“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” รับหน้าที่ “ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง” รายงานข้อเท็จจริงทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง และกีฬาที่น่าสนใจ ผ่าน “บุคคลแนวหน้า” เริ่มต้นด้วยนโยบาย “เปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจชาติ” ของ “ไต้ก๋งเรือแป๊ะ” ที่ประกาศผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยได้อย่างมีเงื่อนไขโดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ซึ่งจะเริ่มต้นอย่างน้อย 10 ประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน สร้างเสียงตอบรับและคัดค้านคละเคล้ากันไป...
nn ล่าสุด นักการเมืองชังชาติออกอาการออทิสติกแสดงตรรกะ “อีเดียต, บ้องตื้น” กล่าวหาทหารแก่มุ่งเน้นคำนึงแต่ปัญหาเศรษฐกิจชาติ โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนในชาติในกรณีประกาศเป้าหมายเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ “ไม้หน้าสาม” จำได้ว่า... เมื่อปีที่แล้วโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) แพร่ระบาดจากการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งฝ่ายพลเรือนและฝ่ายความมั่นคงจนเกิดการลักลอบการนำเข้าแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานใช้แรงงานในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายที่ตลาดกลางกุ้งมหาชัย สมุทรสาคร หลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนัก รัฐบาลออกมาตรการ “เจ็บแล้วจบ” เลือกใช้วิธีปิดประเทศ เกิดปัญหาปากท้องชีวิตความเป็นอยู่ กิจการหลายประเภท “หายนะ!!” โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs รัฐบาลต้องกู้เงินจำนวนมหาศาลมาเยียวยา นักการเมืองชังชาติก็ออกมาแสดงภูมิปัญญาตำหนิมาตรการดังกล่าวที่สามารถสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ ท่ามกลางกระแสความชื่นชมระบบสาธารณสุขจากนานาอารยประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วจากความร่วมมือของสังคมไทย บุคลากรทางการแพทย์ และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลบริหารงานผิดพลาดทำให้เศรษฐกิจของชาติได้รับความเสียหายอย่างหนักจนต้องมาออกกฎหมายขอกู้เงินผ่านรัฐสภา...ความสับปลับเป็นไม้หลักปักขี้ควายนอกจากหวังผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างเดียวไม่คำนึงถึงความสับสนของสังคมไทย นี่ถ้านักการเมืองชังชาติเหล่านี้มีอำนาจในการบริหารประเทศชาติบ้านเมืองคงสร้างความเสียหายแก่สังคมไทยไม่น้อยกับการตลบตะแลงพลิกไปแพลงมาเยี่ยงนี้ มีความสุขกับการเดินกลืนกินเศษอาจมข้างทางที่กลุ่มก้อนตนเองสำรอกสำรากไว้อย่างเมามันส์...
nn แต่การประกาศเป้าหมายอย่างชัดเจนที่จะเปิดประเทศครั้งนี้ แน่นอนย่อมต้องผจญกับความกังวลในความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่อีกครั้งก็เป็นได้ หากยังมีผู้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงส่วนรวม กระทำการอันน่ารังเกียจอย่างที่ผ่านมาจนทำให้สังคมไทยเกิดความเดือดร้อนไปทุกข์หย่อมหญ้า ฉะนั้นนี่คือการส่งต่อไม้ผลัดสุดท้ายที่จะทำให้เศรษฐกิจของชาติทะยานเข้าสู่เส้นชัย ทีมไทยแลนด์จึงไม่สามารถนิ่งเฉยต่อภารกิจนี้ได้ ไม่ใช่แค่การเป็นเจ้าบ้านที่น่ารักอ่อนหวาน แต่ต้องเป็นเจ้าบ้านที่มีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัดการ์ดไม่ตกพกพาสติสัมปชัญญะทุกวินาทีเพื่อปราศจากการแพร่ระบาดหากมี “พาหะ” เล็ดลอดเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่เช่นนั้น “หายนะ!! จะกลับมาแทนที่ความสงบสุขของสังคมไทย”...
nn “ไม้หน้าสาม” ไม่เข้าใจ “รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” การเปิดประเทศไม่ใช่ยกเลิกการกักตัวตามมาตรการเข้มข้นก่อนหน้านี้ ทว่ามาตรการรองรับอื่นๆ ต้องชัดเจน เพื่อให้นักท่องเที่ยวนักธุรกิจต่างชาติที่จะเดินทางมา “ราชอาณาจักรไทย”ได้ศึกษาประเมินสถานการณ์ อาทิ มาตรการเคอร์ฟิวจะดำเนินการอย่างไร อย่าลืมว่าเที่ยวบินจากยุโรปก็ดี ในเอเชีย จากตะวันออกกลาง, จากเอเชียตะวันออกจากทวีปอเมริกาเหนือ ทั้งสหรัฐอเมริกา และแคนาดา โดยส่วนใหญ่จะถึงท่าอากาศยานกรุงเทพสุวรรณภูมิกลางดึกแทบทั้งสิ้น ในขณะที่กรุงเทพมหานครมีเคอร์ฟิว นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะเดินทางจากท่าอากาศยานไปยังโรงแรมที่พักอย่างไร รวมทั้งท่าอากาศยานนานาชาติในต่างจังหวัดด้วยเช่นกัน รัฐบาลจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวสร้างรายได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างไร หากไม่มีความพร้อมไม่มีมาตรการรองรับ... ในโรงแรมในร้านอาหารดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือไม่ เรื่องเหล่านี้รัฐบาลบอกว่าเป็นมาตรการผ่อนคลายระยะสุดท้าย จะเริ่มพิจารณาให้มีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในราวต้นเดือน“ธันวาคม หรือ 30 วัน หลังจากดีเดย์เปิดประเทศ” ข้อมูลเหล่านี้รัฐบาลต้องเตรียมให้พร้อมก่อนที่จะประกาศเป้าหมายการเปิดประเทศมิใช่หรือ... Look Forward คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการอย่างยิ่ง เขาจักได้เตรียมตัวปฏิบัติตนตามข้อมูลที่ได้รับ คิดออกตกผลึกค่อยแถลงการณ์ก็ยังไม่สายนะลุงตู่...nn และเมื่อถึงเวลาพิจารณาผ่อนคลายให้ร้านอาหารสถานบันเทิงสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ รัฐบาลก็ต้องเตรียมข้อมูลพร้อมตอบเสียงกล่าวหาโจมตีเอื้อนายทุนไว้ให้พร้อม “ไต้ก๋งเรือแป๊ะ” ต้องไม่ลืมว่าตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีมูลค่ามหาศาล ... “ไม้หน้าสาม” หยิบยกมาให้พิจารณาเฉพาะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะเห็นว่ามูลค่าการตลาดในปี 2562 (ก่อนเกิดโควิด-19) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีมูลค่าการตลาดอยู่ที่ 370,000 ล้านบาท ต่อมาในปี 2563 เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ค่าการตลาดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดระดับลงเหลืออยู่ราว 270,000 ล้านบาท ซึ่งคาดกันว่าปี 2564 ที่รัฐบาลมีมาตรการห้ามดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารค่าการตลาดจะเหลืออยู่ราว 200,000 ล้านบาท ดังนั้นนโยบายเปิดประเทศและการประกาศพิจารณาผ่อนคลายให้สามารถดื่มและจำหน่ายแอลกอฮอลล์ในร้านได้คงเสมือนการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มเจ้าสัวนายทุนรัฐบาลอย่างแน่นอน...
nn ตาม “ไม้หน้าสาม” ไปติดตามประเด็นการเมืองกันบ้าง ในความเคลื่อนไหวบนถนนการเมือง แม้จะยังไม่มีการส่งสัญญาณแน่ชัดถึงการยุบสภาคืนอำนาจประชาชนให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่นักเลือกตั้งที่ขานอ้างตัวเองว่านักประชาธิปไตยและพรรคการเมืองเฉพาะกิจที่ไร้อุดมการณ์ อุดมคติร่วมผุดราวดอกเห็ดต่างก็ออกมาคาดการณ์วิเคราะห์การเลือกตั้งตั้งแต่ไก่โห่ มีการจัดทำโพลล์ประเมินผลงาน “สส.” กันเสียแล้ว กลยุทธ์-พลังดูด ทั้งบนดินใต้ดินถูกนำมาใช้อย่างเป็นระบบแบบแผน 28 พ.ย.นี้ ได้ฤกษ์งามยามดีเลือกตั้งผู้บริหารองค์กรท้องถิ่นระดับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม้กฎหมายจะห้ามผู้สมัครสังกัดพรรคการเมือง ทว่าในทางปฏิบัติก็เป็นที่เข้าใจดีว่า เด็กใครพรรคไหนส่งลงสมัครฯ “ไม้หน้าสาม” นึกถึงวลีที่ว่า “ผู้แทนเป็นอย่างไร...ประชาชนก็เป็นเช่นนั้น” ดังนั้นก่อนที่จะมอบอำนาจให้ใครไปทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ก็ควรจะมั่นใจว่าจะไม่ควรสนับสนุนการจูงฝูง “วรนุส” เข้าสู่อำนาจ!!! เรตติ้ง ณ เวลานี้เขาชี้วัดว่าพรรคใดจะสามารถครองใจประชาชนได้จาก “โพลล์-ภาษีรายได้พรรคกันแล้ว” ดูเหมือนว่า “พรรคก้าวไกล” จะมาเป็นลำดับที่ 1 ได้เงินบริจาคภาษีมากกว่า 10 ล้านบาท เหลียวหน้าแลหลังพรรคเพื่อไทยของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เดินเกมพลาดจนพ่ายให้กับพรรคพลังประชารัฐ วันนี้ ฉบับหน้ามาติดตามกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองท้องถิ่นพื้นที่ “นครพนม” ที่มีสาวหนุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงบริหารอยู่ มีมือระรัวร้องเรียน “ไอ้โม่ง” วางอำนาจบาตรใหญ่ล้วงลูกใน “องค์การบริหารส่วนจังหวัด” จนข้าราชการประจำ ระส่ำกลายเป็นกระโถนรองอารมณ์นักการเมืองโอปปาติกะ... “สหายแสง – ศุภชัย โพธิ์สุ” รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ลำดับสส.ภูมิใจไทย สละเวลาไปตรวจตราอบรมสั่งสอนสักหน่อยจักดีไหม ไปดูกระดุมเม็ดแรกที่“นายกขวัญ – ศุภพานี โพธิ์สุ” ติดผิดคืออะไรไปปลดคลายออกอาการดีขึ้นค่อยว่ากันใหม่ก็ไม่สายไม่ใช่หรือ...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี