วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
"เพื่อไทย"ลั่น ยื่นซักฟอก ม.151 ต้องตามใจ"จุลพันธ์"ไม่ใช่"อนุทิน" ไม่มีคุยเตรียมยื่น 152 เหตุเป็นฝ่ายค้านมีอำนาจตรวจสอบรัฐบาล ยันแค่ยื่นญัตติก็ยุบสภาหนีไม่ได้ ชี้ไม่มีอะไรใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ก็พร้อมชี้แจง แต่ถ้าเป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจมาตรา 151 ก็พร้อมยุบสภามองเรื่องนี้อย่างไร และพรรค พท.จะยื่นหรือไม่ ว่าตนเข้าใจว่านายกรัฐมนตรีตอบคำถามสื่อมวลชน ซึ่งอำนาจในการยุบสภาได้หรือไม่ได้ ท่านใช้คำว่าเอาตามอนุทิน แต่ตนมองว่าน่าจะเข้าใจผิด เพราะกระบวนการในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ถูกกำหนดชัดว่าหากยื่นแล้ว และใช้คำว่าเสนอญัตติไม่ใช่การบรรจุญัตติสู่สภา จะไม่สามารถยุบสภาได้ ฉะนั้น จะไม่มีข้อบังคับการประชุมหรืออะไรที่ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า เจตนารมณ์ของ รัฐธรรมนูญชัดเจนในเรื่องนี้ กำหนดว่าเมื่อมีการเสนอญัตติแล้วจะยุบสภาไม่ได้ เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ดังนั้น คงไม่ใช่การตามใจนายอนุทิน แต่กระบวนการในการยื่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 หรือ 152 นั้น อันนี้ต้องตามใจจุลพันธ์ ต้องตามใจพวกตน เพราะพวกตนเป็นฝ่ายค้าน เรามีหน้าที่ในการตรวจสอบ ซึ่งกระบวนการตรวจสอบต้องมาดูว่า ความผิดและความเสียหายต่อประเทศอยู่ในขั้นไหน
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ถ้าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ก็เป็นเพียงการเสนอแนะ รับฟังความคิดเห็น ซึ่งหากตนถามกลับว่าความเสียหาย ความในเรื่องการไปแก้ไขคดีความ เขากระโดงและเรื่องฮั้ว สว.หากตนให้ข้อเสนอแนะไป เขาจะแก้หรือไม่ กระบวนการในการทุจริตคอรัปชั่น หากมีเกิดขึ้นแล้วพวกตนเสนอแนะไป มันจะหยุดหรือไม่ ฉะนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องของการเสนอแนะเพียงอย่างเดียว มันต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ
"กระบวนการพวกนี้เป็นอำนาจของฝ่ายค้าน และเป็นอำนาจของ สส.ในการเสนอญัตติ ตรงนี้ขอให้พวกผมดำเนินการดีกว่า ท่านในฐานะที่เป็นรัฐบาล เมื่อถูกตรวจสอบแล้ว ก็ควรจะเปิดให้มีการอภิปราย รับฟังตอบข้อซักถามและข้อสงสัย หากท่านตอบได้กระจ่างชัดแน่นอนว่าคะแนนจะเป็นของท่าน เมื่อเดือนหน้าสู่การเลือกตั้งท่านประสบชัยชนะอย่างแน่นอน เราก็อยากให้กระบวนการตามประชาธิปไตยเดินไปตามครรลองของมัน" นายจุลพันธ์ กล่าว
เมื่อถามถึง กรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่ารัฐบาลเพิ่งทำงานมาเดือนกว่า นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในขณะที่รัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นสู่ตำแหน่ง พรรค ภท.ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพียงแค่สองสัปดาห์พรรค ภท.ก็ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพียงแต่วันนั้นเสียงไม่พอ รวบรวมเสียงจากพรรคประชาชนยังไม่ได้ ประจวบกับเหตุการณ์ที่ น.ส.แพทองธาร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กระบวนการในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจึงได้ยุติและหยุดยั้งไป
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น ตนจึงดูเรื่องความเสียหายต่อประเทศเป็นหลัก และแน่นอนว่าเราก็มีความเป็นห่วงในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ต่างจากพรรคการเมืองอื่น ในชั้นคณะกรรมาธิการแล้วก็ทำงานอย่างเต็มที่ แต่เรื่องการตรวจสอบรัฐบาล คงไม่ได้เอาเรื่องอื่นมาเป็นปัจจัย หากเกิดความเสียหายต่อประเทศ หน้าที่ของพวกตนในการตรวจสอบคือทำงานได้เต็มที่ในสภา
เมื่อถามว่า หากดูไทม์ไลน์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 คือช่วงสิ้นเดือนธันวาคม และตามกรอบยุบสภาคือช่วงสิ้นเดือนมกราคม จึงเหลือประมาณ 1 เดือน กรอบเวลาในการยื่นอภิปรายจะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ปัญหามันคงไม่ใช่เรื่องกรอบเวลา ต่อให้เหลือเวลา 3 วัน แล้วมีความเสียหายต่อประเทศ มีการทุจริตคอรัปชั่น แล้วจะให้พวกตนหยวนๆ ไปเถอะ เราคงทำไม่ได้ เราก็ต้องตรวจสอบก็แค่นั้น หากพวกตนไม่มีหลักฐานที่ดีพอ ไม่มีข้อมูลเป็นที่ประจักษ์ สุดท้ายความเสียหายก็จะเกิดกับพวกตนเอง
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ฉะนั้น เราจึงต้องระมัดระวัง และตอนนี้เราก็อยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ได้มากเพียงพอแล้ว มีการตั้งทำงานภายในคณะทำงานภายในขึ้นมาเพื่อที่จะเตรียมการในเรื่องนี้ เชื่อได้ว่ากระบวนการที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและเราจะทำให้ดีที่สุด เพื่อชี้ให้เห็นถึงประเด็นปัญหา ที่มีรัฐบาลนี้อยู่ต่อไป ส่วนหากท่านจะตัดสินใจยุบสภา นั่นก็เป็นอำนาจของท่าน ตนบังคับไม่ได้ และยืนยันว่าวันที่ตนไปคุยกับพรรคประชาชน ก่อนที่เขาจะลงมติเลือกพรรคภท. เราก็บอกว่าพวกตนจะยุบสภาเลย หมายความว่าพวกตนพร้อม
เมื่อถามว่า หากจะยื่นอภิปรายนั้น จะจำเป็นต้องให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ผ่านไปก่อนใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ตอบในจุดนี้ และขอให้มีการหารือ เพราะได้ฝากกับทีมยุทธศาสตร์ของพรรค ในเรื่องการเดินการยื่นญัตติ ในตอนนี้ต้องมีการคุยกัน อย่างละเอียดและต้องดูจังหวะเวลา ที่มีความเหมาะสมที่สุด ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปกลับมา
ถามย้ำว่า จะเป็นการยื่นญัตติอภิปรายตามมาตรา 151 แน่นอนไม่ใช่ 152 ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดแบบนั้น แต่ขณะนี้ไม่ได้มีการเตรียมที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ผู้สื่อข่าวได้แซวว่า พูดขนาดนี้ ก็บอกมาเลยว่ายื่นญัตติอภิปรายตามมาตรา 151 ทำให้นายจุลพันธ์หัวเราะแต่ไม่ได้ตอบอะไร
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี