วันอาทิตย์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
‘เทพไท’ฟาด‘อนุทิน’ตีไพ่โง่ ทำไทยเสียเปรียบ ตกเป็นเบี้ยล่าง
16 พฤศจิกายน 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป พร้อมเนื้อหาผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “เกมนี้ อนุทิน ตีไพ่โง่” ระบุว่า...
เกมนี้ อนุทิน ตีไพ่โง่
ผมน่าจะเป็นคนแรกๆ ที่ออกมาท้วงติงคุณอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิด ที่ห้วยตามาเรีย จังหวัดศรีสะเกษ และนายอนุทินก็ประกาศท่าทีขึงขังว่า จะยุติปฏิญญาสันติภาพ ที่ลงนามกันไว้ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา กับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนเป็นพยาน
ผมได้ท้วงติงคุณอนุทินว่า การประกาศยกเลิกปฏิญญาสันติภาพ ระวังจะเข้าทางฝ่ายสมเด็จฮุนเซน นายฮุนมาเนต ประเทศกัมพูชา เพราะในรายละเอียด4ข้อ ของปฏิญญาสันติภาพ มี2ข้อ คือการปราบแก๊งสแกมเมอร์ กับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ที่กัมพูชาไม่ต้องการ แต่ว่าในครั้งที่ผ่านมาต้องยอมเซ็น ก็เพราะประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ กดดันบีบบังคับ
เมื่อนายอนุทินประกาศฉีกปฏิญญาสันติภาพ สมเด็จฮุนเซนก็ชอบเข้าทางทันที จนล่าสุดก็เกิดความสับสน เพราะคนในรัฐบาล ตั้งแต่นายอนุทินพูดว่า ฉีกปฏิญญาสันติภาพ บางคนก็บอกว่าแค่ยุติ บางคนก็บอกว่าแค่ระงับชั่วคราว ซึ่งข้อเท็จจริงอยากจะให้ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายอนุทิน ออกมาประกาศให้ชัดว่า สถานะของปฏิญญาสันติภาพคืออะไร
หลังจากนั้นผมก็บอกกับนายกอนุทินว่าเมื่อเกิดเหตุละเมิดปฏิญญาสันติภาพ ควรจะโทรไปแจ้งต่อประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา กับนายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียน ในฐานะที่ลงนามเป็นสักขีพยานในปฏิญญาสันติภาพ แต่ว่านายอนุทินได้พูดมาโดยตลอดว่า จะไม่รีพอร์ต จะไม่รายงานต่อโดนัล ทรัมป์ อ้างถึงประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอธิปไตย ไม่อยู่ภายใต้อาณัติของประเทศใด หลายคนก็ตั้งคำถามว่า พูดเช่นนี้ไม่กลัวประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ จะโกรธแล้วตอบโต้ด้วยกำแพงภาษี จะมีปัญหาเรื่องการส่งออกหรือไม่
นายอนุทินพูดเรื่องนี้บนเวทีวปอ. บอกว่าถ้าหากค้าขายกับสหรัฐอเมริกาไม่ได้ ก็หาตลาดประเทศอื่นทดแทน ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก เพราะไทยกับอเมริกาเป็นคู่ค้ากันมาเกือบ 200 ปี จะหาตลาดที่ไหนมาทดแทนได้ เพราะเป็นตลาดใหญ่ ตลาดสำคัญของประเทศไทย แม้แต่คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ยังออกมายืนยันว่า ตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่ และตลาดสำคัญของประเทศไทย
แต่นายอนุทินก็พูดในลักษณะไม่แคร์ ไม่สนใจ หวังกระแสความนิยมของคนไทย ที่มีกระแสรักชาติสูงอย่างมาก ทำให้ดูขึงขังว่า นายกอนุทินเข้มแข็งเอาจริงเอาจัง ไม่ง้อใคร ไม่ตกเป็นเครื่องมือของใคร ไม่เป็นเบี้ยล่างของใคร แต่ถ้านายอนุทินได้โทรไปหาโดนัล ทรัมป์ นายอันวาร์ตั้งแต่วันเกิดเหตุ เพื่อชี้แจงว่า ฝ่ายกัมพูชาละเมิดปฏิญญาสันติภาพ ก็จะเปิดเกมเป็นฝ่ายรุกไม่ใช่ฝ่ายรับ และไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย ถ้าจะรายงานเรื่องนี้ต่อผู้นำทั้ง2ท่าน ก็เพราะผู้นำทั้ง2ท่าน เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับปฏิญญาสันติภาพ คือได้ลงนามไม่ใช่บุคคลภายนอก การรายงานกับโดนัล ทรัมป์ จะทำให้ประเทศไทยได้เปรียบในเชิงการทูต จะใช้การทูตหรือโลกล้อมกัมพูชา แต่เราเสียเปรียบนายฮุนมาเนต ได้ชิงโทรไปหาโดนัล ทรัมป์ และนายอันวาร์ก่อน จึงทำให้เราเห็นภาพว่าทางนายอันวาร์และโดนัล ทรัทป์ โทรกลับมาหานายอนุทินและนายฮุนมาเนต เพื่อแสดงความเป็นคนกลาง ในฐานะที่ได้ลงนามในปฏิญญาสันติภาพ
ในที่สุดทั้งโดนัล ทรัมป์ นายอันวาร์ ก็เข้ามายุ่งเกี่ยว มาเป็นคนกลางจนได้ นายอนุทินเขาต้องหมอบ และต้องยอมรับโดยดุษฎี จึงโพสต์เฟซบุ๊ก เล่าถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ เป็นข้อๆ 11 ข้อ เพื่อรายงานความคืบหน้าหรือการคุยกันกับประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์
ถ้าหากนายอนุทินเปิดเกมตามที่ผมแนะนำตั้งแต่แรก ประเทศไทยก็จะได้เปรียบ จะไม่ตกเป็นเบี้ยล่างของประเทศใด จึงฝากไปยังนายกอนุทินว่า การเดินเกมการเมืองทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ ต้องเดินแบบ2ขา อย่าทิ้งน้ำหนักหวังแต่คะแนนนิยมภายในประเทศอย่างเดียว คะแนนนิยมความยอมรับประเทศไทยในสังคมโลกของประชาคมโลก ต้องได้เปรียบด้วย
จึงถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นบทเรียนอันสำคัญ ที่นายอนุทินต้องเก็บไปวิเคราะห์ศึกษา เผื่อโอกาสหน้า ถ้าได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่2 ก็จะได้ไม่ต้องเสียเปรียบ หรือเสียโอกาสเหมือนครั้งที่ผ่านมา
.jpg)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี