ผบ.ทบ.ลั่นคำสั่งไม่เปลี่ยนแปลง  เดินหน้ารบต่อ!  บี้เขมรหยุดคุกคามเป็นปรปักษ์

ผบ.ทบ.ลั่นคำสั่งไม่เปลี่ยนแปลง เดินหน้ารบต่อ! บี้เขมรหยุดคุกคามเป็นปรปักษ์

วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ผบ.ทบ.ลั่นคำสั่งไม่เปลี่ยนแปลง

เดินหน้ารบต่อ!

บี้เขมรหยุดคุกคามเป็นปรปักษ์

รบ6วันเขมรดับ221นาย

ยึดสำเร็จ4ที่หมายสำคัญ

กองทัพฉะเขมรไม่หยุดยิง-ส่งโดรนป่วนชายแดนไทยต่อเนื่อง ลั่นต้องจัดการกัมพูชาให้สิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ก่อนถึงจะเจรจากันจริงๆ ย้ำดำรง 2 เป้าหมาย “สถาปนาความมั่นคงชายแดน- ทำลายขีดความสามารถทางทหาร” ด้านทบ.เผยกัมพูชาดับ 221 นาย ทำลายอาวุธ-ยุทโธปกรณ์ได้อื้อ  ด้านทภ.2สรุปชายแดนตึงเครียดต่อเนื่อง ไทยโต้กลับตามสัดส่วนเขมรระดมโจมตี สุดท้ายทหารไทยยิงคลังกระสุน-ฐานบัญชาการทหารเขมรที่ปราสาทตาควายกระจุย ยึด 4 ที่หมายได้ตามผน ผบ.ทบ.ประกาศคำสั่งไม่เปลี่ยนแปลง เดินหน้ารบตามแผน สั่งทุกหน่วยทำลายขีดความสามารถทางทหารเขมรให้สิ้นซาก ที่จ.ตราดปะทะเดือดแต่เช้ามีด นาวิกโยธินยึดคืนพื้นที่บ้านสามหลังปักธงชาติไทยได้สำเร็จ เขมรพล่านยิงโจมตีเพื่อเอาคืนให้ได้

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พลเรือตรีสุรสันต์ คงศิริโฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงสรุปสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ทหารกัมพูชายังระดมอาวุธหนักยิงเข้ามาฝ่ายไทยไทยจําเป็นต้องตอบโต้ตามกฎการปะทะและกฎหลักสากล


เขมรไม่หยุดยิง-ส่งโดรนป่วนตราด

โดยตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00 น วันที่ (13 ธันวาคม)เป็นต้นมาจนถึงเช้าวันนี้ (14 ธันวาคม) พบโดรนของกัมพูชาแทรกซึมเข้ามา ไทยพยายามสกัดกั้นและตรวจสอบโดรนในพื้นที่จังหวัดตราด ซึ่งกองทัพเรือได้ป้องกันการลุกลามอธิปไตย ขณะที่เวลา 04.00 น.วันนี้กัมพูชายิงBM- 21 และปืนใหญ่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษต่อเนื่อง รวมถึงพื้นที่อื่นตลอดแนว ย้ำว่ากัมพูชาไม่ได้หยุดยิงตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

ต้องจัดการเขมรให้หยุดคุกคามก่อนถึงคุย

พร้อมย้ำว่า ไทยไม่ได้ปฏิเสธการเจรจาหรือด้านการทูต แต่การดําเนินการช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถเจรจาได้ เพราะเขมรไม่พร้อมเจรจา และยังเป็นภัยคุกคาม เราต้องให้กัมพูชาสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ก่อน เพื่อจะนําไปสู่การเจรจาอย่างแท้จริงนอกจากนี้ไทยขอให้ประชาคมโลกเข้าใจบริบทสถานการณ์ในพื้นที่จริงเพื่อคุ้มครองพลเรือน ลดความตึงเครียด และเคารพอธิปไตยของรัฐ

ยึดปราสาทคนาได้100%-แฉเขมรขุดคูเลตใช้รบ

ด้านพ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบกกล่าวเสริมว่า ภาพรวมปฏิบัติการ ทหารควบคุมพื้นที่ไว้แล้วยังไม่เปลี่ยนแปลงได้ขยายผลในหมายสําคัญปราสาทคนา จังหวัดสุรินทร์ ควบคุมเบ็ดเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจากการตรวจสอบพบกําแพงโบราณสถาน และมีภาพการขุดคูเลตที่ใช้รบ บ่งชี้ได้ว่ากัมพูชาเข้ามายึดพื้นที่ดินแดนไทยในบริเวณที่เป็นโบราณสถานเป็นที่ตั้งทางการทหาร ซึ่งผิดหลักสากล

ทหารเขมรตาย221-ทำลายฐานทหารได้51แห่ง

ส่วนความสูญเสียของกัมพูชามีดังนี้ฐานที่มั่นที่ตั้งทางทหาร 51แห่งBM-21 จํานวน 1ระบบ

รถถัง 10คันรถเกราะ-ยานเกาะ 9คันปตอ. 4 ระบบปืนใหญ่ปืนค. 7กระบอก แอนตี้โดรน 5จุดโดรน 68 ลํา

เสาสื่อสาร 3 จุดทหารกัมพูชาเสียชีวิตประมาณ221ราย

รองโฆษกกองทัพบกกล่าวต่อว่า ทบ.ยังดํารงความมุ่งหมายการปฏิบัติการ 2 ประการคือ 1.สถาปนาแนวชายแดนที่ถูกรุกล้ํากลับคืนมาให้ได้ และ2.ทําลายขีดความสามารถทางทหารของกัมพูชาที่ชัดเจนแล้วว่าเข้าโจมตีและเป็นภัยคุกคามทั้งต่อกําลังทหารและคนไทยให้หมดสิ้นสภาพทั้งกําลังพลยุทโธปกรณ์ ที่ตั้งทางทหาร และสิ่งสนับสนุน พร้อมยืนยันเป็นความมุ่งหมายที่ยังดํารงอยู่อย่างแน่นอน

ทร.ยึดคืนบ้านชำรากปักธงไทยสำเร็จ

นาวาเอก นรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือกล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่ที่กองทัพเรือได้รับมอบหมายพื้นที่บ้านชําราก จังหวัดตราด เป็นเป้าหมายหลักที่พยายามยึดคืนที่กัมพูชาถูกรุกล้ำมานาน ไทยโต้ตอบและยึดคืน ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนการโจมตีทางอากาศของกองทัพอากาศ (ทอ.) ทิ้งระเบิดปูทาง หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ใช้กำลังทหารราบเข้ายึดครองพื้นที่ และมีการตอบโต้จากกัมพูชาหนาแน่น แต่สุดท้ายก็สถาปนาความมั่นคงในพื้นที่และเชิญธงชาติขึ้นสู่เสาธงได้สําเร็จแสดงอํานาจอธิปไตยในพื้นที่ของเรา

«ขอย้ำว่าจุดนี้เป็นอธิปไตยของไทยที่ถูกกัมพูชารุกรานตั้งแต่แรกไทยยึดคืนกลับมาจนถึงปัจจุบันยังมีการโจมตีโต้ตอบจากฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ลดหย่อนลง กัมพูชายังโจมตีกลับมา ไทยต้องดําเนินกลยุทธ์เพื่อจํากัดภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้ามต่อเนื่อง»นาวาเอกนรากล่าว และว่า หน่วยที่เข้าดําเนินกลยุทธ์ ในกองทัพเรือยังมีหลายหน่วยที่สนับสนุนภารกิจ ทั้งหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานรักษาฝั่ง กรมสรรพาวุธทหารเรือ รวมถึงหน่วยอื่น ประกอบกําลังเพื่อเข้าดําเนินกลยุทธ์พื้นที่ทางเป้าหมาย

แจงเคอร์ฟิวตราดเพราะเขมรก่อกวนหนัก

สำหรับการประกาศเคอร์ฟิวในจังหวัดตราด กองทัพเรือเข้าใจดีว่าส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน แต่เนื่องจากที่ผ่านมามีการก่อกวนจากฝ่ายกัมพูชาอย่างหนักในพื้นที่ชุมชนของประชาชนเองเพื่อความปลอดภัย จำเป็นต้องประกาศเพื่อให้เกิดความปลอดภัยประชาชนสูงสุด

ทั้งนี้หากมีประชาชนจำเป็นต้องออกจากเคหะสถานนอกเวลา สามารถขออนุญาตและชี้แจงเจ้าหน้าที่ได้ เราจะรับฟังและอํานวยความสะดวก ขอให้ยึดความปลอดภัยเป็นหลัก ขอให้เชื่อมั่นว่าสิ่งที่กองทัพเรือดําเนินการ รวมถึงทุกเหล่าทัพ เพื่ออํานาจอธิปไตยเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ชายแดนด้านทภ.2ตึงเครียดปะทะต่อเนื่อง

อีกด้านหนึ่ง ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาประจำวันที่ 14 ธันวาคม เวลา 09.00 น.ว่าสถานการณ์ตั้งแต่เวลา 1800 น.วันที่ 13 ธันวาคมเป็นต้นมาถึงช่วงเช้าวันนี้ สถานการณ์ตามแนวชายแดนตึงเครียดต่อเนื่อง มีการปะตลอดทั้งคืน กัมพูชาเพิ่มระดับใช้กำลัง โดยเสริมปืนใหญ่ และจรวด BM-21 หลายพื้นที่ พร้อมตรวจพบ UAV และโดรน FPV ต่อเนื่อง ไทยตอบโต้เชิงรุกตามแผนอย่างเหมาะสม มุ่งทำลายขีดความสามารถทางทหารของกัมพูชาในจุดสำคัญ สามารถคุมสถานการณ์ได้ และกำลังพลฝ่ายเราส่วนใหญ่ปลอดภัยโดยมีเหตุการณ์สำคัญดังนี้

ไทยยิงคลังกระสุนเขมรที่ตาควายกระเจิง

1.พื้นที่ช่องคานม้า พระวิหาร และตามาเรีย อ.กันทรลักษ์จว.ศรีสะเกษตรวจพบการเสริมกำลังของกัมพูชา และโจมตีฝ่ายเราด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ค.,ปืนใหญ่ และ BM-21 ไทยยิงปืนใหญ่ทำลายเป้าหมาย รวมทั้งสามารถยิงทำลายรถบรรทุกของกัมพูชาได้ 1 คัน 2.พื้นที่ช่องคนา อ.กาบเชิง จว.สุรินทร์ กัมพูชาโจมตีฝ่ายเราด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ค.,ปืนใหญ่ BM-21 และอากาศยานไร้คนขับทั้งแบบทิ้งระเบิด และFPV ฝ่ายเราเสริมความมั่นคงในพื้นที่ และปฏิบัติตามแผนต่อไป

3.พื้นที่ปราสาทตาควาย อ.กาบเชิง จว.สุรินทร์ กัมพูชาโจมตีด้วย ค. ใส่ฝ่ายเรา ฝ่ายเรายิงตอบโต้ตามสถานการณ์ พร้อมใช้อาวุธเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ AGL ยิงทำลาย บก.ร้อย.1 พัน.ร.444 ของฝ่ายกัมพูชา ส่งผลให้คลังกระสุนของกัมพูชาเสียหายรุนแรง กำลังพลไทยปลอดภัย4.พื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จว.สุรินทร์ กัมพูชาใช้พลซุ่มยิงปืนใหญ่ และจรวด BM-21 ยิงเข้าพื้นที่ฝ่ายไทย ไทยตรึงตลอดพื้นที่การวางกำลัง และตอบโต้ตามเหตุการณ์

รบ6วันไทยทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์เขมรได้อื้อ

นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์สู้รบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา สรุปปฏิบัติการต่อข้าศึกตั้งแต่วันที่ 8-13 ธันวาคมทำลาย รถถัง 10 คันโดรน 64 ลำ BM-21จำนวน 1 คันเสาแอนตี้โดรน 4 ต้นปตอ. 4 กระบอกระบบควบคุมแอนตี้โดรน 1 ชุดรถบรรทุก 6 คันเสาสัญญาณ 1 ต้นปืนใหญ่ 1 กระบอก, ปืนครก 6 กระบอก และทหารกัมพูชาเสียชีวิต 181 ราย

ขณะที่ช่วงดึกวันที่ 13 ธันวาคม ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. สถานการณ์ยังตึงเครียด กัมพูชาใช้ ปืนใหญ่ โดรนพลีชีพ และจรวด BM-21 ควบคู่กับความพยายามแทรกซึมและเพิ่มเติมกำลังในบางพื้นที่ แต่ไทยยังสามารถควบคุมพื้นที่เดิม นอกจากนั้นยังยึดพื้นที่ยึดได้เพิ่มเติม และตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยันทภ.2เข้าคุมได้ครบทั้ง4ที่หมายตามแผน

การปฏิบัติสำคัญวันนี้ ไทยยึดควบคุมเนิน 677ช่องเปรอช่องระยีช่องปลดต่างพื้นที่ซำแต กำลังเสริมความมั่นคง ณ ที่หมายช่องคนา กำลังฝ่ายเราข้าควบคุมได้ครบทั้ง 4 ที่หมายตามแผน ใช้ระเบิดทำลายบันไดส่วนบน ฝ่ายกัมพูชาตอบโต้ด้วย จรวด BM-21 และ โดรนพลีชีพ สองฝ่ายยังตรึงกำลังอยู่บริเวณบันได

พื้นที่ปราสาทตาควาย กัมพูชาโจมตีฝ่ายเรา ด้วยปืนใหญ่, BM-21 และโดรนพลีชีพอย่างหนัก ไทยตอบโต้ด้วยอาวุธวิถีโค้ง และเครื่องบินทิ้งระเบิด สถานการณ์ยังไม่จบ ยังคงต้องรบต่อเพื่อความปลอดภัยขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ งดเดินทางกลับภูมิลำเนาให้พำนักอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวต่อไป

พนมดงรักเดือด-เขมรยิงBM-21ตกบ้านคน

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจ.สุรินทร์ ด่านอำเภอพนมดงรัก ยังน่าเป็นห่วง หลังเปิดฉากระดมยิงปะทะกันตั้งแต่เวลา 0.00 น. โดยทหารกัมพูชาระดมยิงปืนใหญ่เข้าที่ปราสาทตาควาย-คนา ช่องกร่าง และเนิน 350 ต.บักได อ พนมดงรัก หวังยึดพื้นที่คืน ก่อนใช้จรวด BM-21 ชุดแรกยิงใส่พื้นที่ปราสาทตาควาย เวลา 08.25 น. มีกระสุนตกพื้นที่พลเรือน ไร่นาชาวบ้านและวัดเขาโต๊ะ ตำบลบักได

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ต.บักไดเผยว่า ช่วงเช้าตรู่มีการปะทะกันหนักมาก

และตลอดทั้งวันเขมรยิงบีเอ็ม-21 เข้ามาฝั่งไทยเป็นระยะ ซึ่งฝ่ายไทยยิงโต้ตอบด้วยเช่นกัน

ผบ.ทบ.ยันรบตามแผนไม่เปลี่ยนแปลง

พลตรีวินธัยสุวารี โฆษกกองทัพบกแถลงถึงกรณีสังคมให้ความสนใจและมีข้อสงสัยประเด็นการหยุดยิงว่ากองทัพบกไม่เคยกล่าวถึงหรือมีแนวการปฏิบัติเรื่องนี้ เพราะปัจจุบันกัมพูชายังใช้อาวุธหนัก จรวด BM-21เครื่องยิงลูกระเบิดและโดรนพลีชีพ โจมตีกำลังทหารไทยในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนต่อเนื่อง ถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อคนไทยอย่างร้ายแรงโดยพลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ติดตามสถานการณ์และมอบแนวทางปฏิบัติเฉพาะส่วนใกล้ชิด ปัจจุบันยืนยันว่ายังไม่ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติการของหน่วยในพื้นที่การรบแต่อย่างใด ยังสั่งหน่วยทหารที่รับผิดชอบตลอดแนวชายแดน เดินหน้าปฏิบัติการตามแผนที่กำหนด พร้อมบูรณาการกับเหล่าทัพ และหน่วยงานอื่นเต็มที่

ลั่นมุ่งทำลายความสามารถทางทหารเขมร

ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารบกกำชับให้กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 เน้นย้ำกำลังพลเรื่องการปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย ดำเนินกลยุทธ์ด้วยความรอบคอบ มุ่งสู่เป้าหมายหลักคือ มุ่งทำลายขีดความสามารถทางการทหารของกัมพูชา ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมถึงองค์ประกอบสนับสนุนอื่นที่ส่งผลกระทบต่อไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ยืนยันว่ากองทัพบกไทยโจมตีเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และการสถาปนาพื้นที่ เข้าควบคุมบริเวณที่เคยมีการรุกล้ำเขตอธิปไตยไทย

“กองทัพบกขอยืนยันในปฏิบัติการครั้งนี้ว่ายังดำเนินการต่อเนื่องจนกว่ากัมพูชาหยุดความเป็นปรปักษ์ หยุดโจมตีต่อกำลังทหารไทยและประชาชนพื้นที่ชายแดน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากำลังพลและยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก พร้อมตรึงกำลังการปฏิบัติ และตอบโต้ตามกฎการใช้กำลังตามแผนปฏิบัติการที่กำหนดและตามหลักกติกาสากล เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราช และดูแลความปลอดภัยให้คนไทยอย่างเต็มขีดความสามารถ”โฆษกกองทัพบกระบุ

ตราดปะทะเดือด-ทร.ยึดคืนพื้นที่บ้าน3หลังได้

สำหรับสถานการณ์สู้รบด้านตะวันออก พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ (โฆษก ทร.) เปิดเผยว่า วันนี้(14 ธันวาคม) กองทัพเรือโดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก,นย.ตราด) เปิดปฏิบัติการทางทหารเพื่อยึดคืนพื้นที่อธิปไตยของไทย บริเวณบ้าน 3 หลัง บ้านหนองรี ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายตรงข้ามรุกล้ำเข้ามาอยู่ในเขตดินแดนไทยปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เช้ามืด มีการปะทะกันอย่างหนักในพื้นที่ ภายใต้หลักการใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล และการรักษาอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญจนถึงเวลา 07.20 น. กองทัพเรือสามารถควบคุมและยึดพื้นที่ดังกล่าวได้แล้ว และขับไล่กองกำลังฝ่ายตรงข้ามออกจากพื้นที่ได้ทั้งหมด พร้อมดำเนินการปักธงชาติไทยในพื้นที่ เพื่อแสดงถึงการยืนยันอธิปไตยของประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่บ้านหนองรีโดยรอบยังมีการปะทะกันเป็นระยะ จากการพยายามตอบโต้ของฝ่ายตรงข้าม กำลังของหน่วยนาวิกโยธินที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ควบคุมสถานการณ์ต่อเนื่อง ภายใต้หลักความจำเป็นและได้สัดส่วน เพื่อรักษาความมั่นคงของพื้นที่ และป้องกันฝ่ายตรงข้ามกลับเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของประเทศไทยอีก

คุมเข้มอ่าวไทยสกัดขนน้ำมัน-ยุทธปัจจัยเข้าเขมร

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหนังสือด่วนจาก กองบัญชาการกองทัพไทย(บก.ทท.) และ ศูนย์บัญชาการทางทหาร (ศบท.)1.เพื่อให้การปฏิบัติการทางทหารของกองทัพไทยมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ที่ประชุมคณะผู้บัญชาการทหาร (คบท.) เมื่อ 12 ธันวาคม 2568 มีมติดำเนินการต่อเรือไทย และ/หรือผู้ประกอบการไทยที่ไช้เรือไทยหรือเรือจดทะเบียนเรือสัญชาติอื่น ลำเลียงและส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง หรือสินค้ายุทธปัจจัยไปกัมพูชาทางทะเล เพื่อเป็นการลิดรอบและลดศักยภาพ ขีดความสามารถของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามต่อประเทศไทย2.. ตามข้อ1. เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเรียบร้อยและทันสถานการณ์ บก.ทท./ศบท.ขอให้กห/ศบช.กห. พิจารณานำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุม สภา มช. โดยเร่งด่วน โดยมีแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้

2.1 เสนอให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พิจารณากลไกภายใต้สมช.ให้หน่วยงานทางทะเลในศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กำหนดให้2.1.1. มีมติสมช. เรื่อง ประกาศมาตรการระงับการขนส่งน้ำมันเชื่อเพลิงและสินค้ายุทธปัจจัยไปกัมพูชา2.1.2. ให้หน่วยงานใน ศรชล. ยกระดับมาตรการตามมาตรา 27 วรรค 2 และ 3 บูรณาการกลไกควบคุมและเฝ้าระวังเรือสินค้าพาณิชย์ เรือประมง เรือสนับสนุนทำงานประมง ทั้งในส่วนเรือไทย และผู้ประกอบการทางทะแล ที่เป็นเจ้าของเรือโดยตรงหรือทางอ้อมที่เป็นเจ้าของกิจการ ผู้บริหารกิจการกองเรือภาคการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศและมีพฤติการลักลอบลำเลียงและส่งออกน้ำมันหรือสินค้ายุทธปัจจัยไปยังกัมพูชา2.1.3. ให้ ศรชล. พิจารณาประกาศพื้นที่โดยรอบทะเลอาณาเขตรอบท่าเรือกัมพูชา เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยระดับสูง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top