เรามิอาจปฏิเสธได้ว่า ยาบ้า มีอยู่มากที่สุดในประเทศไทย และต้องเข้าใจว่าปราบเท่าไหร่ก็ไม่หมดสิ้น มีตำรวจหลายหน่วยที่มีอำนาจร่วมจับกุมคดียาเสพติด แต่สำหรับหน่วยงาน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จะเข้ามามีบทบาทก็เมื่อ 1.เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ 2.ผู้บังคับบัญชาสั่งการ 3.คดีที่มียาเสพติดจำนวนมาก และ 4.กระทำลักษณะแบบนี้หลายครั้งและหลายพื้นที่
รวมถึงเชื่อในความเป็นมืออาชีพให้ ปส. รับหน้าที่ขยายผลต่อ โดยตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการกวาดล้างและตรวจยึดยาบ้าได้กว่า 2 พันล้านเม็ด รวมมูลค่า 2 แสนล้านบาท เป็นผลการปฏิบัติที่ภาคภูมิใจแต่ยังไม่ใช่ความสำเร็จ ผู้ให้คำตอบนี้ได้ดีแน่นอนว่าเครือข่ายยาเสพติดต้องรู้จัก พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. นรต.รุ่น 38 นายตำรวจมือปราบ วัย 57 ปี เบื้องหลังปิดฉากคดีสำคัญนับไม่ถ้วน
พล.ต.ต.พรชัย มีเลือดนักบู๊ตั้งแต่อยู่ในรั้ว รร.นายร้อยตำรวจ หัวจิตหัวใจชื่นชอบไปทางทหารประกอบกับช่วงนั้น มีสถานการณ์ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ จึงขอล่าประสบการณ์จับปืนสัมผัสการต่อสู้ของจริง เขาตัดสินใจเลือกลง ตชด. ภาคใต้ จ.สงขลา จากนั้นถูกส่งไป อ.เบตง จ.ยะลา อยู่ในชุดปฏิบัติการปราบปรามมีการปะทะหลายครั้ง ก่อนจะขึ้นมา กทม. ทำหน้าที่นายตำรวจติดตาม ผบช.ตชด.
“ต่อมาผมรับราชการที่ รร.นรต. ประมาณ 9 ปี ได้เห็น ผบช.รร.นรต. แต่ละคนมีประสบการณ์และมีความรู้หลากหลาย เลยมีความรู้สึกอยากออกไปหาประสบการณ์ข้างนอก ทีนี้เห็นว่าตัวเองน่าจะเหมาะสมกับงาน ปส. เพราะเคยผ่านงานปราบปรามยาเสพติดที่ ตชด. อีกอย่างผมถนัดงานด้านนี้ด้วยจึงคิดว่า จะแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติดของประเทศได้”
รองจิ้ม กล่าวต่อว่า ปี 2550 ตนมาประจำ บช.ปส. ครั้งแรกตำแหน่ง รอง ผบก.ปส.2 รับผิดชอบพื้นที่โซนภาคอีสาน ได้รู้จักเครือข่ายยาเสพติด อุสมาน สะแลแมง ที่มีหมายจับของประเทศไทยแต่หลบหนีไปอยู่ฝั่ง สปป.ลาว แล้วนำยาเสพติดลักลอบเข้ามาทางด้านภาคอีสาน ก่อนจะนำส่งไปจำหน่ายที่ภาคใต้โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน เราสามารถขยายผลจับกุมเครือข่ายและยึดทรัพย์ไปส่วนหนึ่ง
หลังจากนั้นตนมาเป็น รอง ผบก.ปส.3 รับผิดชอบพื้นที่โซนภาคเหนือ สถานการณ์ทราบกันดีว่าพื้นที่ใกล้แหล่งผลิตในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา เป็นเส้นทางนำเข้าหลักของยาเสพติด ประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ อับดับ 1 จ.เชียงราย ตามด้วย จ.เชียงใหม่ อีก 15 เปอร์เซ็นต์ เข้าทางภาคอีสาน เราได้สืบสวนจับกุมเครือข่ายอย่างต่อเนื่องทั้งทางบกทางน้ำ ได้ของกลางยาบ้า ไอซ์ และเฮโรอีนจำนวนมาก
จากนั้นปี 2557 ขึ้นเป็น ผบก.ปส.4 รับผิดชอบพื้นที่โซนภาคใต้ แล้วมาเป็น ผบก.ปส.3 จนขึ้น รอง ผบช.ปส. รับผิดชอบงานสืบสวนปราบปราม รวมระยะเวลาอยู่ บช.ปส. ประมาณ 12 ปี มีผลการจับกุมคดีสำคัญ อาทิ เล่าต๋า แสนลี่, ไซซะนะ, ท้าวสีสุก, เบนซ์ เรซซิ่ง, นางหมอน เพ็ชรอรุณ ที่ขยายผลจากคดี นายอาทิตย์ ระติอนันต์, ซ้อหมิ่ง และเครือข่าย นายวีระ หมื่นจะดา กลุ่มผลิตรายใหญ่ในรัฐฉาน
“เราบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทั้งในตำรวจเอง และหน่วยงายภายนอกไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ส. ปปง. ดีเอสไอ กรมที่ดิน กระทรวงพาณิชย์ กรมศุลกากร ทหาร รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ เพื่อที่จะทำการขยายผลไปยังกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่แหล่งผลิตยาเสพติด ที่นำเข้าโดยนายทุนหรือผู้สั่งการ แล้วส่งต่อไปให้รายย่อยที่ค้าขายตามชุมชน หมู่บ้าน อำเภอ หรือจังหวัด เราจะใช้รูปแบบลักษณะขุดรากถอนโคนให้สิ้นซาก”
เจ้าของนาม ขาน เพลินจิต 3 บอกด้วยว่า ส่วนใหญ่เขาจะมองว่าตนมีความขยัน ตรากตรำ และอดทนในการทำงาน ชีวิตของตนนอกจากที่บ้านก็พบเจอได้ที่โต๊ะทำงาน หรือขณะลงพื้นที่กับผู้ใต้บังคับบัญชาทั่วประเทศ ทุกครั้งตนจะมี แผน แผนงาน โครงการ และกิจกรรม โดยตรวจสอบเร่งรัดตามห้วงระยะเวลาที่กำหนด ตนมองว่างานจะสำเร็จได้มาจากผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา
อะไรคือความสำเร็จของงาน ปส.? ก็คือการที่เจ้าหน้าที่หรือผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ ลงพื้นที่บูรณาการหน่วยที่เกี่ยวข้องในเรื่องของ กลุ่มเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดที่เป็นขบวนการรายสำคัญ เราทำการสืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ต้องใช้ความตั้งใจ อดทน เพราะการสืบสวนไม่ใช่อยู่ๆ แล้วเราจะสามารถจับกุมได้เลยมันต้องใช้เวลา สิ่งสำคัญเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนต้องมีใจรักและเสียสละ
กลุ่มเป้าหมายเป็นเครือข่ายรายสำคัญถ้าเกิดเขาถูกจับ โทษค่อนข้างสูง เช่น ประหารชีวิตหรือสารภาพจำคุกตลอดชีวิต โอกาสที่พวกเขาจะพกพาอาวุธปืนป้องกันตัวก็มีสูง บ่อยครั้งที่เวลาไปจับเราจะมีการ วิสามัญ คนร้าย ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ต้องมีความพร้อมทั้งสุขภาพร่างกาย และฝึกฝนตนเองอยู่ตลอดเวลา แต่มีอีกหนึ่งเรื่องหลักที่เราให้ความสำคัญก็คือ กรณีถ้าตำรวจ ปส. เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง!
“ทุกปีมีตำรวจต้องถูกออกจากราชการรวมถึงของ ปส. เราไม่ได้เพิกเฉยหากพบก็ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก…คุณติดคุกแน่นอน…” มือปราบคดีดังแห่ง ปส. เตือนสติ
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี