วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ขอคิดด้วยฅน
ขอคิดด้วยฅน

ขอคิดด้วยฅน

เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
วันจันทร์ ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
อย่าทำให้การแจกเงินแสนล้าน เป็น‘มาตรการสิ้นคิด’

ดูทั้งหมด

  •  

ทันทีที่กระทรวงการคลัง ออกแนวคิดกำหนดนโยบายทุ่มเงินนับแสนล้านเพื่อแจกให้ประชาชน 14 ล้านคน เพื่อสู้ผลกระทบ โควิด-19

รัฐบาลก็มีแนวคิดตั้งกองทุนสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเบื้องต้นนำเงินเดือนของรัฐมนตรีมาบริจาค และหากประชาชนจะร่วมบริจาคเงินสมทบที่บัญชีของธนาคารกรุงไทยก็ได้


จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความย้อนแย้ง ว่ารัฐบาลจะนำเงินภาษีประชาชนไปแจกประชาชน แต่ขณะเดียวกันก็เชิญประชาชนร่วมบริจาคเงินเพื่อไปสู้ภัย โควิด-19 ทำไมจึงไม่เอาเงินภาษีไปใช้ในการต่อสู้กับโรคติดต่อโดยตรง ?

หากจะช่วยอธิบายแทนรัฐบาล ก็อาจจะบอกได้ว่าเป็นคนละส่วนกัน คือ กระทรวงการคลังต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา จากผลของโรคระบาด

เมื่อ “ คิดอะไรไม่ออก ก็แจกเงิน” เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ และรัฐบาลก็ได้หน้า ได้ตา ได้เครดิตในระบบอุปถัมภ์

ส่วนการต่อสู้กับโรคร้าย รัฐบาลก็มีเงินภาษีอีกส่วนอยู่แล้ว แต่ถ้าได้แสดงการเสียสละเงินเดือน 1 เดือนของคณะรัฐมนตรีแล้วใครอยากสมทบด้วยก็ยิ่งดี

บทความนี้ ไม่ประสงค์จะจับผิดรัฐบาล ถึงความย้อนแย้งขัดกันในนโยบายและมาตรการดังกล่าว แต่ต้องการจะเสนอแนะรัฐบาลและทางเลือกของการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่ใช่การแจกเงินอย่างเดียว

1. การจ่ายเงิน เป็นนโยบายที่สิ้นคิด คือ ไม่ต้องคิด เพราะสะดวกรวดเร็วแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและก็หวังว่าเงินนับแสนล้านก็จะกระจายเพื่อจับจ่ายใช้สอย ซึ่งก็พอจะได้ผลอยู่บ้าง

แต่การแจกเงินก็มีข้อเสีย คือ เสียโอกาสที่จะนำเงินภาษีดังกล่าวมาใช้พัฒนาปรับปรุงความสามารถในการผลิตหรือความสามารถในการแข่งขัน เพื่อการเจริญเติบโตของชาติโดยรวม ยิ่งกว่านั้น การแจกเงินเป็นการทำลายหรือตอกย้ำวัฒนธรรมระบบอุปถัมภ์ ที่ให้ประชาชนหวังพึ่งพิง พึ่งพานายผู้มีอำนาจมีทรัพยากร แทนที่จะพึ่งพาตนเอง พัฒนาความสามารถความมั่นใจตนเอง แล้วระยะยาวสังคมไทยประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

2. การแจกเงิน ถ้าพัฒนาขึ้นเป็นการสร้างระบบ เพื่อเป็นสวัสดิการอย่างถาวรและเอื้อความมั่นคงในการดำรงชีวิตของคนจน ก็คงจะดีกว่าการแจกเงินแบบดิบๆ เปล่าๆ เปลือยๆ แต่ก็คงไม่ทันกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพราะสังคมของเราไม่ค่อยจะคิดแก้ไขที่ระบบซึ่งต้องมองการณ์ไกล แต่นิยมแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในแต่ละครั้งอยู่แล้ว

3. หากรัฐบาลจะไม่นำเงินนับแสนล้าน ละลายไปกับการแจกเงิน และเสี่ยงที่เงินจะกลับไปกระจุกอยู่กับนายทุนที่เป็นเจ้าของกิจการที่เข้าถึงชาวบ้านอยู่แล้ว หรือกระจุกอยู่กับนายทุนที่รับชำระหนี้เงินกู้

1) รัฐบาลควรคิดที่จะนำเงินงบประมาณดังกล่าว มาพัฒนาทางเท้า (ฟุตบาท) ของประชาชนทั้งคนเมืองและคนชนบท

ทางเท้าในเมืองใหญ่และเมืองเล็กของไทย คนเดินเท้าจะต้องเผชิญสภาพปัญหาคล้ายการเดินป่า ต้องเผชิญกับพื้นที่สูงต่ำไม่เรียบ คนเดินต้องก้าวขึ้น-ลงตลอดเวลาพื้นผิวก็ไม่เรียบเป็นหลุมเป็นบ่อ

เดินตรงๆก็ไม่ได้ ต้องเลี่ยงโยกตัวออกขวา-ซ้าย เพื่อหลีกเลี่ยงโต๊ะม้าหินที่ร้านค้านำมาวาง แล้วยังพบกระถางต้นไม้และข้าวของวางขายอีกด้วย

ยิ่งกว่านั้น ร้านค้าจับจองทางเท้า (ฟุตบาท) เสมือนเป็นที่ของตนเองปรับระดับให้สูงกว่าปกติ บางแห่งก็ปูกระเบื้อง วางต้นไม้และม้านั่งเล่น

ทำให้คนเดินเท้าต้องเดินลงถนนเป็นช่วงๆ เมื่อเดินกลับขึ้นมาบนทางเท้า ก็จะพบทางเท้าขาดตอน ที่เว้นทางรถยนต์เข้าบ้านของผู้ที่อยู่ริมถนน

เดินขึ้นทางเท้าอีกครั้ง ก็ต้องคอยหลบป้ายโฆษณา ป้ายประชาสัมพันธ์ สายไฟ สายโทรศัพท์ ตู้โทรศัพท์

ตาก็ต้องดูพื้น เพราะอาจลื่นไปกับทางเท้าที่มีคนราดน้ำ น้ำมันหรือของเหลวต่างๆ

ในเมืองใหญ่ จะเดินข้ามถนนก็แสนยากลำบาก เพราะเราออกแบบการสัญจรโดยให้รถยนต์ได้สิทธิ์บนถนนก่อนคนเดินเท้า ประชาชนคนเดินเท้าต้องปีนบันไดขึ้นสะพานลอยแล้วปีนบันไดลงสะพานลอย

ความจริง สภาพจราจรในเมืองใหญ่ที่รถยนต์หนาแน่นติดขัดอยู่แล้ว ทางเดินข้ามถนนที่เรียกว่าทางม้าลายก็ไม่ทำให้รถยนต์ติดมากขึ้น หากพัฒนาให้ดี มีไฟสัญญาณและเสียงสัญญาณให้เป็นระบบ จะช่วยได้มาก และประหยัดกว่าสะพานลอยคนเดินข้ามถนนที่ใช้งบประมาณเป็น 10 ล้านบาทต่อแห่ง

 

 

หลายประเทศ เมื่อคนเดินเท้าได้สัญญาณข้ามถนนจะมีหมุดยกสูงขึ้น เพื่อกันไม่ให้รถยนต์ฝ่าไฟแดงเข้ามา ในประเทศญี่ปุ่นมีหลายเมืองถึงกับมีจังหวะไฟแดงทุกแยกให้รถหยุดพร้อมกัน ทั้งนี้เพื่อให้คนสามารถเดินข้ามแยกทั้งทางตรงและทแยงได้เป็นการระบายคนข้างถนนในเขตที่มีผู้คนหนาแน่น

การพัฒนาทางเท้าและระบบเพื่อคนเดินเท้าทุกเมืองในประเทศไทยที่มีจำนวนหลายร้อยเมือง หากทำเสียพร้อมๆกันจะเป็นการใช้งบประมาณหลายหมื่นล้าน ที่จะนำไปใช้จ่ายจ้างงานได้อย่างรวดเร็วพอสมควร

เครื่องจักรขนาดใหญ่ก็ไม่สามารถดำเนินงานลักษณะนี้ได้ การจ้างงานบริษัทเล็กบริษัทใหญ่ก็สามารถทำได้ทั่วถึง และเงินจะตกเป็นรายได้ให้แก่ผู้ใช้แรงงานเพื่อจับจ่ายใช้สอยต่อไป

สังคมไทยก็จะได้การพัฒนาทางเท้าที่สอดคล้องกับสังคมสูงวัย ที่ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ
ถึง 30% ของประชากรทั้งประเทศใน 15 ปีข้างหน้า

การปรับสภาพทางเท้าจะได้ทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงานจากการปรับสภาพแวดล้อมที่ทุกคนสามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งคนสูงอายุ คนพิการ เด็กและคนหนุ่มสาว

2) ประเทศไทยจะเกิดภาวะแห้งแล้ง น้ำขาดแคลนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และในอนาคตก็จะเกิดภัยแล้งเป็นระยะๆ เกือบทุกปีอย่างแน่นอน

การจะพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อให้มีน้ำต้นทุนมากขึ้นเป็นเรื่องยากลำบาก ขณะเดียวกันระบบจัดสรรน้ำในปัจจุบันทั้งคลองซอย คลองไส้ไก่ที่ส่งน้ำถึงไร่นา ประเทศของเราก็หยุดพัฒนาไปนานแล้ว

หากกระจายงบประมาณให้แต่ละท้องถิ่น สร้างแหล่งน้ำขนาดย่อมไม่ว่าจะเป็นฝายน้ำล้น สระหรือบ่อน้ำ ธนาคารน้ำใต้ดิน (ทั้งระบบเปิดและระบบปิด) หรือแหล่งน้ำขนาดเล็กอื่นๆที่เหมาะสมสอดคล้องกับท้องถิ่นโดยด่วน ก็จะเป็นการกระจายงานและกระจายเงินไปในชุมชนชนบท เกิดทั้งงานเกิดทั้งการรวมตัวของชุมชนท้องถิ่นในการทำกิจกรรมในเรื่องน้ำที่เขาให้ความสำคัญอย่างยิ่งอยู่แล้ว

 

 

การพัฒนาคลองซอย คลองไส้ไก่ เพื่อการส่งน้ำอย่างมีประสิทธิภาพในแต่ละชุมชนก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน

การส่งเสริมให้ชุมชนบริหารจัดการน้ำด้วยตัวเขาเอง ให้มีการเก็บค่าน้ำ แล้วนำเงินเข้ากองทุนพัฒนาน้ำของชุมชนท้องถิ่นของเขาเอง ก็น่าจะเกิดประโยชน์

เพราะผู้ใช้น้ำที่อยู่ต้นน้ำก็จะไม่ใช้น้ำมากเกินจำเป็น เพราะต้องเสียค่าน้ำมากขึ้นปลายน้ำก็จะได้รับจัดสรรน้ำที่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน หากระบบการจ่ายค่าน้ำมิได้นำเงินออกนอกชุมชนหรือเข้าสู่ส่วนกลางชาวบ้านจะรับได้ เพราะปกติชาวบ้านก็ทำระบบเหมืองฝายที่มีการจ่ายค่าน้ำในรูปของข้าว หรือในรูปของแรงงานที่มาทำงานสร้างและปรับปรุงเหมืองฝายอยู่แล้ว

ทั้งนี้ เป็นตัวอย่างเป็นทางเลือก หากจะไม่ใช้นโยบาย “มาตรการสิ้นคิด” ที่แจกเงินอย่างเดียว แต่สามารถพิจารณาทางเลือกอื่นที่ได้ทั้งการกระจายเงิน กระจายงานกระจายอำนาจการตัดสินใจและได้ผลิตผล ผลิตภาพ (productivity) แก่ประเทศ ทั้งแก้ปัญหาระยะสั้นและสอดคล้องกับปัญหาระยะยาว

เราจะได้ไม่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วย“มาตรการสิ้นคิด” แจกเงินอย่างเดียวให้เป็นที่เย้ยหยันอีกต่อไป

 

ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:52 น. 'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!
22:29 น. น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น
22:22 น. ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม
22:13 น. ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย
21:41 น. หนีคดี 19 ปี! รวบแล้ว ‘มือมีด’ วัย 43 แทง ‘นักเรียนนายร้อย’ เสียชีวิต
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
ปิดตำนาน156ปี! 'กษัตริย์ชาร์ลส์'ประกาศปลดระวาง'รถไฟหลวง' สมาชิกราชวงศ์ไปใช้รถไฟปกติแทน
'เท้ง'แย่แล้ว!! เจอขบวนรถทัวร์แห่คอมเมนต์แจกพยัญชนะไทยฉ่ำ!!
บิ๊กเนม'ปชป.'ร่วมวงเพียบ!! 'คุณหญิงกัลยา'ตั้ง'พรรคไทยก้าวใหม่' พร้อมตั้ง'สุชัชวีร์'นั่งหัวหน้าฯ
‘ทักษิณ‘ พร้อมลูกสาว ’เอม พินทองทา‘ เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก คดี ม.112
ดูทั้งหมด
ต้องเลือกตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือ
บุคคลแนวหน้า : 6 กรกฎาคม 2568
ชีวิตประจำวันของผม-การทำงาน
หน้าต้องทนสูงมาก จึงทำแบบนี้ได้
วิวาทะ ว่าด้วย‘อภิปรายไม่ไว้วางใจ’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!

ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม

หนีคดี 19 ปี! รวบแล้ว ‘มือมีด’ วัย 43 แทง ‘นักเรียนนายร้อย’ เสียชีวิต

อุบตอบมีชาติไหนบ้าง?! 'ทรัมป์'ลงนามจดหมายแจ้งภาษีตอบโต้12ประเทศ พร้อมร่อน7ก.ค.นี้

โหดเหี้ยม! คนร้ายซุ่มยิง‘ตำรวจ’ สภ.กรงปินัง เสียชีวิต หน้าร้านสะดวกซื้อใน จ.ยะลา

'องค์ดาไลลามะ'หวังมีพระชนม์ชีพยืนยาวนานถึง130ปี ก่อนกลับชาติมาเกิดเป็นผู้นำทิเบต

  • Breaking News
  • \'อดีต ส.ว.สมชาย\'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!! 'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!
  • น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง\'อดีตรองเสธ.กัมพูชา\' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น
  • ครั้งแรกในรอบ102ปี! \'ฝรั่งเศส\'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม
  • ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย
  • หนีคดี 19 ปี! รวบแล้ว ‘มือมีด’ วัย 43 แทง ‘นักเรียนนายร้อย’ เสียชีวิต หนีคดี 19 ปี! รวบแล้ว ‘มือมีด’ วัย 43 แทง ‘นักเรียนนายร้อย’ เสียชีวิต
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

วิกฤติรัฐธรรมนูญ  ใคร พายเรือให้ทหารนั่ง

วิกฤติรัฐธรรมนูญ ใคร พายเรือให้ทหารนั่ง

28 ก.ย. 2563

รัฐธรรมนูญใหม่ ฉบับประชาชน

รัฐธรรมนูญใหม่ ฉบับประชาชน

20 ก.ย. 2563

จดหมายเปิดผนึก  ถึงรมว.กระทรวงพลังงาน

จดหมายเปิดผนึก ถึงรมว.กระทรวงพลังงาน

14 ก.ย. 2563

ดีใจ  คนรุ่นใหม่คิดเป็น

ดีใจ คนรุ่นใหม่คิดเป็น

7 ก.ย. 2563

๙ ปี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์

๙ ปี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์

31 ส.ค. 2563

ห่วงประเทศ

ห่วงประเทศ

24 ส.ค. 2563

กินและบิณ

กินและบิณ

17 ส.ค. 2563

บ่อนทำลายประเทศไทย

บ่อนทำลายประเทศไทย

10 ส.ค. 2563

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved