สารพัด “ศาสตราวุธไทย” ต่างมีเป้าหมายเดียวกันพุ่งตรงไปที่การเรียกร้องให้ “แพทองธาร ชินวัตร” แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือยุบสภา หลังปรากฏคลิปเสียงสมยอม “ฮุนเซน” ซึ่งเข้าข่ายกระทบอธิปไตยประเทศ ตลอดจนกองทัพและประชาชน
มีความเคลื่อนไหวจากทุกภาคส่วน ทุกองคาพยพของสังคม ที่ส่งเสียงไปถึง “แพทองธาร” ให้แสดงความรับผิดชอบ หากแต่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทยผู้นี้กลับเพิกเฉย ไม่ยินดียินร้ายใดๆ แม้จะมีเสียงก่นด่าว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรมร้ายแรง แต่ก็ไม่มีการตอบรับหรือแสดงท่าทีใดๆออกมาทั้งสิ้น
มีการตั้งข้อสังเกตว่า “นายทักษิณ ชินวัตร” ผู้เป็นบิดา หายเงียบไปหลังจากเกิดเหตุการณ์อันน่าอัปยศที่บุตรสาวได้ก่อขึ้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ บ่อยครั้งที่มักจะได้เห็น “นายทักษิณ” ออกมาแสดงทรรศนะทางการเมือง ชี้นำพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลอยู่เนืองๆ แต่ครั้งนี้กลับหายหน้าไป คลับคล้ายจะเลือกใช้วิธีการนิ่งเพื่อสยบความเคลื่อนไหว
แต่ศึกครั้งนี้ของสองพ่อลูกนั้นใหญ่หลวงยิ่งนัก การใช้วิธีนิ่งเพื่อสยบความเคลื่อนไหวนั้น ไม่น่าจะเอาอยู่แน่ เพราะตราบใดที่ “ตัวปัญหา” ซึ่งก็คือ “แพทองธาร” ยังคงอยู่ในตำแหน่งไม่มีทางที่ปัญหาจะจบแน่นอน
ที่สำคัญ ผู้นำประเทศที่ทำให้ประชาชนขาดความไว้เนื้อเชื่อใจนั้น อยู่ต่อไปก็รังแต่จะ “เสื่อม” ลงไปเรื่อยๆ
เสื่อมทั้งตัวเอง
เสื่อมทั้งครอบครัว วงศ์ตระกูล
เสื่อมทั้งคนใกล้ชิด มิตรสหาย บริวารว่านเครือ
และสุดท้ายก็คือ “เสื่อมจากความเป็นคนไทย”
ม็อบใหญ่นั้นมาแน่ และก็มาแล้ว โดยครั้งนี้มาในนามกลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน” นัดชุมนุมใหญ่กันในวันที่ 28 มิถุนายนนี้
สดับฟัง “นายจตุพร พรหมพันธุ์” วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ซึ่งกล่าวในวันแถลงข่าวนัดชุมนุมใหญ่เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมาแล้ว เป็นคำกล่าวที่ฉายสะท้อนภาพ “ความเป็นจริง”ของสังคมไทยในขณะนี้ได้ชัดเจนที่สุด
นายจตุพรกล่าวว่า ไม่เคยเจอนายกรัฐมนตรีประเทศใด ที่ตัดหัวแม่ทัพของตัวเองส่งบรรณาการให้กับกัมพูชาเหมือนกับนายกรัฐมนตรีไทย วันนี้เราอย่าติดกับว่ากัมพูชาเสี้ยมให้คนไทยแยก แต่คนไทยต้องสามัคคีเพื่อจัดการคนไทยที่ทรยศและขายชาติก่อน แล้วจึงมาสามัคคีกัน
จริงดั่งคำที่นายจตุพรว่าไว้ เพราะประเทศไทยในเวลานี้ ต้องถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤต โดยประเทศไทยของเราเคยเผชิญกับภาวะวิกฤตมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่เราก็ผ่านพ้นมาได้ทุกครั้ง
จะด้วยเหตุผลที่ว่าประเทศไทยนั้นศักดิ์สิทธิ์ มีพระสยามเทวาธิราชคุ้มครอง ก็จริงดังว่า และจะด้วยเหตุผลที่ว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งผ่านพ้นมาด้วยก็เพราะคนไทยสามัคคีกันก็คงจริงแท้เช่นกัน
ยังคาดการณ์ไม่ถูกว่า การชุมนุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายนนี้ จะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมกี่มากน้อย และจะคว่ำ “แพทองธาร” ลงหรือไม่? หรือจะยืดเยื้อไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับฝ่ายไหนจะอึดกว่ากัน
หรือการชุมนุมอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ถ้า “แพทองธาร” เคารพตัวเอง เคารพเสียงประชาชน และเคารพในความเป็นคนไทยของตัวเองตราบใดที่ความเป็นคนไทยยังไม่เสื่อมไปเสียก่อน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี