อาจจะไม่ดุเดือดเลือดพล่านแต่สำหรับ กก.4 ขึ้นชื่อสังกัด บก.ป. ย่อมมีตราประทับคำว่า ที่พึ่งสุดท้าย ไว้เป็นที่จดจำของประชาชนยามทุกข์ และตอกย้ำความสำคัญของหน่วยงาน ซึ่งที่หน่วยอื่นไม่กล้าทำหรือทำไม่ได้ทุกคนจึงรู้สึกภาคภูมิใจเป็นตำรวจ กองปราบปราม แม้จะอยู่กองไหนก็สำคัญเท่ากัน ภายใต้ยุคไม่ได้ทำงานแบบ One Man Show “ที่นี่ไม่มีพระเอกมีแต่ทีม ทีมที่ร่วมแรงร่วมใจ ทำเพื่อประชาชน”
กก.4 ที่มีตัวขับเคลื่อนคนสำคัญอย่าง พ.ต.ท.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผกก.4 บก.ป. อดีตลูกหม้อนครบาลสัมผัสทุกสายงานสลัดคราบ สว.ประชาสัมพันธ์ บช.น. ภาพลักษณ์ติดตาของใครหลายๆ คน กลายเป็นนักสืบ2 ด้านทั้งเดินดินและเดินอากาศ เพื่อสอดคล้องกับการทำงานของที่นี้ การปรับตัวไม่มีอะไรมากอย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ตรงกับสไตล์การทำงาน คือพัฒนา หาความรู้ให้ตัวเองอยู่ตลอด
“ผมทำงานหมดทุกหน้าที่และไม่เคยคิดมาอยู่กองปราบฯ ความคิดของผมอยากเป็นหัวหน้าโรงพัก ด้วยอาชญากรรมเราต้องยกระดับการทำงานเป็นทีม ส่วนการบริหารงานเห็นได้ว่าเป็นระบบ ทุกคนทุกกองสามารถสนับสนุนงานกันได้ เมื่องานใหญ่กว่าแนวทางการสืบสวนก็เยอะกว่า” รองโฟล์ค กล่าว
พ.ต.ท.เนติ วัย 40 ปี กล่าวว่า ตนชอบเรียนรู้ตลอดเวลาครั้งเป็น สว.ฝอ.5 บช.น. จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่น 55 ไม่มีใครสอนจำได้ซื้อหนังสือมาอ่าน ประชาสัมพันธ์ คืออะไร อำนาจและหน้าที่มีอะไรบ้าง เมื่อรู้แล้วสำคัญตรงที่จะเอาหลักการนั้น มาปฏิบัติกับบริบทของเราได้หรือไม่ เวลานั้นเป็นช่วงวิกฤติม็อบก็นำทักษะตรงนี้มาใช้ จึงเป็น Brand ติดตัวเกี่ยวกับเรื่อง Information
ทำไมอาจารย์ การตลาด ไม่ไปทำเองให้รวย ฉะนั้นทุกคนจะต้องมีทฤษฎีก่อน แต่เอามาปรับใช้แล้วเกิดประโยชน์ไหม ตรงนี้คือโจทย์ยากของแต่ละคนต้องทำตนเคยผ่านมาหลายงานสิ่งหนึ่งคือ เริ่มจากที่ไม่รู้แล้วแสวงหาข้อมูลให้ได้ ตอนนี้ให้นึกภาพว่าตนทำงานสืบสวน ซึ่งเป็นหน้างานของ บก.ป. ที่นี้จะมีการพัฒนาบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการสืบสวน กฎหมาย ทำให้เพิ่มขีดความสามารถ
เคยมีโอกาสไปเรียนที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก 1 ปี ได้หลักการแนวคิดของทหาร สิ่งหนึ่งที่นำมาปรับใช้จนเป็นต้นแบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) คือโต๊ะทราย แผนที่จำลองเพื่อใช้วางแผนการรบ ขณะนั้นช่วง งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9ตนอยู่ศูนย์อำนวยการจึงยกไปใช้ที่ ศปก. ทำให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์ตัดสินใจง่าย ในเรื่องการวางแผนต่างๆ โดยสั่งการอยู่บนโต๊ะ
“ผู้ใหญ่ไปตรวจเยอะปรากฏว่าท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ไปตรวจแล้วเห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดี เป็นความภาคภูมิใจที่เอาหลักการทหาร มาปรับใช้ในส่วนของตำรวจ”
รอง ผกก.4บก.ป. กล่าวต่อว่า ตนเต็มที่กับลูกน้องหลักการทำงานมี 3 ด้าน 1.พัฒนาสถานที่ยกตัวอย่างตอนเป็น รอง ผกก.สส.สน.อุดมสุข พัฒนาห้องจากคอมพิวเตอร์ใช้ได้ 1 เครื่องเพิ่มเป็น 6 เครื่อง 2.พัฒนาคน ลูกน้องไม่เคยยิงปืนพาเข้าไปฝึกที่ หน่วยอรินทราช 26 รวมถึงท่าบุคคลมือเปล่าหน้างานที่เขาต้องเจอ และ 3.พัฒนาระบบ แนวทางการสืบสวนอันไหนที่เรา Support ได้ก็ต้องให้
สำหรับงานที่ บก.ป.ได้ช่วยพัฒนาในส่วนรับผิดชอบเราทำเพื่อหน่วยไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ให้ออกในรูปแบบกองปราบปรามยุคที่ เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานสำคัญของ ตร. ถ้าใครทำไม่ได้เราทำได้ คำว่าขับเคลื่อนมันโตพร้อมกันหมด ไม่ใช่เฉพาะตนซึ่งมาอยู่ที่นี้แค่ครึ่งปี ใน กก.4 คือเราร่วมกันคิดมากกว่า ตนมีทีมงานโดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ทำให้ชื่อออกในนามทีมงานมากกว่า เพราะที่นี้ไม่มี พระเอก
หากพูดถึงแนวทางการทำงานของตน ในเมื่อตำรวจเราเลือกตำแหน่งไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้จะเกษียณยศ ตำแหน่งอะไร แต่ตนขอเป็นตำรวจน้ำดีแบบอยู่ที่ไหน ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ด่า เพื่อนร่วมงานไม่ยี้ ผู้บังคับบัญชากล้าใช้ ถามว่าบนโลกใบนี้มีอาชีพไหนบ้าง ที่หน้าที่บังคับต้องทำความดี 1 ในนั้นคือ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ยิ่งเป็นคนพุทธด้วยแล้วต้องเชื่อใน ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว
“สโลแกนของผมเคยติดในห้อง ฝอ.5 บช.น. คิดดี ทำดี สบายใจดี แล้ววันนี้คุณทำความดีแล้วหรือยัง ทำความดีไม่จำเป็นต้องไปทำบุญตักบาตรคิดอยู่เสมอว่าถ้าใครเดือดร้อนแล้วหาผม อันไหนที่ช่วยได้ก็จะช่วยเท่าที่พละกำลังมี แต่ไม่รู้จุดหมายปลายทางลึกๆ เขาคาดหวังแค่ไหน ถือว่าสิ่งที่ผมทำไปก็เป็นความดี โลกไม่ใช่ของเราไม่สามารถเยียวยาได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้”
รองโฟล์ค ชาวสระแก้ว ทิ้งท้ายในฐานนะนักสืบว่า เมื่อ 10 ปีก่อน ใช่แล้วหากจะบอกว่าเป็นยุคนักสืบเดินดิน ซึ่งตนก็เคยสัมผัสเช่นกัน แต่มารับผิดชอบจริงๆ ในยุคที่ความเจริญทางเทคโนโลยีเริ่มเข้ามา ส่วนวิธีแนวทางการสืบแบบ โบราณ เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมศาสตร์ หรือภาษานักสืบเรียกว่า เดินดิน ตนยังมองว่าทิ้งไม่ได้และเดินอากาศก็สำคัญ ฉะนั้นถ้าเป็นนักสืบมันต้องได้ทั้ง 2 ด้าน
ธีรภัทร์ พนาลี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี