‘อนุทิน’เฉียบ!ลงนามยกฎีกา ไม่อภัยโทษ‘ทักษิณ' ยันความเห็นเดิมติดคุก1ปี

‘อนุทิน’เฉียบ!ลงนามยกฎีกา ไม่อภัยโทษ‘ทักษิณ' ยันความเห็นเดิมติดคุก1ปี

วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

‘อนุทิน’เฉียบ!ลงนามยกฎีกา
ไม่อภัยโทษ‘ทักษิณ'
ยันความเห็นเดิมติดคุก1ปี
แจงออกระเบียบคุมพักโทษ
ปัดแกล้งเทวดาไม่ให้หาเสียง
ย้ำรบ.ชุดนี้ไม่คิดแก้แค้นใคร

นายกฯอนุทิน เผยลงนามยกฎีกาขออภัยโทษทักษิณ ตามเรื่องที่สมัย“ทวี สอดส่อง”เป็น รมว.ยุติธรรม ทำค้างไว้เสนอความเห็นติดคุกตามคำพิพากษา 1 ปี โต้แก้ระเบียบพักโทษ ไม่เกี่ยวสกัด ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ออกมาหาเสียง อย่าป้ายสีคนอื่นเหมือนที่ตัวเองชอบทำ

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 เวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการขออภัยโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ รัฐบาลได้นำขึ้นทูลเกล้าฯแล้วหรือยังว่า ได้เช็คแล้ว มันเป็นเรื่อง ที่ค้างมาตั้งแต่สมัยพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตรมว.ยุติธรรม ซึ่งเราก็ยืนตามนั้นไป


เมื่อถามต่อว่านายกฯได้ลงนามและส่งไปเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ได้ลงนามและส่งไป โดยบอกว่า เรื่องนี้ได้มีการดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้ว และพ.ต.อ.ทวีให้ยก จากนี้ก็เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งเราจะไปก้าวล่วงไม่ได้

เมื่อถามอีกว่าที่นายกฯบอกว่ายก หมายถึงการยกฎีกาใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พ.ต.อ.ทวี เสนอมาเมื่อถามต่อว่าทางพรรคเพื่อไทยมองว่า เป็นนัยทางการเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่มีครับ ผมไม่เหมือนเขา ผมทำตามเนื้อผ้า ทำตามกฎหมายทุกอย่าง ต้องไม่เอาสิ่งที่ตัวเอง ชอบทำแล้วไปเที่ยวป้ายว่าคนอื่นจะทำเหมือนตัวเอง ไม่ได้หรอก”

เมื่อถามอีกว่า มองว่าหากนายทักษิณออกมาช่วยหาเสียง กลับการไม่ได้ออกมาช่วยหาเสียงจะมีผลอะไรอะไรกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เวลาหาเสียงต้องถามนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสส.อ่างทอง คนอื่นคิดหรือเปล่าไม่รู้ แต่อย่างพวกตน เราเอาสิ่งที่เรามีอยู่ และศักยภาพไปทำให้ประชาชนมั่นใจ เราไม่เคยไปหาเสียง แล้วไปด่าคู่แข่งหรือไปด้อยค่าคู่แข่ง ไม่ต้องกังวลหรอกครับพรรคภูมิใจไทยไม่ทำเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

เปิดความเห็นของอดีตรมว.ยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ได้ลงนามเอกสารลับที่ ยธ0703.41307 เรื่อง นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ถึง นายกรัฐมนตรี

โดยมีรายละเอียด11หน้า และสาระสำคัญ คือ กระทรวงยุติธรรม พิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณฯ ได้ยอมรับคำพิพากษาของศาลฎีกาโดยยินยอมเดินทางกลับมารับโทษ และมีคุณงามความดีขณะดำรง ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยการดำเนินการโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนหลายโครงการ แต่อย่างไรก็ดี

เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งคดีหมายเลขแดงที่ บค 1/2568 ลงวันที่ 9 กันยายน 2568 ให้จำคุก นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณฯ 1 ปี จึงเห็นควร ยกฎีกา รายนี้เสีย ตามที่กรมราชทัณฑ์เสนอ จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทในโอกาสอันควร

ปัดกลั่นแกล้ง”ทักษิณ”

อีกประเด็นหนึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระทรวงยุติธรรม ออกระเบียบให้ทบทวนส่งตัวผู้ต้องขังนอกเรือนจำและการพิจารณาการพักการลงโทษ ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการสกัดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไม่ให้ออกมาช่วยหาเสียงเลือกตั้ง ว่า ตนไม่เชื่อว่าใครจะคิดแบบนั้น รัฐบาลนี้เข้ามา ไม่ต้องการที่จะให้ใครใช้อำนาจหน้าที่ไปกลั่นแกล้งใครคนใดคนหนึ่ง ที่เป็นคู่แข่ง ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ซึ่งพวกตนเคยโดนมา วันนี้เราเข้ามาตรงนี้ สิ่งที่เราควรจะทำ คือไม่ใช่ไปแก้แค้น โดนอะไรมาก็กระทำอย่างเดิมกลับไป มันไม่มีหรอก มีแต่จะเข้ามาแล้วทำให้มันเกิดความถูกต้องที่สุด กลไกของการใช้กฎหมายต้องเป็นไปตามกฎหมายจริงๆ ไม่ใช่เป็นไปตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ หรือผู้ที่มีบารมีต่างๆ สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ เรื่องนี้จะต้องแก้ไข ความตั้งใจที่เข้ามาจะต้องแก้ไขเรื่องนี้ และใครที่เข้ามาจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ที่มีความยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย

หมอวรงค์เตือนคุกรออยู่

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom ระบุว่า#ทักษิณจะไม่ได้สิทธิ์พักโทษจริงหรือ การที่อัยการสูงสุด ได้อุทธรณ์คดี 112 ของนายทักษิณ ถือว่าเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการกฎหมาย เพราะในอดีตที่ผ่านมาเราจะพบว่า คดีความผิดตามมาตรา 112 นั้นมีการอุทธรณ์เกือบทุกคดี ปัญหาที่สร้างความสับสนให้กับสังคมคือ ผลของการอุทธรณ์คดี112นี้ จะทำให้นายทักษิณพักโทษไม่ได้จริงหรือ ซึ่งพวกเราต้องมาดูข้อเท็จจริงของหลักเกณฑ์การพักโทษในหลักการทั่วไปการพักโทษถือว่าเป็นประโยชน์ ที่นักโทษได้ประกอบคุณงามความดี และอย่างน้อยๆนักโทษรายนั้น ต้องถูกจำคุกมาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือไม่น้อยกว่า 6 เดือน

พักโทษมะเร็งระยะสุดท้าย

ส่วนการพักโทษ ก็จะมีเกณฑ์เจ็บป่วยหนักหนัก เช่นเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เป็นเอดส์ระยะสุดท้าย ไตวายเรื้อรัง เป็นต้น หรือมีความพิการที่ดูแลตนเองไม่ได้ ซึ่งนายทักษิณไม่เข้าเกณฑ์นี้อยู่แล้วอดีตที่ผ่านมานายทักษิณ จะได้รับการพักโทษในกรณี “มีอายุเกิน 70 ปีและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อย” ถ้าประเมินคะแนนขีดความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง”ระยะยาว”ของผู้สูงอายุ จากคะแนนเต็ม 20 ต้องได้คะแนนไม่เกิน 11

นั่นหมายความว่านายทักษิณ ต้องมีปัญหากินข้าว ล้างหน้าแปรงฟัน ลุกจากที่นอน การใช้ห้องน้ำ การเคลื่อนที่ภายในบ้าน การสวมใส่เสื้อผ้า การขึ้นลงบันได การอาบน้ำ การกลั้นอุจจาระ และการกลั้นปัสสาวะ

ถ้านายทักษิณมีปัญหา ความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองจริงๆ และต้องเป็นปัญหาระยะยาว นายทักษิณก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ สำหรับนักโทษที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ไม่เกี่ยวกับคดีมาตรา 12 นี้

แต่การพักโทษกรณีพิเศษที่ผ่านมา มีการตั้งข้อสงสัยว่า เป็นการประเมินคะแนนให้ต่ำ ที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงหรือไม่ ดังนั้นรอบนี้ถ้านายทักษิณจะได้สิทธิ์นี้ และมีการประเมินคะแนนให้ต่ำเพื่อช่วยเหลือ ผมบอกได้เลยว่าคุกรออยู่

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top