนอย่างลุง ที่ต้องพึ่งพาพวกน้องๆให้ดูแล ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ได้ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่ดี ประเทศต้องเปลี่ยนผ่านไปทีละยุค เราต้องฝากประเทศนี้ไว้ให้กับมือของลูกๆ หลานๆรุ่นปัจจุบันนี้ทุกคนขอให้ทุกคนมีแต่สิ่งที่ดีงามเกิดขึ้นในชีวิตประสบความสำเร็จในทุกสิ่ง ศึกษาให้ได้ความรู้สูงสุดและมีโอกาสที่จะทำความเจริญรุ่งเรืองตอบแทนพระคุณพ่อ แม่ ครู อาจารย์ ตอบแทนคุณแผ่นดินและทำให้ประเทศไทยของเรามีความเจริญตลอดไป
ชี้’ตั้งเข็ม-ทุ่มเท’ได้เป็นนายกฯแน่
จากนั้นตัวแทนนักเรียนถามว่ามีคำแนะนำอะไรให้กับชาวอัสสัมชัญที่อยากประสบความสำเร็จและอยากเป็นนายกฯ นายอนุทิน ตอบว่า สิ่งแรกต้องเชื่อฟังคุณพ่อ คุณแม่ เคารพคุณพ่อคุณแม่ เคารพครูบาอาจารย์รักษาวินัยใฝ่รู้เอาไว้ และต้องตั้งมั่นอยากเป็นอะไรต้องตั้งเข็มไปทางนั้น ทุ่มเทอย่างเต็มที่ก็จะประสบผลที่คาดหวังไว้ได้อย่างไม่ยาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การมาโรงเรียนอัสสัมชัญครั้งนี้ได้มีเพื่อนร่วมรุ่นประมาณ 20คน มารอต้อนรับนายกฯ และประธานรุ่นได้มอบรูปภาพ นายอนุทิน ในกรอบสีทองให้แก่ นายอนุทิน จากนั้นนายอนุทิน ได้ขึ้นเยี่ยมชมหอเกียรติยศแห่งโรงเรียนอัสสัมชัญ รวมถึงศูนย์การเรียนรู้วิจัยและพัฒนา นวัตกรรม เทคโนโลยีการบินและอวกาศ และเทคโนโลยีขั้นสูงของโรงเรียน พร้อมทดลองขับเครื่องบินจำลอง และยังได้ร่วมชมการเตรียมงานการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 31 ก่อนที่ นายอนุทิน ร่วมเล่นแซกโซโฟนกับวงดุริยางค์โรงเรียนอัสสัมชัญ (AC Band) ในเพลงสดุดีอัสสัมชัญ และเพลง Stars and Stripes Forever ซึ่งนายกฯเคยเป็นสมาชิกของวงดังกล่าวเมื่อครั้งที่ศึกษาอยู่
เคาะ3แคนดิเดตนายกฯ’สุริยะ’โผล่
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า ทางพรรคได้เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง โดยหากตามไทม์ไลน์ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย วางไทม์ไลน์ไว้ว่า จะยุบสภาภายในวันที่ 31 มกราคม 2569 เท่ากับว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายใน 45-60วัน ซึ่งไม่เกินสิ้นเดือนมีนาคม2569 แต่หากเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจยุบสภาก่อนไทม์ไลน์ ก็จะเลือกตั้งก่อน ซึ่งพรรคเพื่อไทย ก็มีความพร้อมดังที่เห็นว่า ได้ทยอยเปิดตัวผู้สมัครไปครบเกือบทุกเขตแล้ว ที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการก็คือเรื่องของลำดับระบบบัญชีรายชื่อ ที่รอจัดลำดับอีกครั้ง ส่วนที่สำคัญก็คือตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า ตัวหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็คือนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ จะไม่มีชื่อเป็นแคนดิเดต โดยจะทำหน้าที่ผู้นำพรรคในเรื่องการเลือกตั้ง และการจัดระเบียบภายในพรรคเท่านั้น
สะพัดทาบ’ณัฐพงศ์-ลูกเจ๊แดง’ด้วย
ทั้งนี้ เพื่อไทย จะเปิดตัวแคนดิเดตทั้ง 3 ราย โดยคาดว่า 1 ในนั้นจะมีชื่อ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ส่วนอีก 2 คน อยู่ระหว่างการทาบทาม ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง ว่าจะมีชื่อของ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ นักธุรกิจหนุ่ม สามีนางพินทองทา คุณากรวงศ์ ลูกสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและอีกคน คือ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล ลูกชายของนายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการทาบทาม และตัดสินใจขั้นสุดท้าย
ปชน.ให้ความสำคัญแก้รธน.-สแกมเมอร์
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจุดยืนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ในฐานะแกนนำฝ่ายค้าน เราพร้อมใช้ทุกกกลไกของสภาในการตรวจสอบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย โดยมีเงื่อนไขชัดเจนใน 3ข้อขั้นต่ำที่จะใช้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ 1. ถ้ารัฐบาลนี้อยู่เกินวันที่ 31ม.ค.2569 คือมีวันที่121แสดงว่าอยู่เกิน4เดือน ตามข้อตกลงในMOAซึ่งถ้าไม่มีการยุบสภา เราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที 2.หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 เพื่อปลดล็อกการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่สำเร็จในชั้นสภาสิ้นปี เราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเช่นกัน 3.ต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาวาระ2เป็นขั้นต่ำ เพื่อถ้าไปรอให้เปิดสมัยสามัญในวันที่ 12ธ.ค.แล้วค่อยมาพิจารณาวาระ2และต้องรอ15วัน ถึงจะพิจารณาวาระ3 ก็ไม่ทันสิ้นปี
ทำความเสียหายหนักเจอยื่นแน่นอน
“ดังนั้นการที่รัฐบาลตัดสินใจเปิด หรือไม่เปิดสมัยวิสามัญก็บ่งบอกได้ว่า รัฐบาลจริงใจเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญแค่ไหน หากไม่จริงใจ เราก็พร้อมใจกลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจและ3.2 เงื่อนไขเบื้องต้น ไม่ได้เป็นการตีเช็กเปล่าให้รัฐบาลบริหารประเทศได้ตามอำเภอใจ เพราะหากมีการดำเนินนโยบายหรือทำอะไรที่สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อประชาชน สะท้อนให้เห็นถึงความไม่โปร่งใส หรือมีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เราอาจจะยื่นอภิปรายได้อย่างเร็วที่สุดต้องรอเปิดสมัยประชุมนที่ 12ธ.ค.นี้
เมื่อถามว่า แบบนี้พรรคประชาชนเห็นว่า แก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญกว่าสแกมเมอร์หรือไม่ เพราะพอเป็นเรื่องนี้จะยื่นอภิปรายทันที นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราให้น้ำหนักทั้งคู่ เพราะท้ายที่สุด พรรคประชาชนเรายึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง เหตุผลที่ทำMOA เพราะคิดว่าถ้าสำเร็จผลประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน หรือปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเราเชื่อว่าจะได้กติกาและระบบการเมืองที่ตอบโจทย์ประชาชนมากขึ้น แต่เมื่อต้องใช้อย่างน้อย 2 เดือนข้างหน้า เพื่อให้MOAเป็นจริงเรามองว่า ถ้า2เดือนข้างหน้าต้องแลกมากับความเสียหายอย่างหนักต่อประชาชนในมิติอื่นๆ เราต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน
ป้อง’ศิริกัญญา’พยายามตรวจสอบอยู่
เมื่อถามว่าคนที่โดนวิจารณ์มากที่สุดคือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เพราะระบุว่ายังไม่เห็นความผิดที่ร้ายแรงของรัฐบาลจนต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรคประชาชนก็พยายามตรวจสอบและชี้ให้เห็นว่ามีข้อกังขาอะไรบ้าง เกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินงานของรัฐบาลและสิ่งที่พรรคสื่อสารออกมาชัดเจนที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องสแกมเมอร์ เราจะตรวจสอบต่อไป และเมื่อสภากลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 12 ธ.ค. เราจะมีข้อมูลเพิ่มเติมว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังและตอบข้อครหาของสังคมได้มากแค่ไหน รวมถึงผลประโยชน์ทับซ้อนและการเปิดสมัยวิสามัญหรือไม่ ซึ่ง 2 ข้อมูลนี้จะนำมาประกอบการตัดสินใจของพรรค
ปัดจ้องใช้กมธ.แก้รธน.คุมกติกาปท.
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะกรรมาธิการ(กมธ.) พิจารณารัฐธรรมนูญ (แก้ไขเพิ่มเติม) รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุมกมธ.แก้รัฐธรรมนูญที่สะดุดซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่า พรรคประชาชนพยายามควบคุมให้เป็นไปตามโมเดลที่เสนอ ว่า ไม่ได้เป็นธงแบบนั้น แต่แน่นอนว่าแต่ละฝ่ายมีความเห็นว่าข้อดีของร่างแก้รัฐธรรมนูญที่เสนอเป็นอย่างไร ยิ่งพอรัฐสภามีมติให้ร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลัก ทำให้ยิ่งต้องมีมีหน้าที่อธิบาย หลักการและเหตุตผลให้กมธ.เห็นคล้อยตาม
เมื่อถามว่า เหตุผลที่สัปดาห์ที่ผ่านมาลงมติไม่ได้ เพราะแต่ละฝ่ายยืนยันความเห็นคนละฝั่งหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องอะไรที่ลงมติไม่ได้ ที่ผ่านมาพยายามมองว่า อะไรที่ตรงกันและหากได้ฉันทามติจะเดินหน้าได้โดยไม่ลงมติ แต่หากจำเป็นต้องลงมติเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องทำเพื่อให้รู้ว่า แต่ละทางเลือกมีผู้ที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่า การประชุมวันที่ 12พ.ย.นี้ ประเด็นที่เห็นต่างกันจะหาข้อสรุปได้ในทางใดทางหนึ่ง
3พี่น้องเข้าเยี่ยม’แม้ว’อาการโอเค”
เวลา 10.20น.ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นครั้งที่15 สำหรับการเข้าเยี่ยมญาติ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคุมขังตามคำสั่งบังคับโทษ นับแต่วันที่ 9ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้สมาชิกครอบครัวชินวัตร ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออิ๊งค์ น.ส.พินทองทา ชินวัตร หรือเอม และนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค3 พี่น้องเป็นตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยมนายทักษิณ พร้อมกับนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนาย ความประจำตัวนายทักษิณ ชินวัตร
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออิ๊งค์ น.ส.พินทองทา ชินวัตร หรือเอม และนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค3 พี่น้องเดิน ได้เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม โดยใช้เวลาเข้าเยี่ยม 1 ชั่วโมง 10 นาที เวลา 11.30น.น.ส.แพทองธารและนายพานทองแท้ เปิดเผยเพียงสั้นๆว่า “ตอนนี้คุณพ่อโดยรวมอาการก็โอเค” ก่อนทั้งหมดจะขึ้นรถยนต์ส่วนตัวกลับออกไปทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี