ขณะนี้ สังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์การแต่งกายไปประชุมสภาผู้แทนราษฎรของคุณช่อ-พรรณิการ์ วานิช ในการประชุมเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่แต่งชุดไทยทางภาคเหนือที่นุ่งผ้าซิ่นใส่เสื้อผ้าลูกไม้ปิดคอ แขนยาวเลยศอก ว่าไม่เหมาะสมกับสถานที่ประชุม
อยากจะให้พิจารณาปรากฏการณ์แต่งชุดไทยทางภาคเหนือของคุณช่อ ว่าเหมาะสมหรือไม่โดยแยกแยะเป็น 4 ประเด็น คือ
1. เสื้อผ้าชุดไทยภาคเหนือที่สวมใส่
2. สถานที่ที่ใช้ในการสวมใส่
3. ตัวคนใส่
4. ท่าทีของคนสวมใส่
หากจะพิจารณาถึงการใส่เสื้อชุดไทยภาคเหนือด้วยผ้าซิ่น และเสื้อลูกไม้ปิดคอ แขนยาวสามส่วน สำหรับสวมใส่ไปประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่ต้องพิจารณาว่า สส.ที่สวมใส่ชื่ออะไร
ผมคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะการนุ่งซิ่น ใส่เสื้อลูกไม้ เป็นชุดไทยที่สวยงาม ชาวบ้านต่างจังหวัดนิยมสวมใส่ไปทำบุญ ไปร่วมงานใหญ่ เช่น งานแต่งงาน ที่ต้องแต่งชุดงามอย่างดีไปร่วมงาน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไม่จำเป็นต้องสวมใส่เสื้อผ้า โดยใช้เสื้อสูท เหมือนที่นิยมในประเทศฝรั่งทั้งหลายที่มีอากาศหนาวเย็น การแต่งชุดไทยๆ จะเป็นไทยแท้ ไทยประยุกต์ที่เรียบร้อยไม่โป๊ ไม่เปลือย ไม่เปิดร่องอก ก็น่าจะเหมาะสมยิ่งกว่าการแต่งชุดแบบฝรั่งต่างชาติในรัฐสภาของไทย
เมื่อสมัยผมเป็นสมาชิกวุฒิสภาในปี 2543-2549 สมาชิกวุฒิสภาหญิงที่นิยมแต่งชุดไทยใส่ผ้าซิ่นเสื้อปิดคอคล้ายๆ ที่คุณช่อสวมใส่ ที่จำได้ก็มีคุณครูแดง (สว.เตือนใจ ดีเทศน์) ก็ไม่เห็นสังคมภายนอกว่ากล่าววิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด
จะมีการพูดกระแหนะกระแหน อยู่บ้าง ก็คนในสภาเอง ที่เห็นครูแดง สว.คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช สว.มาลีรัตน์ แก้วก่า และสว.แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ มีผ้าคลุมไหล่ เมื่อนั่งประชุมยาวนานหลายชั่วโมง ท่ามกลางแอร์คอนดิชั่นของรัฐสภาที่เย็นยะเยือก
เพราะผู้ชายที่นิยมใส่เสื้อสูทท่ามกลางแอร์เย็น จะไม่รู้สึกหนาวเหมือนสุภาพสตรี ก็มักจะแซวว่าทำไมต้องมีผ้าพันคอคลุมไหล่ด้วย
ผมว่าครั้งนี้ การวิพากษ์วิจารณ์ที่ดูจะดุเดือด รุนแรง เป็นเพราะคนสวมใส่ คือ คุณช่อ ที่คนจ้องจับผิด เพราะอคติในความโดดเด่นหลายเรื่องในอดีตของคุณช่อ ลองคิดดูหากไม่ใช่คุณช่อที่สวมใส่ชุดไทยทางภาคเหนือ จะมีคนพยายามแซะเธอมากเท่านี้ไหม
รวมถึงท่าทีและคำพูดที่เธอเอง ที่เคยให้สัมภาษณ์สื่อในแฟนเพจ “The hippo” บ่งบอกว่าเธอจะให้ความสำคัญกับแฟชั่นการแต่งตัวไปสภา และจะ Educate สภา เรื่องการแต่งตัว
ผู้สื่อข่าว “The hippo” ถามว่า ในอนาคตเราจะถูกพูดถึงในด้านแฟชั่นแห่งสภาไหม?
คุณช่อตอบว่า “ก็…ไม่ได้เป็นคนที่ถ่อมตัวอะไรนะคะ แต่ว่าเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่สายตาของคนมองอะค่ะ ชุดที่ดิฉันคิดว่าสวยข้าราชการที่สภาอาจจะนินทา แต่บางทีนะคะ พูดจริงๆ เครียดเหมือนกัน…เพราะว่าสภาเป็นที่ที่อนุรักษ์นิยมมาก อย่างเราไปลองชุด POEM อย่างเนี้ย ชุดเขาก็คอลึก เราก็รู้สึกว่าคอลึกไปสงสัยจะไม่ได้ หรือผ่าสูงไปคงจะไม่ได้ แต่เราจะค่อยๆ Educate สภานะคะ ว่าการแต่งตัวที่ดีและการแต่งตัวที่เปิดเผยเรือนร่างเล็กๆ น้อยๆ ของผู้หญิงนั้นเป็นอย่างไร เราก็จะค่อยๆ ทำตรงนี้ไป...?”
ถ้าผมเป็นคุณช่อ ก็ควรจะรู้ตัวว่าขณะนี้มีคนเขามองเราด้วยท่าทีอย่างไร มีอคติในทุกๆ เรื่องเกี่ยวกับตัวเราอย่างไร คนกลุ่มใดที่มีท่าทีเช่นนั้น
ผมว่าท่าทีของคุณช่อที่ไปยืนโพสท่าให้สื่อถ่ายภาพ และหมุนตัวไปมาน่าจะเป็นกิริยาท่าทางที่เกินพอดี ไม่ว่าถูกลูกยุหรือถูกขอร้องให้ทำจากสื่อมวลชนบางคนก็ตาม
การเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย คือ เป็น สส. ไม่ใช่นางแบบที่ต้องโพสท่า หมุนตัวให้ถ่ายภาพ สร้างความขัดแย้งในท่าทีบทบาทของ สส. ที่ต้องจริงจังรับใช้ประชาชนในฐานะตัวแทน
สรุป จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาที่ชุดไทยทางภาคเหนือที่สวมใส่ในการประชุมสภา แต่เป็นปัญหาที่อคติไม่ชอบคนสวมใส่ และท่าทาง ท่าทีของคนสวมใส่
ขณะเดียวกัน คุณธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญยกร่างข้อบังคับการประชุม ถึงกับจะขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร (คุณชวน หลีกภัย) เป็นผู้กำหนดว่าให้แต่งกายอย่างใด เหมือนในอดีตที่เคยกำหนดว่าจะแต่งสีใดได้บ้าง
ผมคิดว่า อย่าขนาดนั้นเลยครับ ตัวแทนปวงชนชาวไทย ไม่ใช่เด็กที่คิดไม่เป็น เด็กที่คิดเป็นเขายังไม่ยอมให้บังคับแต่งกายเลยครับ อนาคตของบ้านเมืองฝากไว้กับผู้แทน คือ สส. และสว.ในการนำพาบริหารบ้านเมือง ออกกฎหมายข้อบังคับสำหรับคนในประเทศ
ต้องให้เกียรติว่าเขาจะคิดเองในเรื่องการแต่งกายที่เหมาะสมกับสถานการณ์ และสถานที่ได้ หากจะมีคนคิดไม่ได้ หรือคิดแปลกไปบ้างอย่างสภาในสมัยที่แล้ว ที่มีจ่าตำรวจคนหนึ่งใส่สูทสีแดงสดในการประชุมสภา ประชาชนเขาก็จะควบคุมพฤติกรรมกันเอง
หรืออย่างเช่น สว.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่ย้อมผมหลากสี เริ่มแรกก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์ แต่สังคมก็ใจกว้างยอมรับความแตกต่าง นับเป็นความสวยงามของสังคม
สังคมควรจะติดตามการทำงานของ สส. และ สว.ที่อาสาเป็นตัวแทนของเราได้ทำหน้าที่ตัวแทนดีแค่ไหน ศึกษาทำการบ้านรับฟังความเห็นของประชาชนแค่ไหน หรือหลอกให้เลือกแล้วหลังเลือกตั้งก็มีพฤติการณ์ไปอีกอย่าง ดีกว่าจะไปจับผิดเรื่องเปลือกนอกของ สส. และสว.มากเกินไป
นักการเมืองผู้หญิงมักจะถูกทำลายชื่อเสียงในเรื่องชู้สาวและการแต่งกาย ส่วนนักการเมืองผู้ชายมักจะถูกทำลายด้วยการเป็นผู้มีอิทธิพล และคอร์รัปชั่น โกงกิน
ประเทศไทยมี สส. และ สว. ที่เป็นเพศหญิงจำนวนน้อยมากอยู่แล้ว ยังต้องมาวุ่นวายเสียเวลาถูกวิจารณ์เรื่องการแต่งกาย ถ้า สส.หรือสว.ที่เป็นหญิงมั่นใจว่าแต่งชุดที่เหมาะสมกับการทำหน้าที่ในรัฐสภาของประเทศไทย ก็แต่งเลยครับ เพียงแต่อย่าเปลี่ยนชุด เปลี่ยนแนว เปลี่ยนรสนิยมบ่อยมากนัก จะทำให้คนสนใจติดตามแต่เปลือกนอก ไม่ได้สนใจการทำงานในระบอบรัฐสภาและประชาธิปไตย
ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี