แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง..... “พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาลหรือไม่?”...

nn จนแล้วจนรอด พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่มีมติพรรคออกมาอย่างเป็นทางการว่าจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ แม้ใกล้จะมีการประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกตัวนายกรัฐมนตรีกันในวันที่ 5 มิถุนายนนี้แล้วก็ตามที....คำถามก็คือ ประชาธิปัตย์มัวรออะไรอยู่? เพราะพลังประชารัฐก็ลงทุนยอมประเคนเก้าอี้ประธานสภาให้กับ “ชวน หลีกภัย” ไปแล้ว ตกลงที่มีปัญหานั้น คนที่ทำให้มันมีปัญหาจนผู้คนเบื่อหน่ายเอือมระอาคือพลังประชารัฐหรือประชาธิปัตย์กันแน่ที่เป็นคนก่อเรื่อง...

nn “คชสีห์”ทำข่าวมา 30 ปี อย่ามาบอกว่าการที่ “ท่านประธานชวน”ได้เป็นประธานสภานั้น มันไม่ได้เกี่ยวพันหรือเชื่อมโยงไปถึงการโหวตเลือกนายกฯ อยู่ดีๆ พลังประชารัฐ จะให้เก้าอี้ประธานสภาฯกับประชาธิปัตย์ทำไม เป็นซะเองไม่ดีกว่าหรือ? กรณีตำแหน่งประธานสภานั้นมันเป็นเรื่องการ “ซื้อใจ”และ “วัดใจ” ส่วนใครจะพูดเอาเท่ พูดให้พรรคตัวเองดูดี ก็สุดแท้แล้วแต่จะพูดกันไป...

nn อันที่จริง ดีลการเมืองมันจบไปแล้ว มีการแบ่งโควตากันเรียบร้อย แต่คนที่ไม่ยอมจบและสร้างปัญหาขึ้นมาก็คือพลังประชารัฐ ต่อรองโน่นนี่ เพราะในพรรคมีหลายก๊วนหลายแก๊งหาความเป็นเอกภาพไม่ได้ ตัวหัวหน้าพรรคคือ “อุตตม สาวนายน”ก็ได้แต่กุมขมับ เพราะยกขบวนขันหมากแห่ไปเชิญพรรคต่างๆ เข้าร่วมรัฐบาล คุยกับพรรคร่วม ตกลงกันเสร็จสรรพ แต่พอกลับมาคุยกันในพรรคก็ดันคุยไม่ลงตัวอีก เพราะนาทีนี้มันไม่มีใครยอมใครกันแล้ว นาทีนี้หากใครตกขบวนก็อด เพราะรัฐบาลจะอยู่สั้นหรือยาวก็ไม่รู้ นี่ยังไม่รวมกับเหตุผลสส.บางกลุ่มไม่ยอมรับ “ผู้มีบารมีนอกพรรค”ที่ไปต่อรองเก้าอี้ ยกเก้าอี้สำคัญๆให้กับพรรคร่วมรัฐบาลจนหมด กระทั่งต้องเกิดลูกฮึดขึ้นมา...

nn หันไปดูกันที่ประชาธิปัตย์ กระแสต่อต้านร่วม-ไม่รวมรัฐบาลนั้น มันมีมาแต่ต้นซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถือเป็นเรื่องปกติของพรรคการเมืองพรรคนี้ ที่ต้องมีการถกเถียง ระดมสมอง แต่ถ้าจะพิจารณากันให้ดีๆ สังเกตได้ว่า กระแสต่อต้านเริ่มเบาบางเงียบหายไปพร้อมๆ กับที่ “ท่านประธานชวน” ได้เป็นประธานสภา....แต่ไปๆ มาๆ กระแสต่อต้านเริ่มตีกลับขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่มีกระแสข่าวการต่อรองโควตาระหว่างประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐที่ไม่ลงตัว...

nn น่าตกใจ“นิด้าโพล” ความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “บทเรียนและบทบาทพรรคประชาธิปัตย์” โพลล์ตั้งคำถามหลายข้อ ตัวอย่างเช่น เมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา พบว่า ประชาชน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 32.83 ระบุว่า ประชาชนเบื่อ/ไม่ชอบ วิธีการดำเนินงานทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 17.05 ระบุว่า นักการเมืองส่วนใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์พูดเก่งอย่างเดียวแต่ปฏิบัติไม่เป็น และคำถามที่น่าจะสะท้อนความรู้สึกของแฟนคลับประชาธิปัตย์มากที่สุดก็คือ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 31.17 ระบุว่า พรรคมีความแตกแยกมากเกินกว่าที่จะตัดสินใจทางการเมืองได้อย่างรวดเร็ว...

nn สรุป ประชาธิปัตย์จะนัดประชุมกันเพื่อลงมติว่า จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ในวันอังคารที่ 4 มิถุนายน ก่อนหน้าที่จะโหวตเลือกนายกฯเพียงวันเดียวเท่านั้น และก็ไม่แน่นักว่าเมื่อเอาเข้าจริงๆแล้วจะมีมติอย่างเป็นทางการออกมาหรือไม่?...

nn สมมุติว่า ถ้าประชาธิปัตย์มีมติเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งนั่นหมายถึงการสนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”เป็นนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรค “อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ” ซึ่งประกาศไม่สนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์”มาตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้ง จะวางตัวและกำหนดจุดยืนในพรรคอย่างไร จะลาออกจากการเป็นสส. จนถึงขั้นลาออกจากพรรคไปเลยหรือไม่ เพราะการโหวตนายกฯในครั้งนี้จะต้องทำแบบเปิดเผย นี่คือสิ่งที่ต้องค้นหาคำตอบกันต่อไป...

nn ตรวจสอบขั้นตอนการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ ดังนี้...nn1.ผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อให้ สส. โหวตลงคะแนนเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องมาจากพรรคการเมืองที่มีจำนวน สส. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของสมาชิกที่มีอยู่ นั่นหมายถึงพรรคที่จะเสนอชื่อนั้น ต้องมี สส. อย่างน้อย 25 คน จาก สส. เต็มสภาฯ จำนวน 500 คน...

nn 2.การเสนอชื่อผู้ใดเข้าสู่การโหวต จะต้องมีเสียง สส. รับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของ สส. ที่มีอยู่ หมายถึง ต้องมี สส. รับรองไม่น้อยกว่า 50 คน จากทั้งหมด 500 คน...

nn 3.การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะกระทำโดยเปิดเผย โดยเลขาธิการรัฐสภาจะขานชื่อ สส. และ สว. เรียงตามลำดับอักษร เพื่อให้ออกเสียง เห็นชอบ, ไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง.... 4.มติเห็นชอบ ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่าครึ่งหนึ่ง ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด คือจำนวน สส. และ สว. ซึ่งเท่ากับ 750 คน ดังนั้น ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่า 376 เสียง...

nn 5.หากผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด ยังมีคะแนนไม่เกินครึ่งหนึ่ง ต้องให้สมาชิกออกเสียงลงคะแนนเลือกใหม่ จนกว่าจะมีผู้ที่มีคะแนนสูงสุด และมีคะแนนเสียงมากกว่า 376 เสียง...

nn “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาฯย้ำว่า การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ จะให้ใช้เวลาในการอภิปรายเต็มที่ จะประชุมกี่วันก็ได้ นั่นหมายความว่า วันพุธที่ 5นี้ อาจจะได้ตัวนายกฯภายในวันนั้นเลย หรืออาจจะลากยาวต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้เสียงโหวตเกินครึ่งของรัฐสภา!!

คชสีห์