ภาพการชุมนุมขับไล่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ของคณะรวมพลังแผ่นดินฯ ซึ่งได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 นอกจากแสดงถึงความอดทนของคนในชาติได้สิ้นสุดลงแล้ว หากยังเป็นการส่งสัญญาณด้วยว่าจากนี้ไปสถานการณ์ทางการเมืองจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์การชุมนุมและการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งสำคัญๆ เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง และนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันออกไปตามบริบทของยุคสมัยนั้นๆ แต่สำหรับครั้งนี้ ต้องยอมรับว่า รัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นำพาประเทศเข้าสู่ห้วงเวลาวิกฤตเร็วกว่าที่คาด จนหลายฝ่ายกังวลว่าจะนำไปสู่การซ้ำรอยแบบไหน
โดยข้อเท็จจริงแล้ว หลังจากคลิปเสียงสนทนาระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาถูกเผยแพร่เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้มีการเสนอทางออกให้กับนายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภาจากปัญหาวุฒิภาวะที่อ่อนด้อยและสุ่มเสี่ยงจะทำให้สูญเสียอธิปไตย
แต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กลับเลือกที่จะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แพทองธาร 1/2 ดึงพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ยกเว้นพรรคภูมิใจไทย ใช้เสียงปริ่มน้ำเดินหน้าซื้อเวลาต่อโดยคาดหวังว่าจะสามารถกอบกู้วิกฤตศรัทธากลับคืนมาได้บ้าง แต่สถานการณ์โดยรวมกลับไม่กระเตื้องขึ้น ขณะเดียวกันพรรคร่วมรัฐบาลเองก็ถูกผลักให้จมหลุมวิกฤตศรัทธา พากันกอดคอรอวันตายหมู่
โดยเฉพาะชะตากรรมของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขณะนี้ถูกมองว่ากำลังเดินเข้าสู่พื้นที่คิลลิ่งโซนทางการเมืองเต็มตัว ต้องเผชิญศึกหลายด้านไปพร้อมๆ กัน โดยแรงปะทะด้านนอกสภานั้น เมื่อม็อบขับไล่จุดติดแล้ว รอวันแค่สะสมขุมพลังหลอมรวมเป็นก้อนใหญ่เพื่อยกระดับการชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นจนกว่ารัฐบาลจะล้มคว่ำเหมือนในอดีต
ด้านนิติสงคราม แค่ประเด็นคลิปเสียงอย่างเดียว โดนกล่าวหาไป 4-5 คดี หลักๆ คือ กรณีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตร 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ และขอให้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
สมาชิกวุฒิสภาชุดเดียวกันนี้ ยังร้องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ไต่สวนและดำเนินการกับ น.ส.แพทองธารเพื่อให้ชี้ขาดคุณสมบัติฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยประเด็นนี้ป.ป.ช.ได้มีมติรับสอบไปแล้ว โดยวางกรอบเบื้องต้น 10 วัน
นอกจากนี้ ยังถูกกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.แพทองธารกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119, 120, 122, 128 และ 129 รวมทั้งมีนักร้องเรียนยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ และ กกต. ขอให้ตรวจสอบในกรณีเดียวกันอีกหลายคน ยังไม่รวมกับ 2 คดีเก่า คือ คดีตั๋ว PN และคดีโยกงบฯปี’68 แจกเงินหมื่นขัดรัฐธรรมนูญ ม.144
ส่วนศึกในสภาที่น.ส.แพทองธาร ต้องเจอคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งครั้งนี้มีปัจจัยให้ต้องจับตาเป็นกรณีพิเศษ ทั้งประเด็นเรื่องคลิปลับ
จะถูกยกระดับการซักฟอกให้อำมหิตแค่ไหน โดยมีเสียงปริ่มน้ำจากพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังอยู่ในเกมจะเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายว่า เมื่อถึงเวลานั้น ยังจะกล้าอุ้มซากของผู้นำที่หมดความชอบธรรมไปแล้วหรือไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี