แนวหน้าวิเคราะห์ : มอตโต้-สโลแกน-แคมเปญหาเสียง สู้ศึกเลือกตั้งพรรคใด โดนใจคนไทยที่สุด?

แนวหน้าวิเคราะห์ : มอตโต้-สโลแกน-แคมเปญหาเสียง สู้ศึกเลือกตั้งพรรคใด โดนใจคนไทยที่สุด?

วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 07.10 น.

อีกไม่นานจากนี้ไป ประเทศไทยกำลังเดินเข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ในวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองหลายพรรค ทั้งเก่าและใหม่ ต่างทยอยเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตัวผู้สมัครสส.แบบบัญชีรายชื่อทั้ง 100 รายชื่อและ สส.แบบเขตเลือกตั้งอีก400เขต รวมทั้งเปิดนโยบายสำคัญใช้หาเสียงมุ่งหวังคว้าชัยชนะ

สิ่งสำคัญแต่ละพรรคต่างเปิดตัว Motto หรือ คติพจน์ซึ่งเป็น สโลแกนหลัก ที่สะท้อนถึงแนวคิดและอุดมการณ์ที่พรรคจะเดินหน้าขับเคลื่อนในการเลือกตั้งครั้งนี้


วิเคราะห์มอตโต้การเลือกตั้ง 2569

 พรรคไหนพูดถูกใจพรรคไหนสื่อสารตรงกลุ่มและพรรคไหน เป็นแค่คำสวยหรู เพราะการเลือกตั้งใหญ่ปี2569ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการวัดกำลังเชิงนโยบาย หรือ จำนวนผู้สมัคร แต่เป็น สงครามการสื่อสารทางความคิด อย่างเข้มข้นอีกครั้ง หนึ่งในอาวุธสำคัญ คือ Motto ที่พรรคการเมือง ใช้สรุปตัวตน-อุดมการณ์-คำมั่นสัญญาส่งไปให้ประชาชนเข้าใจภายในไม่กี่วินาที

ขอรวบรวมนำเสนอพรรคที่เปิดสโลแกนแล้ว

พรรคประชาชน  ไทยไม่เทา ไทยเท่ากัน ไทยทันโลก

#มีเรา ไม่มีเทา ถือเป็นสโลแกนที่ ชัดที่สุดในเชิงอุดมการณ์ คำว่า ไม่เทา สื่อสารตรงไปยังการต่อต้านทุนผูกขาด อำนาจนอกระบบ และการเมืองสีเทา ขณะที่ไทยเท่ากัน และไทยทันโลก เชื่อมโยงประเด็นความเหลื่อมล้ำและการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง

จุดแข็ง:สื่อสารชัดกับฐานคนรุ่นใหม่และชนชั้นกลางเมือง มีเรื่องเล่าต่อเนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ไม่ต้องพึ่งตัวบุคคลมากเกินไป

จุดท้าทาย :ฐานเสียงชนบทบางส่วนอาจมองว่า “ไกลตัว”ต้องแปลงคำว่า“ไม่เทา”ให้เป็นนโยบายจับต้องได้

พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำพลัส

#พูดแล้วทำพลัส เป็นสโลแกนสายปฏิบัตินิยมเต็มตัวไม่เน้นอุดมการณ์ใหญ่ แต่ขายผลงานและความต่อเนื่องจากการร่วมรัฐบาลหลายสมัย

 จุดแข็ง :ถูกใจกลุ่มที่เบื่อความขัดแย้งทางการเมือง สื่อสารง่าย จำง่าย เชื่อมโยงกับภาพ“ผู้จัดการประเทศ”

จุดท้าทาย : คำว่า“พลัส”ยังคลุมเครือ อาจไม่โดนใจคนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง    

พรรคเพื่อไทย “ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้”

#สร้างโอกาส #ล้างหนี้ #เพื่อไทยทำได้ สโลแกนสายเศรษฐกิจ-ปากท้องแบบดั้งเดิมเน้น โอกาส หนี้ รายได้ ซึ่งยังเป็นเป้าหมายหลักของประชาชน

จุดแข็ง : เข้าถึงมวลชนวงกว้าง สอดคล้องDNAพรรค คำว่า“ทำได้”เป็นทุนทางความทรงจำจากอดีต

จุดท้าทาย : ยังไม่ใหม่ในสายตาคนรุ่นใหม่ ต้องตอบคำถามเรื่อง“ทำได้แค่ไหน ในบริบทการเมืองปัจจุบัน”     

พรรคกล้าธรรม ทำมากกว่าพูด

สโลแกนเรียบ แต่สื่อสารตรง พยายามวางตัวเป็น “นักปฏิบัติ” ไม่เล่นการเมืองเชิงวาทกรรม

จุดแข็ง :   ตรงกับภาพลักษณ์ผู้นำพรรคโดนใจกลุ่มเบื่อการเมืองน้ำลาย

จุดท้าทาย : ขาดภาพใหญ่เชิงนโยบาย ต้องพิสูจน์ “ทำอะไรมาแล้ว” ให้ชัด  

พรรคประชาธิปัตย์ ไทยหายจน” 

#ไม่ทนทุนเทา  พยายามรีเฟรชภาพพรรคเก่าขยับมาเล่นประเด็นทุนผูกขาดและความเหลื่อมล้ำ

จุดแข็ง : สโลแกนสั้น จำง่าย จับประเด็นร่วมกับกระแสสังคม

จุดท้าทาย : ต้องสลัดภาพ “พรรคเก่าแก้ไม่ทันโลก”คนยังตั้งคำถามเรื่องผลงานในอดีต

พรรคพลังประชารัฐ  พึ่งพาได้ ทำได้จริง ไม่ทิ้งกัน

เน้นความมั่นคงและประสบการณ์ เป็นสโลแกนที่สื่อสารกับฐานเสียงเดิมอย่างชัดเจน

จุดแข็ง : มั่นคงสำหรับกลุ่มอนุรักษนิยม ไม่หวือหวาแต่ปลอดภัย

จุดท้าทาย : ไม่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ ภาพจำทางการเมืองในอดีตยังเป็นภาระ

พรรครวมไทยสร้างชาติ เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ

 ขายความเด็ดขาดและผู้นำเชิงอำนาจ เหมาะกับสถานการณ์วิกฤต แต่ก็เสี่ยง

จุดแข็ง : ถูกใจคนต้องการผู้นำเข้มแข็ง สื่อสารชัดเรื่องการตัดสินใจ

จุดท้าทาย :คำว่า“เด็ดขาด”อาจถูกตีความเชิงลบ ต้องอธิบายว่าเด็ดขาดอย่างไร ไม่ละเมิดประชาธิปไตย

ในส่วนของพรรคการเมืองเล็ก และพรรคใหม่ อย่างเช่น

พรรคไทยสร้างไทย : สร้างประเทศที่ดีที่สุด ให้คนรุ่นต่อไป ร่วมสร้างการเมืองสุจริต เปิดสงคราม ล้างบางคนโกง 

พรรคไทยก้าวใหม่ : ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง  #ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง  

พรรคเศรษฐกิจ : ชาติไทยต้องมาก่อน  : #ThailandFirst #คนไทยต้องมาก่อน

พรรคพลวัต : Smart Support and Sincere  #ดีที่สุดในจุดที่ยืน

พรรครักชาติ : เพราะรักชาติ ไม่ใช่แค่คำพูด #เพราะรักชาติไม่ใช่แค่คำพูด #รักแรกรักชาติ

ทุกพรรคต่างสะท้อนความพยายาม หาที่ทางของตัวเองแต่ยังต้องอาศัย ตัวบุคคล และพื้นที่เฉพาะ เป็นหลัก

เมื่อพิจารณามอตโต้ของแต่ละพรรคจะเห็นชัดว่าการเมืองไทยกำลังแบ่งออกเป็น 3 กระแสหลัก

1 เปลี่ยนโครงสร้าง-ต้านทุนเทา 2 ทำได้จริง-ประสบการณ์บริหาร 3 ชาตินิยม-ความมั่นคง-ความเด็ดขาด

สุดท้ายแล้ว…มอตโต้ยังมีผลต่อการตัดสินใจหรือไม่?

 คำตอบ คือ มีผลแต่ไม่พอ

ในยุคการเมืองปัจจุบัน มอตโต้ สโลแกน เป็นเพียงแค่ ประตูด่านแรกเท่านั้น เพราะยังต้องมีสิ่งสำคัญก็คือ  "นโยบาย + บุคคล + ความน่าเชื่อถือ" ซึ่งจะเป็น ตัวตัดสินที่แท้จริง

พรรคที่ได้เปรียบคือ พรรคที่มี สโลแกนชัด เชื่อมโยงกับปัญหาจริง และทำให้ประชาชนเชื่อว่า พูดแล้วจะทำได้จริงดังนั้น ศึกเลือกตั้ง 2569 จึงไม่ใช่แค่แข่งว่าใครพูดเพราะกว่าแต่ คือ ใครทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเลือกแล้ว ชีวิตจะดีขึ้นจริงมากที่สุดและเข้ามาแก้ปัญหาในสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันได้มากกว่า

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top