วันเสาร์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568

การทุจริตคิดมิชอบฉ้อราษฎร์บังหลวงที่เกิดขึ้นทั่วทั้งโลกมานานแล้วและไม่มีใครให้ความสนใจมากนักทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศเองก็พูดกันไม่ออกในขณะที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดทำอันตรายชาวโลกเป็นจำนวนหลายล้านคน และมีคนตายไปแล้วมากกว่า 3 แสนคน นั้นคือ ปัญหาที่แพทย์ผู้รักษาโรคมีนอกมีในกับดีเทลของบริษัทยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งปัญหานี้หมักหมมกันมานานนักหนาเป็นร้อยปีแล้วทั้งในไทยและประเทศที่เจริญแล้วเช่นในสหรัฐอเมริกาและหลายๆประเทศในยุโรป
ในบ้านเรานั้นเมื่อไม่นานมานี้มีหนังสือจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ ครม. เรี่องมาตรการป้องกันทุจริตกรณีผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่โรงพยาบาลรับเงินจากดีเทลยาของบริษัทยาเป็นปมเงิน 24.4 ล้าน ในบัญชีกองทุนสวัสดิการโรงพยาบาลระยอง ต่อมามีกรณีปัญหาที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่นเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง กรณีโรงพยาบาลรับเงินบริษัทยา
กรณีโรงพยาบาลขอนแก่นนั้นกระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งให้ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุลผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ไปปฏิบัติงานที่กองบริหารการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข และให้นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า ดำรงตำแหน่งรักษาราชการผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น แทน สื่อมวลชนได้ไปถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ในเรื่องนี้แต่นายอนุทินได้เลี่ยงไม่ยอมตอบในเรื่องนี้
หลังจาก นพ.ชาญชัยถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกรณีมีผู้ร้องเรียนในลักษณะบัตรสนเท่ห์ว่า นพ.ชาญชัยเรียกรับเงินจากบริษัทยาร้อยละ 5 ซึ่งเข้าข่ายเรียกรับผลประโยชน์ต่างตอบแทน ระหว่างเดือนมี.ค.-ต.ค.2561 ขณะที่ นพ.ชาญชัยชี้แจงว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากการรับเงินบริจาคจากบริษัทยานั้นมีมาตั้งแต่ปี 2508 แต่ภายหลังได้รับคำสั่งจากทางกระทรวงเมื่อเดือนมี.ค. ปี 2561ได้ประชุมกรรมการบริหารและทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องงดรับเงินบริจาคจากบริษัทยา แต่ยอมรับว่าในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค.2561 มียอดเงินบริจาคผ่านกองทุนพัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่น เดือนละ 1 ล้าน3 แสนบาท จากปกติจะมียอดบริจาคเฉลี่ยเดือนละ 2 ล้านบาท ซึ่งก็เข้าใจว่าเงินบริจาคไม่ได้มาจากบริษัทยา เนื่องจากได้ทำหนังสือแจ้งไปยังทุกหน่วยงาน
รวมถึงบริษัทยาด้วย ทั้งนี้ นพ.ชาญชัย เผยว่า ภายหลังกระทรวงมีคำสั่งให้งดรับเงินบริจาคจากบริษัทยา ในเดือนพ.ย. ปี 2561 ทางโรงพยาบาลได้ปิดกองทุนพัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่น โดยให้ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา บริจาคผ่านบัญชี “เงินโรงพยาบาลขอนแก่น” แทน
ประเด็นการโยกย้ายนำมาซึ่งการเคลื่อนไหวคัดค้านของบุคลากรเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลขอนแก่นและแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ในขณะนี้ เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า โรงพยาบาลในสังกัดรัฐบาลนั้นได้รับเงินบริจาคจากบริษัทยามานานมากกว่า 60 ปีแล้ว ซึ่งเป็นการต่างตอบแทนกัน
ระหว่างบริษัทยากับโรงพยาบาลและแพทย์ด้วย แต่เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2560 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ มาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการเบิกจ่ายยาตามสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ
ข้อเสนอแนะในเชิงระบบก็คือ การกำหนดหลักเกณฑ์การจัดซื้อยา (ข้อ 1.3) “ห้ามไม่ให้หน่วยงานที่ทำการจัดซื้อทำการหารายได้ในลักษณะผลประโยชน์ต่างตอบแทนทุกประเภทจากบริษัทยาเข้ากองทุนสวัสดิการพยาบาล” และให้หน่วยงานที่ทำการจัดซื้อใช้กลไกต่อรองราคาตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติกำหนด
โดยระบุว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ได้รับเรื่องกล่าวหาร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตในกระบวนการเบิกจ่ายยาตามสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ซึ่งพบว่ามีการกระทำในลักษณะของการทุจริตจำแนกออกเป็น3 กลุ่มใหญ่ คือกลุ่มผู้ใช้สิทธิและเครือญาติมีพฤติกรรมตระเวนใช้สิทธิรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลต่างๆทุก 1-3 สัปดาห์
คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นสมควรเสนอมาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการเบิกจ่ายยาตามสิทธิสวัดิการรักษาพยาบาลข้าราชการต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่ หรือการกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ ตามมาตรา 19 (11)แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้เพิ่มเติมปี 2554
ปัญหาทุจริตในโรงพยาบาลนั้นมีมานานแล้ว ในต่างประเทศเองก็มีข่าวในทำนองนี้บ่อยๆ ในไทยนั้นมีเอ็นจีโอที่เป็นอดีตแพทย์ที่เกษียณจากงานแล้วได้ไปตั้งมูลนิธิเคลื่อนไหวในเรื่องสุขภาพเป็นที่รู้กันมานานว่าได้ทุนจากต่างประเทศมีการแลกรับผลประโยชน์กันตลอดมาเป็นสิบๆ ปี เป็นข่าวที่ไม่มีใครเปิดเผย สังคมสงสัยว่าแพทย์บางคนมีฐานะร่ำรวย ทั้งๆ ที่ไม่ได้รักษาคนไข้แล้วแต่ทำไมมีเงินไปเที่ยวรอบโลกบ่อยครั้งได้อย่างไร อาจเป็นเพราะเงินสนับสนุนจากบริษัทยาบางแห่งของต่างประเทศก็เป็นได้

ชื่นชมหัวใจตำรวจช่าง “สารวัตรใหม่” บาดเจ็บไม่หยุดภารกิจ เดินหน้าภารกิจวินาทีชีวิต
ทภ.2เร่งกู้ร่าง2ทหารกล้าจากเนิน 350 ย้ำต้องรอบคอบท่ามกลางการปะทะหนัก
เพื่อไทย เรียกร้อง กกต คุมเข้มเลือกตั้ง หลังผู้สมัคร สส แจ้งมีบุคคลใช้อำนาจข่มขู่ คุกคาม ในการหาเสียง
ไอเดียเก๋ สโมสรกีฬายิงธนูโคราช ใช้ภาพ ฮุน เซน ฮุน มาเนต ให้ลูกค้ายิงระบายอารมณ์
ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน' ประจำวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2568

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี