วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
"ไชยชนก" ถอดบทเรียนมหาอุทกภัยใต้ เดินเครื่องยกระดับระบบเตือนภัยไทยสู่ระดับโลก ใช้ดาวเทียม–AI เพิ่มความแม่นยำ เร่งบูรณาการข้อมูล พร้อมจัดงบฯ ฟื้นเครือข่ายวิทยุสื่อสาร ตามรอยในหลวง ร.9
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.68 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยภาคใต้ และการดำเนินโครงการความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ ระหว่างกรมอุตุนิยมวิทยา กับ Tomorrow.io เพื่อยกระดับระบบการเตือนภัยของประเทศไทย เพราะการใช้เงินในการฟื้นฟูเยียวยาหลังเกิดภัยพิบัติมักมีจำนวนมหาศาลกว่าเงินที่ใช้ในการป้องกันเสมอ จึงถึงเวลาที่ต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันและวางแผนจัดการภัยพิบัติในอนาคต
นายไชยชนก กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังก้าวไปสู่ New Normal ของสภาวะอากาศของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งข้อมูลจากหน่วยงานนานาชาติอย่าง NOAA ที่ระบุว่าปี 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมา แลพบสัญญาณการละลายน้ำแข็งในระดับประวัติการณ์ สะท้อนว่าความแปรปรวนของภูมิอากาศจะทวีความรุนแรงและคาดการณ์ได้ยากขึ้น เมื่อเข้ารับตำแหน่งในวันแรก ได้มอบนโยบายชัดเจนให้กรมอุตุนิยมวิทยา ยกระดับเครื่องมือพยากรณ์อากาศและปรับระบบการนำเสนอข้อมูลใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ประเทศไทยพร้อมรับภัยที่รุนแรงและผิดรูปแบบกว่าอดีต
.jpg)
นายไชยชนก กล่าวว่า หลังการศึกษาจากหลายฝ่าย ทีมงานพบว่า Tomorrow.io เป็นระบบพยากรณ์อากาศที่ดีที่สุดในโลกเวลานี้ ซึ่งได้มีการประสานกับญี่ปุ่นทั้งเรื่องแผ่นดินไหวสึนามิ ภูเขาไฟใต้ทะเล และน้ำท่วม ซึ่งก็ขอโทษปรชาชนที่ดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ทันท่วงที ทำให้รัฐบาลและพวกเราทุกคนได้ตระหนักและปรับปรุงความคิดให้เป็นวาระแห่งชาติ ถือเป็นนิมตรหมายที่ดีในการรับมือกับวันข้างหน้า ซึ่งปัจจุบัน Tomorrow.io เป็นระบบการพยากรณ์อากาศ อันดับหนึ่งของโลก โดยใช้เทคโนโลยี Low-Orbit Satellite คือดาวเทียมวงโคจรต่ำ ปัจจุบันมี 11 ดวง 9 ดวง ใช้เทคโนโลยี Microwave Sounder ในการตรวจสอบสภาวะอากาศและความชื้นอย่างละเอียด สามารถทะลุเมฆได้ และจะเพิ่มความละเอียดในการมีข้อมูลพยากรณ์ทุก 3 เดือน
นอกจากนี้ แพลตฟอร์มจะใช้ AI ในการประมวลผลและวิเคราะห์ ข้อมูลทั้งหมดจากดาวเทียม ข้อมูลจากกรมอุตุฯ, สทนช. และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อจำลองสถานการณ์ได้หลากหลายมิติในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมแสดงข้อมูลแบบ Confidence Level เพื่อให้รู้ระดับความมั่นใจของการเกิดเหตุเป็นเปอร์เซ็นต์ ทำให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจและประชาชนสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เช่น โอกาสน้ำท่วม ฟ้าผ่า ลมพายุ ฯลฯ ได้ในระดับรายตำบล รายจังหวัด และในอนาคตสามารถวิเคราะห์เจาะจงเป็นพื้นที่ได้แม่นยำมากขึ้น เช่น ตลาด ให้ประกอบการตัดสินใจว่าวันนี้ควรจะออกไปหรือไม่ ฝนจะตก ฟ้าจะผ่าหรือไม่ ซึ่งระบบนี้จะไม่ทดแทนการทำงานของทุกหน่วยงานที่มีอยู่ แต่จะทำให้ทุกฝ่ายมีชุดข้อมูลร่วมที่ละเอียดขึ้นและวิเคราะห์ตรงกัน
"ช่วงนี้จะทดลองใช้ระบบร่วมกับ Tomorrow.io เป็นเวลา 3 เดือนแรกโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อพิสูจน์ศักยภาพว่าเหมาะสมกับระบบไทยจริงหรือไม่ และตรวจสอบว่าข้อมูลไม่กระทบความมั่นคง ก่อนจะนำเข้า ครม.เพื่อพิจารณาสัญญาระยะยาว โดยตั้งเป้าให้โมเดลภาคใต้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ นี้ เพื่อให้ทันฤดูฝนปีหน้า" รมว.ดีอี กล่าว
นายไชยชนก ยังกล่าวถึงการถอดบทเรียนด้านการสื่อสารในสถานการณ์วิกฤตที่ไฟฟ้าดับ ทำให้การสื่อสารหลักและสำรอง อินเทอร์เน็ต ดาวเทียม ล้มเหลว สิ่งที่ยังใช้งานได้คือวิทยุสื่อสาร (วอ) ของอาสากู้ภัยและเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยพระราชทานความรู้ไว้ว่า “ในสถานการณ์วิกฤตวอจะสำคัญที่สุด” และก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว โดยกระทรวงดีอี เตรียมของบประมาณสนับสนุนกลุ่มเครือข่ายวิทยุ VHF ซึ่งเป็นวีรบุรุษที่ช่วยเชื่อมต่อข้อมูลในพื้นที่วิกฤต และไม่ได้พึ่งพาเสาสัญญาณหรือไฟฟ้า ก็จะสนับสนุน และส่งเสริมอย่างเต็มที่ เพราะเขาคือเครือข่ายหลักในการช่วยเหลือในสถานการณ์วิกฤต ต้องชื่นชมอย่างสูง
นายไชยชนก ยังกล่าวถึงการบูรณาการข้อมูล ว่า ต้องเร่งให้ทุกหน่วยงานมีช่องทางการเชื่อม API เข้าสู่ศูนย์กลางข้อมูลของดีอี เพื่อให้สามารถกดปุ่มเปิด-ปิดการเชื่อมโยงข้อมูลในเวลาเกิดภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงที ไม่ใช่ต่างคนต่างหวงข้อมูลในสภาวะปกติ และต้องมีการอัปเดตกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาอุปสรรคเรื่องการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่เดิมระบุว่า หากภัยไม่เกิดประกาศไม่ได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการ ซักซ้อมสถานการณ์จริงให้บ่อยขึ้น เพื่อลดความสับสนและวิตกกังวล ในการปฏิบัติงานเมื่อเกิดภัยพิบัติรุนแรง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี