“บุคคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ที่ยึดมั่น “จรรยาบรรณ”-“อุดมการณ์” หนักแน่น ตรงไป ตรงมา ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขอยืดอกเผชิญหน้าแกนนำ “พรรคอนาคตใหม่” ที่ส่อแววว่าจะเป็นดาวอับแสงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากที่พบว่าช่วงระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งสส. 26 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สร้างวาทกรรมทางการเมืองประหนึ่งเป็นความหวังใหม่ที่ต้องการทำการเมืองไทยให้ใสสะอาด...
nn เหมือนอย่างที่อดีต “นายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร” ที่ร่ำรวยประสบความสำเร็จทางธุรกิจมีฐานะร่ำรวย ขันอาสามาทำงานเพื่อบ้านเมืองผู้สร้างวาทกรรม “ตาดูดาวเท้าติดดิน”เรียกว่ารวยแล้วไม่โกง แต่สุดท้ายก็ปลิ้นปล้อนหลอกลวงกอบโกยผลประโยชน์ประเทศชาติ บรรณาการเครือญาติและพวกพ้องสืบทอดอำนาจล้างผลาญเงินหลวง จนต้องหลบหนีอาญาแผ่นดินอยู่ในต่างแดน...
nn ธนาธร ในฐานะ อดีตอุปนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) เมื่อปี 2542 และรองประธานสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนนท.ในปี 2543 อดีต“แอคทิวิสต์-Activist” ผู้คลั่งไคล้และชื่นชม “ทฤษฎี คาร์ล มาร์ซ และ วลาดีมีร์เลนิน” ซึ่งดูเสมือนผู้มีความคิดที่งดงาม blind trust (บลายด์ ทรัสต์) พูดง่ายๆก็คือการที่นักการเมืองนำทรัพย์สินของตนเองไปให้นิติบุคคลบริหารจัดการทรัพย์สินตนเองทั้งหมด โดยให้ บลจ.ภัทร เป็นผู้ดูแล เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำทางกฎหมาย และ เพื่อสร้างมาตรฐานจริยธรรมนักการเมือง ซึ่งจะทำให้เขาปราศจากข้อครหาใช้อำนาจทางการเมืองเกื้อหนุนธุรกิจหมื่นล้าน (กลุ่มบริษัทไทยซัมมิท) ของตนเอง แม้จะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะมีนักการเมืองไทยหลายคน บลายด์ ทรัสต์ มาก่อนที่ ธนาธร จะรู้เดียงสาทางการเมือง แต่ก็ทำให้ประชาชนมอบความไว้วางใจเลือกพรรคสีส้มเข้าสภาถล่มทลาย...
nn สุดท้ายก็แค่การผายลมประสมสำรอกรดหัวคนไทยทั้งประเทศ ใบเสร็จนี้ชัดเจนยิ่ง เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ผู้นี้ ร่ำรวยอู้ฟู่กว่า 5 พันล้านบาท และยังกล้าหาญชาญชัยแสดงหลักฐานทำธุรกิจการเมืองอย่างเปิดเผย นั่นคือ “การปล่อยเงินกู้ให้กับพรรคอนาคตใหม่ของตนเองเกือบสองร้อยล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีและอีกสัญญาร้อยละ 2.5 ต่อปี เข้าตำรา “อัฐยายซื้อขนมยาย” ยังไงยังงั้น อย่างนี้ก็ได้ด้วยหรา???? เท่ากับว่า “อนาคตใหม่” กล้ากระทำในสิ่งที่กฎหมายไม่อนุญาตให้พรรคการเมืองดำเนินการได้ เฉกเช่นที่ “น้าเหลิมดาวเทียม”เคยสำรอกไว้กลางสภาอันทรงเกียรติเพื่อปกป้องผู้มีพระคุณอย่างนายใหญ่ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ว่า “ทักษิณไม่ได้โกงไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย แต่กระทำการในเรื่องที่กฎหมายห้ามเท่านั้น นั่นคือผิด กฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 100” โดยเฉพาะที่มาของเงินหรือรายได้ของพรรคการเมือง 7 ช่องทาง เช่น การระดมเงินทุน การขายของที่ระลึก เงินบริจาคฯลฯ แต่กระนั้นก็ยังมีข้อบังคับเกี่ยวกับการบริจาคสนับสนุนพรรคการเมืองรายละไม่เกิน 10 ล้านบาทเท่านั้น เจตนารมณ์ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองที่บัญญัติควบคุมพรรคการเมือง ก็เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มทุนครอบงำพรรค “ปิยบุตรแสงกนกกุล” เลขาฯพรรค ในฐานะมือกฎหมายที่อ้างไว้เมื่อครั้งอภิปรายทั่วไปพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามมาตรา 152 เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า อ่านและศึกษากฎหมายรัฐธรรมนูญมาครึ่งชีวิตอย่าเอาสีข้างถูยกหางดั้นเมฆอ้างกฎหมายมหาชนแบบผิดเพี้ยนทำให้สังคมเกิดความสับสน ระบุว่าในเมื่อไม่มีข้อห้ามพรรคการเมืองกู้เงิน ก็สามารถทำได้ ตีความกฎหมายแบบ “ศรีธนญชัย” ตีกินเอาเปรียบพรรคการเมืองคู่แข่งลงทุนทำธุรกิจการเมืองจนได้รับเลือกตั้งพลิกความคาดหมายอย่างนี้ ไม่ละอายใจกันบ้างหรือไม่ ซ้ำยังวางตัวทำหน้าที่เป็น “ศาล” พูดเองเออเอง นัยว่าแม้พรรคอนาคตใหม่จะมีความผิดกู้เงินจาก “เถ้าแก่ธนาธร” ก็จะไม่รุนแรงถึงขั้นยุบพรรค!!! ถ้า “ไม้หน้าสาม” จะเปรียบเปรยอาจารย์นักกฎหมายผู้เปรื่องปราดท่านนี้แค่คนประเภท “ลิงแก้แห” จะสาแก่ใจแฟนคลับสีส้มหรือไม่หนอ...
nn คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และบังคับใช้กฎหมายดูแลพรรคการเมือง เห็นอย่างไรกับพฤติกรรมตีกิน เอาเปรียบของพรรคอนาคตใหม่ เอาเปรียบพรรคการเมืองคู่แข่งในการเลือกตั้งที่ผ่านมาหรือไม่ ใช้เงินกู้จำนวนมากมายเพื่อชัยชนะทางการเมืองโดยไม่แยแสต่อกฎหมายบ้านเมืองหรือไม่ จะต้องให้คำตอบกับสังคมไทยที่เฝ้าจับตามองอยู่ที่สำคัญหัวหน้าพรรค เลขาฯ และโฆษก ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขเงินกู้ไม่ตรงกันเลย ไม่รู้ใครโกหกมุสาคำโตกันแน่หรือจะเป็นว่า ทุกคนล้วนพูดความจริงหมด แต่ตัวเลขนั้นต่างกรรมต่างวาระกันแน่...
nn โยนผ้าเสียแล้ว สำหรับแกนนำคนเสื้อแดงสั่งการบุก “บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ” ศาลฎีกามีคำสั่งเลื่อนตัดสินออกไป เนื่องจากแกนนำ 4 คนพลิกลิ้นส่งหนังสือถึงศาลขอยกเลิกคำให้การเดิมกลับเป็นรับสารภาพ พร้อมร้องขอศาลฎีกาให้เมตตาปรานีลงโทษสถานเบา หากศาลฎีกาสั่งให้จำเลยติดคุกก็ให้ “รอลงอาญา”...
nn แกนนำอย่าง “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” บอกว่ารู้สึกสำนึกในความผิดที่เกิดขึ้น ก็สุดแท้แต่ศาลฎีกาท่านจะเมตตามากน้อยเพียงใด ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกจำเลย 4 ปี 4 เดือน และศาลอุทธรณ์ลดโทษลงเหลือ2 ปี 8 เดือน คงต้องมาลุ้นกันว่าเมื่อจำเลยสำนึกผิดยอมกลับคำรับสารภาพจะทำให้รับโทษทัณฑ์เบาบางลงหรือไม่??...
nn หรือหากมองว่า จำเลยจำนนต่อหลักฐาน คำรับสารภาพหาได้เกิดประโยชน์ใดต่อรูปคดีก็สุดแท้แต่ คงต้องติดตามกันต่อไปเกี่ยวกับคดีความของเสี่ยเต้น สู้แล้วรวย วานนี้ “ไม้หน้าสาม”มีโอกาสไปแวะเวียนที่สมาคมนักหนังสือพิมพ์ฯ (ไร่ส้ม) แอบได้ยินเสียงพูดคุยของพี่น้องในแวดวงสื่อปรับทุกข์ถามสุขกันตามประสาอีกาประสาพิราบขาวรวมถึงวิเคราะห์คดี "เสี่ยเต้น" บุกบ้านป๋าเปรม จู่ๆ ก็มี “นางเผือกไพร่แดง” มาจากไหนไม่รู้ วิเคราะห์ว่าจะมีแกนนำนปช.อีกกี่รายต้องติดคุก และอีกกี่รายจะหนีอาญาแผ่นดินตาม กี้ร์-อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นางเผือกสาวกไพร่แดงออกมาเป็นทนายหน้าหอแก้ต่างให้กับเสี่ยเต้นทันทีว่า เป็นคนมีสัมมาอาชีพมีร้านอาหารก่อร่างสร้างตัวจนร่ำรวย ผิดกับนายกฯลุงตู่ เป็นนายกฯมาแค่ 5 ปี ร่ำรวยอะไรมาจากไหนมีทรัพย์สินมากถึง 2 พันล้านบาทมาสืบทอดอำนาจโกงบ้านกินเมือง “ไม้หน้าสาม” ได้แต่มองหน้า “นางเผือกไพร่แดง” อย่างระอาแก่ใจจนสมเพชคิดได้อย่างไรเอาคนอย่างไอ้เต้นมาเปรียบเทียบกับลุงตู่ ดีๆ ชั่วๆ“ลุงตู่เขาเป็นอดีตผบ.ทบ.” ส่วนไอ้เต้นสู้แล้วรวย ทำมาหากินอยู่กับสภาโจ๊กมันจะรวยมาจากไหนซื้อบ้านแสนสิริหลังละหลายล้านบาท สู้แล้วรวย สู้จนได้เป็นรัฐมนตรี...
nn แค่เสลดอารมณ์ป่วยการโต้แย้ง “นังเผือกไพร่แดง” ก็แค่อยาก “สาแก่ใจ” ให้สังคมรับรู้ว่า นี่แหละที่เขาเรียก "นังเผือกไพร่แดง" ว่ามนุษย์ป้าประเภท “กะโหลกหนา ปัญญากระบือ” โง่จนวันตาย บูชาสองโจรพี่น้องหนีอาญาแผ่นดินปล่อยให้ลูกน้องติดคุกก็ไม่ว่ากัน...
nn ดีเดย์กันไปเมื่อวันสองวันที่ผ่านมานี้ สำหรับ www.ชิม ช้อป ใช้.com ปรากฏว่าเว็บล้มแต่ไก่โห่ หลังจากที่ประชาชนให้ความสนใจแห่เข้าไปลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิจากรัฐบาลแจกเงินมูลค่า1 พันบาท เข้ากระเป๋าวอลเล็ท และยังสามารถเติมเงินใส่กระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ รับเงินทอนอีกร้อยละ 15 สูงสุดไม่เกิน 4.5 พันบาท ซึ่งนโยบายนี้คือหนึ่งในมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และน่าจะนำไปปรับใช้ในโอกาสต่อไป โดยเฉพาะการเยียวยาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัติอย่างเช่นอุทกภัยที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากฎระเบียบราชการมันล้าสมัยไม่ทันกับสถานการณ์ปัจจุบันเสียแล้ว...
nn อย่าให้นักเลงคีย์บอร์ดกับอดีตนักการเมืองดัดจริตอย่างเจ๊ดัดจริตหญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เพื่อไทย ตีกินทางการเมือง เร่งให้รัฐบาลนำเงินบริจาคช่วยเหลือประชาชนเป็นการด่วน แล้วไง ส่วนกรณี “ยิ่งลักษณ์ชินวัตร” อดีตนายกฯโกงชาวนาทิ้งหนี้ให้ประเทศนับแสนล้านบาทในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ใช้อำนาจบ้าบิ่นแจกเงินเยียวยาไพร่แดงเสียชีวิตหัวละ 7 ล้านบาท โดยไม่มีกฎหมายรองรับสุดารัตน์จะรับอาสาติดคุกแทนคนตระกูลชินวัตรหรือไม่ ปากเจ๊หญิงดัดจริต อมอะไรไว้ไหนช่วยบอกทีจะดำเนินการอย่างไรกับ “อัปรีย์-จัญไรที่โกงบ้านกินเมือง” พวกนี้ ...00...
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี