บ่ายวันศุกร์ที่แล้ว 2 ตุลาคมได้ข่าวว่า ทรัมป์และภริยาติดโควิด-19

ต้องเช็คข่าวว่า เป็นจริงหรือไม่ ในที่สุดก็จริง

ก่อนจะติดโควิด-19 ทรัมป์ไม่สนใจเรื่องโควิด-19โจมตีว่า มาจากจีน เรียกว่า Chinese Virus ไม่ยอมรับความจริงแม้จะเป็นความผิดพลาดของเขาเพราะไม่เชื่อในวิทยาศาสตร์

ทรัมป์ต้องเข้าโรงพยาบาลวอลเตอร์ รีด (WalterReed) อยู่ 3 คืน บัดนี้ออกมาแล้ว และ 5 วันที่ผ่านมามีเรื่องสงสัยมากติดโรคยังสร้างภาพให้เป็นผลดีทางการเมืองไม่พูดความจริง

เปรียบเทียบกับการทำงานของรัฐบาล และการแพทย์ของไทยและความร่วมมือของคนไทย เป็นบทเรียนที่ดีต่อโลก ได้เห็นว่า อเมริกาล้มเหลว และประเทศไทยสำเร็จอย่างไร แต่ก็ยังต้องระวังไม่ให้มีการระบาดรอบ 2และต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่อไป

หลายคนรู้นิสัยของทรัมป์ว่า โรคนี้ไม่อันตรายไม่ยอมทำตามกฎของการแพทย์ ไม่ใส่หน้ากากอนามัย ไม่เว้นระยะห่างทางสังคม ทั้งๆ ข้อเท็จจริงในหนังสือ Rage ของ Woodward ทรัมป์ให้สัมภาษณ์พร้อมทั้งมีหลักฐานยืนยันว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เขาให้สัมภาษณ์ Woodward ว่า โรคนี้ติดต่อง่ายทางอากาศและรุนแรงมาก เขาไม่บอกความจริงต่อคนในสหรัฐอเมริกา กลัวจะเสียคะแนนซึ่ง

-พอมีปัญหา ก็เล่นการเมือง เช่น โจมตีคนใส่หน้ากากว่า เป็นศัตรูทางการเมือง ไม่เหมาะกับวัฒนธรรมของอเมริกา

โดนัลด์ ทรัมป์ หาเสียงเมื่อวันพุธ ตอนที่ยังไม่มีการแถลงข่าวว่า เป็นโควิด-19 หรือไม่

ไม่สนใจจะร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศ เช่น WHO และยังถอนตัวออกในการแก้ปัญหาร่วมกัน

สนใจแต่คะแนนนิยม รีบเปิดประเทศเร็วเกินไปให้เศรษฐกิจกลับมาหวังเศรษฐกิจจะช่วยในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ครั้งที่ 2 ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้

8 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขโควิด-19ในอเมริกาสูงมาตลอด บางช่วงอาจจะลดลงบ้าง แต่ ณ วันนี้ ยังมีผู้ป่วยต่อวันเฉลี่ย 40,000 คน คนตายเกือบ1,000 คนทุกวัน รวมคนตาย 210,000 คน ผู้ป่วยกว่า 7 ล้านคนเศร้าใจมากสำหรับประเทศที่เจริญที่สุด

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ เช่นDr. Fauci และ Dr. Birx ที่ทรัมป์เคยเชิญเป็นที่ปรึกษา ถูกลดบทบาทเพราะพูดความจริง ทรัมป์ไม่ชอบพูดความจริง

ช่วงที่ทรัมป์ติดโควิด-19 น่าสนใจ

รู้แน่ๆ ว่า ติดตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดี 1 ตุลาคม

วันพุธที่ 30 กันยายน ก่อนหน้านั้น ยังไปหาเสียงพบผู้สนับสนุนทางการเมือง ทรัมป์อาจจะติดโรคแล้ว

วันอังคารที่ 29 กันยายน แถลงข่าวแนะนำผู้พิพากษาสูงคนใหม่ชื่อ Amy Coney Barnett มีภาพที่ทำเนียบขาว ไม่มีใครใส่หน้ากาก และไม่เว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งสงสัยว่า ทรัมป์อาจติดโควิด-19 แล้ว และแพร่เชื้อกว่า 10 คน มีวุฒิสมาชิก 3 คน คาดว่า ทรัมป์ไม่ได้ตรวจโควิด-19 ทุกๆ วัน

เขาเชื่อว่า ยังแข็งแรงไม่ติดโรคแน่นอน ไม่เคยนึกถึงคนอื่นๆ ที่อยู่ด้วย ต้องเสี่ยงมาก

อ้างว่า Test ทุกวัน มีผู้เชี่ยวชาญสังเกตว่า ถ้า Test ทุกวัน พอผู้สื่อข่าวถาม Test Negative ล่าสุดเมื่อไร ก็ตอบไม่ได้

ผู้สื่อข่าวคิดว่า ทรัมป์อาจติดโควิด-19 ก่อนคืนวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม เพราะ Hope Hicksที่ปรึกษาของเขาแจ้งให้ทราบว่า เธอติดโควิด-19 ตั้งแต่วันพุธที่ 30 กันยายนแล้ว

แต่พฤหัสบดี ทรัมป์ยังไปพบผู้สนับสนุนไม่แจ้งว่าตนเองผลตรวจเป็นลบเมื่อไร ตอบไม่ได้จึงไม่แปลกใจว่าคนทำงานของทรัมป์ติดกันกว่า 10 คน ไม่น่าเชื่อว่า ผู้นำของโลกจะไม่นึกถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมงานและแขกที่มาเลย

ในวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม เข้าโรงพยาบาล Walter Reed มีข่าวสับสนมากว่า อาการเป็นอย่างไร ให้ออกซิเจนหรือเปล่า อาการก่อนเข้าโรงพยาบาลรุนแรงแค่ไหน แต่ไม่ตอบผู้สื่อข่าว ทำให้ผู้คนสับสนมาก

แค่ 3 วัน ออกมาจากโรงพยาบาล กลับทำเนียบขาวแล้ว

มาตรฐานการแพทย์สากล ต้องกักกันอย่างน้อย 14 วัน นี่แค่ 3 วัน ออกจากโรงพยาบาลมาทำงานที่ทำเนียบขาว โดยไม่เกรงใจว่า ทีมงานรับอันตรายจากการแพร่ระบาดหรือไม่ ในระหว่างอยู่โรงพยาบาล ยังออกมานั่งรถให้ผู้สนับสนุนได้ชื่นชมโดยไม่เกรงใจพวกหน่วยรักษาความปลอดภัยและคนขับรถว่า จะติดเชื้อหรือไม่

อาจเป็นพาหะให้ผู้ร่วมงานหรือทีมของเขาติดได้แน่นอน

โดนัลด์ ทรัมป์ ตอนอยู่โรงพยาบาล ออกมาทักทายผู้สนับสนุนโดยไม่เกรงใจว่า จะแพร่เชื้อให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัย

กลายเป็นเรื่องทางการเมืองว่า ทรัมป์จะเล่นตลกกับโควิด-19 เพื่อทำให้คนเห็นใจชื่นชมว่า เขาแข็งแรงสู้กับโควิด-19 ได้ เพื่อผลทางการเมืองแลกกับความเป็นความตายของผู้คนจำนวนมาก

เทียบความสำเร็จของไทยในเรื่องโควิด-19 มีหน่วยงานความมั่นคงและการแพทย์ประชุมทุกสัปดาห์ แก้ปัญหาได้ดี Test (ตรวจ),Track ค้นหา และ Trace คือ ตามหาผู้เสี่ยงเหล่านั้นไปเพื่อกักกัน ทำงานเป็นทีม ยังมีเครือข่าย อสม.ทั่วประเทศ รู้หมดว่า ผู้เสี่ยงสูงมีใครบ้าง

ในขณะที่อเมริกา มีผู้ป่วย ไม่มีการกักกัน สร้างการแพร่กระจายมากมายเพราะไม่มี Test, Track และ Trace ของรัฐ ต่างคนต่างทำ ไม่มีระบบรวมแบบไทย การแพทย์ไทยเข้มแข็ง ใช้ศาสตร์พระราชา “เข้าใจ เข้าถึงพัฒนา” มีสมเด็จพระราชบิดา คือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงเป็นพระบิดาของการแพทย์ไทย มีโรงเรียนแพทย์ดีๆ เช่น ศิริราช มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีและคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี เป็นต้น

ความสำเร็จของไทยต้องถือว่า เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ในการแก้โควิด-19

คุณประยุทธ์จะถูกโจมตีมากแค่ไหนหากจัดการโควิด-19 ไม่สำเร็จ

ผลงานของไทยเป็นที่ประจักษ์ทั่วโลก

คนไทยควรจะยกย่องผลงานโควิด-19 ของไทยด้วย ไม่ใช่โจมตีทุกๆ อย่างว่า รัฐบาลล้มเหลว ข้อดีของการแก้โควิด-19 ของรัฐบาลก็ต้องยกย่องกันบ้าง

จีระ หงส์ลดารมภ์

dr.chira@hotmail.com