กกต.พร้อมรับสมัครสส.ปาร์ตี้ลิสต์-แคนดิเดตนายกฯ ชี้ใส่ร้ายผ่านโซเชียล โทษหนัก

กกต.พร้อมรับสมัครสส.ปาร์ตี้ลิสต์-แคนดิเดตนายกฯ ชี้ใส่ร้ายผ่านโซเชียล โทษหนัก

วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 17.16 น.

กกต.พร้อมแล้ว รับสมัครสส.บัญชีรายชื่อ-แคนดิเดตนายกฯ ’แสวง‘ โวคุมเข้มหาเสียงใช้โซเชียลฯ ใส่ร้าย เจอโทษหนักกว่าหมิ่นประมาท

วันที่ 27 ธันวาคม 2568 เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ 2-4 โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ประธานกรรม การการเลือกตั้ง พร้อมด้วย นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การเตรียมการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และบุคคลที่พรรคการ เมืองเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี 


ทั้งนี้ ขั้นตอนการรับสมัครจะแบ่งออกเป็น 5 จุด โดยจุดที่ 1 ตรวจเช็คเอกสาร จุดที่ 2 จับสลากหมายเลข พรรคการเมืองสำหรับใช้หาเสียงและลงคะแนน จุดที่ 3 ชำระเงินค่าธรรมเนียมการสมัคร  จุดที่ 4 ออกใบรับสมัคร และ จุดที่ 5 ตรวจรับเอกสารนโยบายการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมือง

เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมความพร้อม ว่าภาพรวมวันแรกของการเปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งสส.แบบแบ่งเขตทั่วประเทศ ทั้ง 400 เขตไม่มีเหตุผิดปกติอะไร 

ส่วนการเตรียมความพร้อมการรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในวันที่ 28 ธ.ค. ทางสำนักงานกกต. ได้เตรียม ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่จะรับสมัคร และพรรคการ เมือง โดยมีการซักซ้อมว่า ขั้นตอนเอกสารที่จะใช้สมัครมีอะไรบ้าง ซึ่งบางพรรคการ
เมืองทยอยส่งมาให้กกต. ตรวจสอบไปบ้างแล้ว และจะมีการตรวจสอบเอกสารที่ใช้ประกอบในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้(28 ธ.ค.) จนเสร็จ โดยจะตรวจเฉพาะพรรคการ
เมืองที่มาลงทะเบียนก่อนเวลา 08:30 น. ซึ่งถ้ามีเอกสารครบถ้วนก็จะให้มาจับสลากได้ ทั้งนี้คิดว่าภาคเช้าคงใช้เวลาไม่นาน และการรับสมัครคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เมื่อถามว่ามีการนำบทเรียนของการรับสมัครครั้งที่แล้วมาแก้ไขปัญหาอย่างไรหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่าในรอบที่แล้วมีความไม่เรียบร้อยบางส่วน ในเรื่องของการให้เบอร์ผู้สมัครทำให้การรับสมัครล่าช้า พรรคเสียเวลาในการที่จะนำเบอร์ไปหาเสียง ครั้งนี้จึงได้มีการแก้ไขในจุดนี้แล้ว หมายความว่าถ้าเราตรวจสอบ พรรคที่มีเอกสารครบถ้วนแล้ว และมาจับสลากถ้าจับได้เบอร์อะไรก็จะใช้เบอร์นั้นหาเสียง

นายแสวง กล่าวว่า ตอนนี้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแบบเต็มตัวและมีการออกเสียงประชามติควบคู่ไปด้วยการที่จะทำให้การเลือกตั้งเรียบร้อย ไม่ได้อยู่ที่กกต. เท่านั้นแต่อยู่ที่ผู้สมัคร ผู้สนับสนุนด้วย มีการใส่ร้ายทางโซเชียลมีเดียซึ่งผิดกฎหมาย และกกต. จะเข้มงวดขึ้น เรามีศูนย์ตรวจสอบการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นจึงย้ำว่าจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นไม่ว่าจะเป็นผู้สมัคร ผู้สนับสนุนหรือประชาชนจะไปใส่ร้ายไม่ได้ อำนาจของกกต.ตรงนี้คือ สามารถลบข้อความที่ใส่ร้ายเหล่านั้นได้เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกพรรคการ เมืองไม่ให้ถูกใส่ร้าย  โดยไม่ต้องรอให้มีผู้มาร้องเรียน หรือผู้สมัครที่เห็นว่าเสียหายจากการนี้ก็สามารถมายื่นต่อกกต.ได้

ในส่วนของกกต. ก็จะตรวจสอบในแต่ละวัน ถ้าโซเชียลมีเดียต่างๆว่ามีการใส่ร้าย เราจะดำเนินการ 1.การคุ้มครองผู้สมัครด้วยกันลบข้อความนั้นออก 2.ตามหาว่าใครเป็นคนทำ เป็นคนโพสต์ ก็จะมีความผิดต้องดำเนินคดี ดังนั้น ขณะนี้ทางกกต. ได้มีการขอความร่วมมือไปยัง TikTok Facebook LINE มาทำความตกลงร่วมกันว่าเราจะดำเนินการเรื่องนี้ออกมาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างไร เพื่อทำให้การแข่งขันเป็นธรรม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

“อยากฝากถึงประชาชนจะโพสต์อะไร ที่เป็นการผิดกฎหมายมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ขอให้ระมัดระวัง ตามมาตรา 73(5) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 มีโทษตามมาตรา 159 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000- 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของผู้นั้นกำหนด 20 ปี ดังนั้น โทษหนักกว่าการหมิ่นประมาท” นายแสวง กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงเรื่องการทำประชามติหากประชาชนไม่ได้ไปใช้สิทธิ์ออกเสียงจะทำให้เสียสิทธิ์เหมือนการไม่ไปลงคะแนนเลือกตั้งหรือไม่ เลขาธิการกกต. กล่าวว่า ทั้งตามกฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายออกเสียงประชามติ ถ้าไม่ไปใช้สิทธิ์ก็จะเสียสิทธิ์ทั้งสองกฏหมาย เพียงแต่เงื่อนไขในการไปแจ้งเหตุแตกต่างกันเล็กน้อย โดยกรณีการไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง สส.สามารถแจ้งเหตุการณ์ไม่ไปใช้สิทธิ์ได้ก่อน 7 วัน และหลัง 7วันหลังการเลือกตั้ง ส่วนการออกเสียงประชามติหลังมีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์แล้วสามารถแจ้งเหตุได้เลย และเมื่อถึงวันออกเสียงหากไม่ไปก็ยังมีเวลา 7 วัน ในการแจ้งเหตุ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top