วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn การมีเสรีภาพนั้นเป็นของที่ดีอย่างยิ่งแต่เมื่อจะใช้ จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวังตามความรับผิดชอบ มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพ และความเป็นปกติสุขของส่วนรวมด้วย... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ วันที่ 9 กรกฎาคม 2514)...
nn หลายคนตั้งคำถามว่า เหตุใดผู้มีอำนาจดูแลรักษาพื้นที่ท้องสนามหลวง ถึงปล่อยให้กลุ่มบุคคลบางกลุ่มเข้าไปทำการอันไม่เหมาะสมในพื้นที่ดังกล่าว หรือจะพูดให้ตรงประเด็นก็คือ การปล่อยให้กลุ่มคนที่อ้างว่าต้องการปลดแอกเข้าไปวางหมุดเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง ซึ่งประเด็นนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมไทยแตกต่างหลากหลายกันไป บางฝ่ายก็บอกว่าเป็นแค่เพียงสัญลักษณ์เชิงตลกที่ต้องการจะวัดรอยเท้าของคณะราษฎร แต่บางฝ่ายก็บอกว่านี่คือปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของสังคมไทยในเชิงการเมือง ขณะที่บางฝ่ายก็บอกว่าฝังหมุดกำมะลอได้ก็สามารถรื้อออกแล้วโยนทิ้งไปได้ ไม่เห็นจะมีอะไรสำคัญ ส่วนบางฝ่ายก็บอกว่าไม่ควรให้ความสำคัญหรือให้ความสนใจกับเรื่องไร้สาระของกลุ่มคนที่อยากจะทำตัวให้กลายเป็นข่าว เพราะคนกลุ่มนี้กำลังหลงตัวเองว่าจะกลายเป็นผู้เปลี่ยนแปลงสังคมไทย แต่ไม่ว่าจะมองมุมใดก็ตามมีข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ประการสำคัญก็คือ
ผู้ที่กระทำการดังกล่าวนั้นเท่ากับฝ่าฝืนกฎหมายหลายข้อ หลายมาตราด้วยกัน เพราะฉะนั้นนับจากนี้เป็นต้นไป ก็ขอให้จับตามองให้ดีก่อนแล้วกันว่าผู้กระทำละเมิดกฎหมายจะถูกลงโทษสถานใด หรือสุดท้ายแล้วคนกลุ่มดังกล่าวจะอ้างว่าถูกบีบคั้นกลั่นแกล้งทางการเมือง แล้วหลบหนีออกนอกพระราชอาณาจักร โดยอ้างแบบเดิมๆ เหมือนคนกลุ่มเดิมๆ ว่าถูกการเมืองเล่นงาน ฉากสุดท้ายของละครการเมืองบทนี้จะจบลงในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน...
nn ภาพที่บุคคลกลุ่มหนึ่งตัดกุญแจคล้องประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แล้วยกขบวนเข้าไปในเขตมหาวิทยาลัยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ นับเป็นหลักฐานทางกฎหมายชิ้นสำคัญที่จะใช้เล่นงานกับผู้จงใจทำลายทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งก็คือทรัพย์สินของราชการได้เป็นอย่างดี แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้ที่รู้ทันกลุ่มผู้ตัดกุญแจคล้องประตูของธรรมศาสตร์ว่า สาเหตุที่เขาเหล่านั้นไม่กล้าใช้กำลังหรืออาวุธร้ายแรงใดๆ ทางประตูธรรมศาสตร์พังเข้าไป ก็เพราะเขาเหล่านั้นรู้ได้ว่าหากกระทำการด้วยความรุนแรงเกินกว่าเหตุ และจงใจทำลายทรัพย์สินของทางราชการจนทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก ก็หมายความว่าเขาเหล่านั้นต้องได้รับโทษทัณฑ์สถานหนักเช่นกัน ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงเล่นเกมเพื่อเลี่ยงกฎหมายด้วยการตัดโซ่คล้องประตูผ่านแทนที่จะใช้กำลังพังประตูเข้าไป ส่วนประเด็นที่หลายคนวิตกว่ามีคนสูงวัย แต่เป็นคนหน้าเดิมๆ ที่อาศัยคราบของนักศึกษาอิงแอบสถานการณ์นี้เข้าไปอยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าคนบางคนนั้นเข้าตำราแก่กะโหลกกะลา แต่หามีปัญญาไม่ จึงจำต้องอาศัยคราบของบุคคลอื่นเพื่อกระทำการโดยมีเป้าหมายให้เกิดความปั่นป่วนทางการเมือง คนจำพวกนี้มิใช่เป็นแค่เพียงบุคคลผู้ไร้ซึ่งความกล้าหาญแต่ยังนับได้ว่าเป็นบุคคลผู้ซึ่งไร้ปัญญาในการกระทำการใดๆ ด้วยตัวเอง ส่วนคนจำพวกนี้ถูกจ้างวานมาหรือไม่เรื่องเหล่านี้หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลสมควรจะต้องตีแผ่ความจริงเรื่องนี้ออกมาให้กระจ่างโดยเร็ว แต่ถ้าหากหน่วยงานข่าวกรองต่างๆ ของรัฐบาลไม่สามารถทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏได้รัฐบาลก็สมควรจะต้องเข้าไปจัดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและแก้ไขบุคลากรทุกระดับชั้นในหน่วยงานข่าวกรองของประเทศไทยโดยด่วนอย่างไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น...
nn มีคำถามจากสาธารณชนด้วยว่า ทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่ คำถามนี้เป็นคำถามที่ดูเสมือนว่าเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อลองหยั่งเชิงมากกว่าต้องการค้นหาความจริง เพราะวิญญูชนประจักษ์อยู่แก่ใจแล้วว่าบุคคลใดบ้างที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทางการเมืองในครั้งนี้ และคำถามนี้ก็ดูเสมือนว่าต้องการจะถามด้วยว่าใครคือผู้สนับสนุนด้านการเงินกับผู้ชุมนุมทางการเมืองในครั้งนี้ แม้จะไม่มีคำตอบชัดเจนจากปากคำของทักษิณ ชินวัตร แต่วิญญูชนก็ทราบดีว่าทักษิณรู้คำตอบในเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่คำว่ารู้คำตอบเป็นอย่างดีกับการให้เงินสนับสนุนหรือไม่อาจจะเป็นคนละประเด็นกัน ...
nn ยังคงมีเรื่องแปลกประหลาดมหัศจรรย์เกิดขึ้นในสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบว่าฝ่ายกฎหมายของไทยพีบีเอสทำเอกสารประหลาดออกมาอีกแล้ว โดยพบว่ามีการทำเอกสารเสนอไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการแต่งตั้งกรรมการนโยบายชุดใหม่จำนวน 5 คน แต่เรื่องมหัศจรรย์ยิ่งกว่าก็คือ มีตำแหน่งประธานกรรมการนโยบายทับซ้อนกันสองคน เพราะคนใหม่เข้ามา ในขณะที่คนเก่ายังไม่หมดวาระ ดูไปแล้วจึงทำให้เห็นว่ามีกรรมการนโยบายของไทยพีบีเอสรวมแล้วเป็น 14 คน ทั้งๆ ที่พระราชบัญญัติ ส.ส.ท. มาตรา 17 กำหนดให้ ส.ส.ท. มีประธานกรรมการนโยบายเพียงหนึ่งคน และมีกรรมการนโยบายอีกแปดคน รวมทั้งหมดคือเก้าคน แต่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการนโยบายชุดใหม่จำนวนห้าคน ที่จะเข้ามาแทนชุดเก่า โดยมีวาระสี่ปีนับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 แต่ที่มหัศจรรย์คือประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเดิมที่แต่งตั้งกรรมการนโยบายชุดเก่าจำนวนห้าคนซึ่งมีวาระสี่ปี นับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559 จึงถือว่ามีผลตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2559 จนถึง 27 กันยายน 2563 แต่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับใหม่ที่ประกาศแต่งตั้งกรรมการนโยบายชุดใหม่ห้าคน ซึ่งประกาศวันที่ 17 กันยายน 2563 จึงมีวาระการบังคับตั้งแต่ 17 กันยายน 2563 ถึง 16 กันยายน 2567 ประเด็นนี้จึงทำให้เห็นว่าในขณะที่กรรมการนโยบาย เก่ายังไม่หมดวาระ ก็ได้มีการแต่งตั้งกรรมการนโยบายชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ จึงถือได้ว่าเป็นการทำหน้าที่หรือดำรงตำแหน่งซ้ำซ้อนกัน อันมีผลขัดต่อมาตรา 17 ตามที่ได้ระบุไว้แล้วในข้างต้น เรื่องนี้คนภายนอกอาจจะดูแล้วไม่เห็นว่าสลักสำคัญแต่อย่างใด แต่สำหรับคนที่รู้และเข้าใจหลักกฎหมายต่างตั้งข้อสังเกตและหัวเราะเยาะกันอย่างยกใหญ่ จนทำให้เกิดคำถามตามมาว่าสรุปแล้วไทยพีบีเอสมีประธานกรรมการนโยบายสองคนในเวลาเดียวกันใช่หรือไม่ หรือว่าไทยพีบีเอสยึดนโยบายเหมือนประเทศกัมพูชาในสมัยที่มีนายกรัฐมนตรีซ้อนกันสองคนในเวลาเดียวกัน แต่เมื่อเรื่องนี้แดงโร่กันมา ก็ส่งผลให้ต้องมีการแก้ไขข้อความที่คลาดเคลื่อนแล้วเร่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยแก้เป็นว่าทั้งนี้ ให้กรรมการนโยบายที่ได้รับแต่งตั้งมีวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปีนับตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2563...
nn ต้องย้ำและย้ำและย้ำให้สาธารณชนได้รับรู้ว่ามีเรื่องประหลาดมหัศจรรย์เกิดขึ้นในไทยพีบีเอสเสมอๆ แม้กระทั่งในเรื่องการรับสมัครบุคลากรเข้าทำงานในองค์กรแห่งนี้ ก็ยังเกิดเรื่องมหัศจรรย์ตลอดเวลา เพราะตำแหน่งที่เปิดรับสมัครบางตำแหน่งไม่มีบุคคลใดสอบผ่านการคัดเลือกได้ทำงานในตำแหน่งนั้น แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่ามีบุคคลบางคนสามารถเข้าไปทำงานในตำแหน่งที่ไม่เคยมีการประกาศรับสมัครสอบได้ นี่คือตัวอย่างของความมหัศจรรย์ในไทยพีบีเอส
ในยุคที่มีประธานกรรมการนโยบายชื่อ จุมพล รอดคำดี มาถึงยุคนี้ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง มาทำหน้าที่แทนจุมพล ก็ต้องรอดูว่าเจิมศักดิ์จะเข้าไปรื้อล้างและทำความสะอาดในไทยพีบีเอสได้หรือไม่...
nn ส่วนที่มีคำถามว่าแล้ว อนุสรณ์ ธรรมใจ สามารถผ่านเข้าไปรับตำแหน่งกรรมการนโยบายด้านการบริหารจัดการองค์กรไทยพีบีเอสได้อย่างไร ก็มีผู้ตอบว่าไม่ต้องสนใจหรอกว่าเข้าไปได้อย่างไร เพราะเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะทำงานได้ดีและมีประสิทธิผลเพียงใด หลายคน บอกว่าสามารถคาดเดาได้ล่วงหน้าว่าผลจะออกมาเช่นอะไร พร้อมกับมีเสียงหัวเราะที่ค่อนข้างยาวตามมาเป็นระลอกๆ...nn
ธรรมกร

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี