ฟันเปรี้ยง!‘นักวิชาการ’ยก 5 ประเด็น ชี้ชัดๆทำไม‘เขมร’เปิดศึก‘ไทย’รอบใหม่

ฟันเปรี้ยง!‘นักวิชาการ’ยก 5 ประเด็น ชี้ชัดๆทำไม‘เขมร’เปิดศึก‘ไทย’รอบใหม่

วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 15.28 น.

‘นักวิชาการ’ยก 5 ประเด็น ฟันเปรี้ยง‘เขมร’เปิดศึก‘ไทย’รอบใหม่ วนลูปเดิมเบี่ยงประเด็น หลังถูกแฉปม‘ทุ่นระเบิด’พ่วง‘เครือข่ายสแกมเมอร์’ถูกยึดทรัพย์ ฉุดคะแนนนิยมในประเทศทรุดหนัก

8 ธันวาคม 2568 ผศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น อาจารย์ประจำภาควิชาการบริหารและจัดการการเมือง วิทยาลัยพัฒนามหานคร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวให้ความเห็นกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชากลับมาระอุอีกครั้งหลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แนวชายแดนไทยว่า เหตุปะทะบริเวณภูผาเหล็ก–พลาญหินแปดก้อน อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ไม่ได้เป็นเพียงเหตุการณ์เฉพาะหน้า แต่สะท้อน มุขเก่าในขวดเก่า ที่รัฐบาลกัมพูชามักใช้เป็นประจำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาที่ตนเองกำลังเผชิญ


ผศ.ดร.เชษฐา กล่าวต่อว่า รัฐบาลกัมพูชามีพฤติกรรม นักเบี่ยงประเด็น ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่เจอสถานการณ์เสียเปรียบ ทั้งในเวทีระหว่างประเทศ เศรษฐกิจภายในประเทศ และแรงกดดันด้านภาพลักษณ์จากนานาชาติ

ประการแรกชี้ว่า เหตุปะทะชายแดนอาจถูกใช้เพื่อเบี่ยงประเด็นจากกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย นำคลิปหลักฐานการวางทุ่นระเบิดของกัมพูชาในเขตประเทศไทยไปยืนยันต่อที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล การเปิดโปงดังกล่าวกระทบภาพลักษณ์ของกัมพูชาอย่างหนัก ทั้งต่อสายตานานาชาติและโครงการช่วยเหลือจากต่างประเทศ กัมพูชาจึงมีแรงจูงใจในการสร้างสถานการณ์ใหม่ เพื่อเบนความสนใจและพยายามสร้างภาพว่าตนเองเป็น ฝ่ายถูกรังแก

ประการที่สอง ความนิยมทางการเมืองในประเทศกัมพูชายังผันผวน รัฐบาลจึงต้องใช้ ภัยคุกคามจากภายนอก เป็นเครื่องมือระดมความรู้สึกรักชาติของประชาชน การสร้างประเด็นปะทะชายแดนกับไทยช่วยให้รัฐบาลมีเวทีแสดงบท ผู้พิทักษ์ชาติและใช้ความขัดแย้งมาสร้างความชอบธรรมให้ตนเอง ท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองภายในประเทศ

ประการที่สาม กัมพูชากำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจซบเซา แรงงานจำนวนมากที่เคยทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะในไทย ต้องกลับบ้าน ขณะที่รัฐบาลไม่สามารถจัดหางานรองรับได้เต็มที่ การปิดด่านชายแดนต่อเนื่องส่งผลให้การค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนชะลอตัวแรงงานถูกเลิกจ้างเพิ่มขึ้น รายได้ภาคท่องเที่ยวไม่ฟื้นตามเป้า ภายใต้แรงกดดันเรื่องปากท้อง รัฐบาลจึงมีแรงจูงใจใช้ประเด็นความมั่นคงมาช่วยกลบเสียงวิจารณ์ด้านเศรษฐกิจ

ประการที่สี่ ดร.เชษฐา กล่าวถึงปัจจัยด้านภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่ว่ากัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการของขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ จนถูกขนานนามว่า “Scambodia” พร้อมทั้งถูกกดดันจากหลายประเทศ ภายหลังมีการทลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์และอายัดทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลในภูมิภาค รวมทั้งในไทย การสร้างประเด็นปะทะชายแดนจึงอาจถูกใช้เพื่อเบี่ยงความสนใจของทั้งประชาชนในประเทศและสื่อต่างชาติ จากเรื่องอาชญากรรมไซเบอร์ มาสู่เรื่อง ศักดิ์ศรีแห่งชาติแทน

ประการที่ห้า นักวิชาการ ได้โยงไปถึงมิติภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับเวียดนาม กรณีการพัฒนาเส้นทางและโครงสร้างพื้นฐานของเวียดนามไปยังเกาะฟูก๊วก ซึ่งกัมพูชาอ้างสิทธิ์ทางประวัติศาสตร์ ถือเป็นประเด็นอ่อนไหวภายในกัมพูชา และอาจถูกตีความว่า รัฐบาลกัมพูชา สกัดเวียดนามไม่อยู่จนเสี่ยงถูกโจมตีว่าอ่อนแอเกินไปต่อประเทศเพื่อนบ้าน การทำให้สถานการณ์ชายแดนกับไทยร้อนแรงขึ้น จึงอาจเป็นกลยุทธ์เพื่อลดแรงกดดันจากกรณีเวียดนาม และเปลี่ยนเป้าความไม่พอใจของประชาชนไปยังอีกทิศทางหนึ่ง

“การปะทะบริเวณชายแดนครั้งล่าสุด ไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญหรือเหตุเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่เป็น มุขเก่าในพื้นที่เก่า ที่สะท้อนรูปแบบการเมืองแบบเดิมของรัฐบาลกัมพูชา ที่มักใช้ความขัดแย้งชายแดนเป็นเครื่องมือเบี่ยงประเด็น ฟื้นคะแนนนิยม และต่อรองในเวทีภูมิรัฐศาสตร์ใครที่ติดตามการเมืองกัมพูชามาตลอด ย่อมมองออกว่า นี่คือรูปแบบการเมืองซ้ำๆ ของรัฐบาลกัมพูชา นักเบี่ยงประเด็นทางการเมืองตัวยงของอาเซียน” ผศ.ดร.เชษฐา ระบุ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top