ผลทางกฎหมายหลัง‘ยุบสภา’ รัฐธรรมนูญจำกัดอำนาจ‘ครม.’ 4 เรื่อง
12 ธันวาคม 2568 ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อาจารย์พิเศษผู้บรรยายวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความ และกฎหมายพยานหลักฐาน ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รามคำแหง นิด้า และแม่ฟ้าหลวง ให้ความเห็นทางกฎหมายกรณี “ผลตามกฎหมายเมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร” ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...
อำนาจในการยุบสภาผู้แทนราษฎรเป็นอำนาจของพระมหากษัตริย์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 103 วรรคหนึ่ง โดยการยุบสภาให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 103 วรรคสอง
ผลตามกฎหมายกรณีทั่วไปเมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร มีดังนี้
1. สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (1)
2. ภายใน 5 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรใช้บังคับ คณะกรรมการการเลือกตั้งต้องประกาศกําหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรใช้บังคับ โดยวันเลือกตั้งต้องกําหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 103 วรรคสาม
ดังนั้น กรณีที่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2568 คณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปภายในวันที่ 17 ธันวาคม 2568
โดยวันเลือกตั้งทั่วไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนด อย่างเร็วที่สุดจะเป็นวันที่ 26 มกราคม 2569 และอย่างช้าที่สุดจะเป็นวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2569
และเมื่อพิจารณาจากธรรมเนียมปฏิบัติที่จะกำหนดวันเลือกตั้งให้ตรงกับวันอาทิตย์เพื่อความสะดวกของประชาชนในการมาใช้สิทธิเลือกตั้ง
หากพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2568 ดังกล่าว วันเลือกตั้งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด จะเป็นวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 และวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569
3. ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 117 วรรคหนึ่ง
4. ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมหรือร่างพระราชบัญญัติที่รัฐสภายังมิได้ให้ความเห็นชอบ หรือที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้วแต่พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วย หรือเมื่อพ้น 90 วันแล้วมิได้พระราชทานคืนมา ให้เป็นอันตกไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 147 วรรคหนึ่ง
5. รัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตําแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 วรรคหนึ่ง (2)
ผลตามกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร มีดังนี้
1. คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตําแหน่งเนื่องจากมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคหนึ่ง (1)
2. คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตําแหน่งเนื่องจากมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร และต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคหนึ่ง (1) ดังกล่าว ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ดังต่อไปนี้
(1) ไม่อนุมัติงานหรือโครงการ หรือกระทำการที่มีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป
(2) ห้ามแต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการซึ่งมีตําแหน่งหรือเงินเดือนประจําหรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือพ้นจากตําแหน่ง หรือให้ผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ การเลือกตั้งก่อน
(3) ห้ามอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อน
(4) ห้ามใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทําการใดอันอาจมีผลต่อการเลือกตั้ง และห้ามกระทําการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกําหนด
มีข้อสังเกตว่า สำหรับกรณีที่คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 วรรคหนึ่ง (1) อันเป็นผลจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเสียงข้างมากให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) เนื่องจากมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง นั้น คณะรัฐมนตรีรักษาการที่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เป็นข้อห้ามทั้ง 4 ข้อ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ดังกล่าว
ซึ่งแตกต่างจากกรณีที่คณะรัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตําแหน่งเนื่องจากมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 วรรคหนึ่ง (2)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี