วันอังคาร ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568
“บิ๊กโจ๊ก” โผล่เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ประกาศจุดยืนชัดเจน ยังอยู่ ไม่หนี พร้อมสู้ทุกคดี” สวนกลับโดนฟ้องคดีปิดปากหลังเปิดโปงเรื่องส่วยเว็บพนัน ปัญหาเรื้อรังที่ตำรวจทั้งประเทศรู้กันดี ขู่แฉข่าวใหญ่
วันที่ 2 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้ากองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)เพื่อพบพนักงานสอบสวนพร้อมประกาศจุดยืนชัดเจนว่า “ยังอยู่ในพื้นที่ ไม่ได้หลบหนี” และมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจหลังมีข้อมูลว่ามีการร้องทุกข์กล่าวโทษตนในความผิดฐานหมิ่นประมาทสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า เช้าวันเดียวกันทราบว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง จตช. เข้าแจ้งความเอาผิดตน แต่ยืนยันว่า “ยังไม่มีหมายเรียก ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแม้แต่ข้อหาเดียว” การเดินทางมาที่ บก.ป. จึงเป็นการมาปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ยืนยันว่ายินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมต่อสู้คดีทุกประเด็น
และคดีนี้เป็นลักษณะ “แจ้งความเพื่อปิดปาก” เพราะตนเพียงแสดงความเห็นโดยอ้างอิงข้อมูลที่มีอยู่จริง และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ พร้อมย้ำถ้อยคำที่เป็นกระแสว่า “ตำรวจคือองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุด” ซึ่งมาจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏแล้วว่ามีตำรวจจำนวนมากเข้าไปเกี่ยวพันกับส่วยเว็บพนัน ทั้งระดับนายตำรวจ 30 กว่าราย รวมถึงกลุ่ม 200 กว่ารายที่ถูกเปิดเผย และมีชื่อระดับบิ๊กตำรวจอยู่ในนั้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ชี้ว่า หากย้อนกลับไปดูคลิปเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมาในรายการหนึ่ง จะเห็นว่าตนไม่ได้เอ่ยพาดพิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นการเฉพาะ แต่สะท้อนปัญหาเชิงระบบที่ประชาชนรับรู้มานาน พร้อมท้วงติง ผบ.ตร. ว่า ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้านก่อนฟ้องร้อง เพราะข้อกล่าวหานี้อาจย้อนกลับไปสู่ผู้กล่าวหาเอง พร้อมตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงไม่ไปแจ้งความ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร ซึ่งแสดงความเห็นแรงกว่า โดยระบุว่า “ตำรวจไทยไม่ใช่องค์กรอาชญากรรมใหญ่ที่สุด แต่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยซ้ำ” และย้ำว่าสาเหตุที่ถูกเล่นงานเพราะ “เป็นตัวจี๊ด รู้ข้อมูลมากที่สุด” พร้อมประกาศว่าจะเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างตามลำดับในเร็ว ๆ นี้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า หากมีหมายเรียก ตนจะมาทันที เพราะคดีนี้ไม่มีสิทธิคุมตัวหรือออกหมายจับ เนื่องจากอัตราโทษไม่เกิน 3 ปี “เต็มที่คือหมายเรียก” แต่ขอสิทธิรับรู้ข้อกล่าวหาก่อนให้ปากคำ พร้อมเผยว่าตนได้ประสานผู้บังคับการกองปราบแล้วว่าจะเข้าพบในวันใดบ้าง
ส่วนกรณีที่ตำรวจบางนายระบุว่า หาก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ตนจะหลบหนีนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้อนถามว่า “คนที่จะหนีไม่ใช่ผม” พร้อมระบุว่ารู้ข้อมูล “พิกัดบ้านที่อังกฤษ” ของบุคคลสำคัญบางราย และเชื่อว่า “ความจริงจะค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาเอง”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังเปิดเผยว่า ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาแม้จะเงียบ แต่เป็นช่วงเวลาที่ใช้เก็บข้อมูลอย่างละเอียด “เหมือนนักมวยซ้อมทุกวัน วันนี้ถึงเวลาชกจริงแล้ว” ขณะเดียวกันยืนยันว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานสอบสวนรายใดทำถูก ทำผิด และเตรียม “รวมยอดเปิดข้อมูลครั้งใหญ่” ภายในสัปดาห์หน้า
ในส่วนกระแสว่าการปรากฏตัววันนี้เหมือนเป็นการ “เหยียบถิ่น” ของผู้ที่เคยกล่าวหาว่าตนจะหลบหนีออกนอกประเทศ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า บุคคลเหล่านั้นก็เพียงทำหน้าที่ตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณของตนเอง ไม่ว่าจะถูกหรือผิด เพราะได้รับ “ตั๋วช้าง” มาแล้ว พร้อมย้ำว่าการต่อสู้ทั้งหมดนี้ต้องยืนอยู่บนหลักกฎหมาย ส่วนความขัดแย้งส่วนบุคคลให้ไว้ทีหลัง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึงปัญหาเว็บพนัน-สแกมเมอร์ว่าเป็นเพียงลิเกโรงหนึ่งเพราะไม่มีมาตรการแก้ปัญหาเป็นรูปธรรม ทั้งนายกรัฐมนตรีและ ผบ.ตร. จึงไม่สามารถจัดการปัญหานี้ได้จริง ขณะที่เรื่องส่วยตำรวจก็ยังถูกตำรวจร้องเรียนจากทั่วประเทศแต่ไม่ได้รับการแก้ไข
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่าหลังจากแสดงตัวที่ บก.ป. แล้ว จะเดินทางต่อไปยังศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการต่าง ๆ ก่อนจะลงพื้นที่ภาคใต้ในช่วงค่ำเพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมย้ำในตอนท้ายว่า “ไม่ได้หนี และพร้อมเข้าสู่กระบวนการทุกขั้นตอน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี